• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

จิตอาสาพาสร้างสุข

นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ
จิตอาสาพาสร้างสุข

"ตั้งแต่มาทำงานจิตอาสาที่โรงพยาบาล ๖ เดือน รู้สึกว่าสุขภาพของตัวเองดีขึ้น น้ำหนักลดจาก ๗๕ กิโลกรัม เหลือ ๖๘ กิโลกรัม ความดัน ไขมันในเลือด ที่เคยสูงก็คุมได้เป็นปกติ กลางคืนนอนหลับสบาย ที่สำคัญคือใจเย็นลง มีความอดกลั้นมากขึ้น อยู่กับครอบครัวด้วยความสงบสุข และอบอุ่นขึ้น..."

คุณทองหล่อ อภินันท์รัตนกุล วัย ๕๘ ปี ซึ่งเป็น เถ้าแก่โรงสีแห่งหนึ่งในอำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี พูดถึงอานิสงส์ของการทำงานจิตอาสาด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสุขและความภูมิใจ

โรงพยาบาลอำเภอหนองแค ซึ่งเป็นโรงพยาบาลชุมชนขนาด ๖๐ เตียง ได้จัดทำโครงการจิตอาสา โดยเชิญชวนประชาชนทั่วไปมาทำงานอาสาสมัครช่วยเหลือ งานของโรงพยาบาล เช่น พับผ้าก๊อซทำแผล ซักผ้า เยี่ยมปลอบขวัญและให้กำลังใจผู้ป่วย ประชาสัมพันธ์และช่วยเหลือผู้ป่วยที่มารับบริการที่ห้องตรวจผู้ป่วย เป็นต้น
ที่โดดเด่นก็คือ มีอาสาสมัครวัย ๘๖ ปี ชื่ออาจารย์สมศักดิ์ อยู่พร้อม อดีตข้าราชการครูของอำเภอนี้ได้มาร่วมโครงการจิตอาสาของโรงพยาบาลตั้งแต่แรก ทุกเช้าจะขี่จักรยานจากบ้านเป็นระยะทาง ๗ กิโลเมตร มาประจำอยู่ที่แผนกห้องตรวจผู้ป่วยนอก

แผนกนี้มีผู้ป่วยมานั่งรอพบแพทย์จำนวนมาก มีความวุ่นวายโกลาหล ผู้ป่วยและญาติมักมีความกังวล หงุดหงิด บ้างก็อารมณ์เสียหรือรู้สึกไม่พอใจ หากรู้สึกว่าได้รับการบริการที่ไม่เหมาะสม

คุณปู่สมศักดิ์ ได้เสนอแนะทางโรงพยาบาล ขอนำสวดมนต์ที่แผนกนี้ โดยทุกเช้าก่อนแพทย์ให้บริการตรวจผู้ป่วย คุณปู่จะนำผู้ป่วยและญาติ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลสวดมนต์พร้อมกันเพื่อให้จิตใจสงบ สามารถลดความวุ่นวายโกลาหล สร้างบรรยากาศสมานฉันท์ของการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ให้บริการและผู้รับบริการ ได้อย่างมาก

หลังจากสวดมนต์เสร็จ คุณปู่ก็ช่วยเหลือประสานงานทั่วไป ต้อนรับและแนะนำผู้ป่วยในการเข้ารับบริการ ช่วยให้ผู้รับบริการมีความเข้าใจขั้นตอนการรับบริการและรู้สึกพึงพอใจต่อการทำงานของแพทย์และเจ้าหน้าที่

คุณทองหล่อ เถ้าแก่โรงสี แต่เดิมเป็นเพียงผู้มาใช้บริการคนหนึ่ง ได้เห็นแบบอย่างการทำงานจิตอาสาของคุณปู่สมศักดิ์ ก็รู้สึกประทับใจและเกิดแรงบันดาลใจขอเข้าร่วมกิจกรรมนี้ด้วย

"เดิมทีตอนเช้าผมจะมีเวลาว่าง ก็ได้แต่นั่งดูทีวี   กินขนม หายใจทิ้งไปเปล่าๆ ทุกวันนี้ผมจะขับรถมาที่โรงพยาบาล ช่วยเหลืองานที่ห้องตรวจผู้ป่วยนอกคู่กับอาจารย์สมศักดิ์จนถึงเที่ยง ค่อยกลับไปทำงานที่โรงสีช่วงบ่าย..."

คุณทองหล่อจะตรวจตราดูความเรียบร้อย หากพบว่ามีผู้ป่วยคนใดมีปัญหาในการใช้บริการ ก็จะเข้าไป แนะนำช่วยเหลือ อย่างผู้ป่วยที่สูงอายุ ก็จะพาไปส่งที่คิวรถหน้าโรงพยาบาล บางครั้งพบว่าผู้ป่วยไม่มีค่ารถกลับบ้านก็จะออกค่ารถให้ผู้ป่วย

เขารู้สึกภูมิใจและเป็นสุขที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น รู้สึกปีติที่ได้รับคำชมและขอบคุณทั้งจากผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ โรงพยาบาล ทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าอย่างไม่เคย   รู้สึกมาก่อนเพื่อนฝูงที่เป็นนักธุรกิจด้วยกันบางคนก็รู้สึกชื่นชม ในการทำงานจิตอาสาของเขา พร้อมทั้งกล่าวชมว่าหน้าตาเขามีความอิ่มสุขมากกว่าเดิม แต่บางคนก็หาว่าเขา "บ้า" ทีทำแบบนี้จะได้อะไร
"ผมตอบเขาว่า ผมได้ความสุข เป็นความสุขที่เงิน ก็ซื้อไม่ได้ ผมรู้สึกว่าที่ผมทำนี้ก็ทำเพื่อตัวเอง คือสร้างความสุขให้ตัวเอง"
คุณทองหล่อยังเล่าว่า ที่น้ำหนักลดได้ เพราะตั้งแต่มาเป็นจิตอาสาได้ ๖ เดือน มีการออกแรงเคลื่อนไหว เดินไปมาตลอดเวลา ๔ ชั่วโมงที่ทำงานอยู่โรงพยาบาล แทนการนั่งๆ นอนๆ ดูทีวีอยู่ที่บ้าน และได้งดการ      กินขนมและของว่างลงไป ทำให้น้ำหนักลดไปได้ถึง ๗ กิโลกรัม พลอยทำให้สามารถควบคุมความดันและไขมัน ในเลือดสูงไปในตัว

นอกจากนี้ ยังส่งผลให้คุณทองหล่ออยู่ร่วมกับภรรยาและบุตรได้อย่างมีความสุขมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้เป็นเพราะมีความเข้าใจผู้อื่นและรู้จักอดกลั้นได้มากขึ้น เนื่องจากได้เห็นความทุกข์ยากลำบากของผู้ป่วยและต้องเข้าไปช่วยเหลือด้วยความเห็นอกเห็นใจและลดความเป็นตัวตนของตัวเองลงไป
"ผมมาคิดว่าในเมื่อผู้อื่นเรายังสามารถเข้าใจและให้การช่วยเหลือเขาได้ กับภรรยาและบุตรทำไมจึงให้ความรักความเข้าใจ และเอื้ออาทรเขาไม่ได้หรือ เวลานี้จึงกลายเป็นคนใจเย็น ไม่ใช้อารมณ์กับคนใกล้ชิด ครอบครัวจึงมีความกลมเกลียว อบอุ่น"

จิตอาสา ย่อมพาสร้างสุข ทั้งกาย ใจ และการอยู่ร่วมกับผู้อื่น 

 

 

ข้อมูลสื่อ

348-002
นิตยสารหมอชาวบ้าน 348
เมษายน 2551
รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ