• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ยาวิเศษ

ฉบับนี้ได้นำเสนอเรื่องราวของคุณสมพร วัชระศิลป์ พยาบาลแห่งโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช (นครหลวง) ผู้มีฉันทะในการออกกำลังกายและเปี่ยมด้วยจิตอาสา เป็นแกนนำในการก่อตั้งชมรมรักสุขภาพบึงพระราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีการพัฒนาเติบใหญ่และยั่งยืนมาตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา มีการขยายสมาชิกจากเริ่มต้นเพียงไม่กี่คนจนเป็นร่วมพันคนและกระจายสู่ครอบครัวและเยาวชน มีการแตกแขนงกิจกรรมจากการรำมวยจีน รำพัด เป็นการออกกำลังหลากหลายรูปแบบ รวมทั้งกิจกรรมด้านสุขภาพ สังคม และคุณภาพชีวิต ครบวงจรสมกับชื่อชมรม

ตรงนี้ทำให้คิดถึงสิ่งที่ผู้คนทั่วไปมักไขว่หามาทำให้ตัวเองมีสุขภาพแข็งแรงและอายุยืนดังที่เรียกว่า "ยาวิเศษ"

มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ลงทุนซื้ออาหารเสริมราคาแพงมากิน บางคนกินเม็ดยาอาหารเสริมมื้อละเป็นกำมือ

บางคนซื้ออุปกรณ์เสริมสุขภาพที่โฆษณาอวดอ้างเกินจริง สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ช่วยส่งเสริมสุขภาพคุ้มกับราคาที่ต้องลงทุนมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ายังมีความประมาทในการดำเนินชีวิต เช่น บริโภคจนน้ำหนักเกินหรือลงพุง นอนหลับพักผ่อนน้อย เครียด กินเหล้าเมายา เที่ยวกลางคืน  ขี้เกียจออกกำลังกาย เป็นต้น

จริงๆ แล้ว เราสามารถส่งเสริมสุขภาพให้ดีด้วยหลักปฏิบัติง่ายๆ และประหยัด คือ หลัก 4 อ. ได้แก่ อาหาร ออกกำลัง อารมณ์ และ (หลีกเลี่ยง) อันตราย ดังที่ได้นำเสนอในหมอชาวบ้านตลอดมานั่นเอง

ถ้าจะเรียกหายาวิเศษ การออกกำลังนั่นแหละเป็นยาวิเศษ ดังเพลงกราวกีฬาที่ว่า "กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ"

เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่า การออกกำลังมีผลดีต่อร่างกายและจิตใจ ทำให้ร่างกายแข็งแรง ช่วยป้องกันและบรรเทาการเจ็บป่วยต่างๆ ทั้งโรคติดเชื้อ (ไข้หวัด เจ็บคอ) โรคภูมิแพ้ (โรคหวัดภูมิแพ้หรือแพ้อากาศ ลมพิษ หอบหืด) โรคภูมิต้านตนเอง (แผลแอฟทัสหรือร้อนใน ปวดข้อเรื้อรัง) เบาหวาน ความดันเลือดสูง ไขมันในเลือดสูง โรคกระเพาะ เป็นต้น

ผู้ที่ออกกำลังเป็นประจำมักมีสุขภาพจิตดี นอนหลับสบาย อารมณ์แจ่มใส ไม่เครียด(ความเครียดเป็นบ่อเกิดของโรคทางกายมากมาย)

การออกกำลังยังกระตุ้นให้ต่อมใต้สมองหลั่งสารเอนดอร์ฟินส์ ซึ่งได้ชื่อว่าสารสุข ทำให้สดชื่น กระปรี้กระเปร่า คลายปวด ภูมิคุ้มกันโรคดีอีกด้วย

แม้ว่าผู้คนยอมรับว่าการออกกำลังเป็นสิ่งดี แต่อุปสรรคที่กีดขวางการออกกำลังก็คือ ความประมาทและความขี้เกียจ

ในที่ประชุมฟังการบรรยายของบุคลากรสาธารณสุขครั้งละหลายร้อยคน ผมมักจะสำรวจว่ามีสักกี่คนที่ออกกำลังกายประจำ มักพบว่ามีอยู่ไม่ถึงร้อยละ 5 ทั้งๆ ที่ทุกคนรู้ว่าการออกกำลังเป็นสิ่งดี หลายคนมีข้ออ้าง เช่น งานยุ่ง ไม่มีเวลา แต่เมื่อไล่ถามเหตุผลที่แท้จริง ก็ยอมรับว่าเพราะความประมาทและความขี้เกียจนั่นเอง

ยาวิเศษอีกขนานหนึ่งก็คือ การหัวเราะ ดังคำภาษิตฝรั่งที่ว่า "Laughter is  the  best medicine" ซึ่งแปลว่า "หัวเราะเป็นยาที่ดีที่สุด (ยาวิเศษ)"

นายนอร์แมน คูซินส์ (Norman Cousins) ชาวอเมริกันได้เขียนหนังสือชื่อ "Anatomy of illness"  เล่าว่าตัวเองมีอาการเจ็บปวดทรมานจากโรคข้อสันหลังอักเสบเรื้อรัง (ซึ่งเกิดจากภาวะภูมิต้านตนเอง) ได้ใช้วิธีดูหนังตลก หัวเราะ 10 นาที ช่วยให้หายปวดและนอนหลับสนิทได้นาน 2 ชั่วโมง

ที่อินเดียมีผู้คนมากมายนิยมรวมกลุ่มกันออกกำลังในสวนสาธารณะโดยการปฏิบัติ "โยคะหัวเราะ (Laughter yoga)"

ในบ้านเราก็มีการจัดการฝึกอบรมการหัวเราะเพื่อสุขภาพ
การหัวเราะช่วยให้หายใจลึก เพิ่มการไหลเวียนเลือด ชีพจรเต้นเร็วขึ้น เพิ่มการเผาผลาญ  มีการหลั่งสารสุข อารมณ์ดี คลายเครียด จึงเชื่อว่ามีผลดีต่อสุขภาพกายและจิตเช่นเดียวกับการออกกำลัง

การออกกำลังและการหัวเราะจึงได้ชื่อว่ายาวิเศษ
 

ข้อมูลสื่อ

370-002
นิตยสารหมอชาวบ้าน 370
กุมภาพันธ์ 2553