• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

สร้างผิวสวยด้วยอาหาร

ผิวสวย หน้าใส
นพ.ประวิตร พิศาลบุตร

สร้างผิวสวยด้วยอาหาร

ทั้งรูปแบบการกินและรูปแบบการดำรงชีวิต ตลอดไปจนถึงพันธุกรรม เหล่านี้มีผลต่อการแก่ของผิวหนังทั้งนั้น แต่เนื่องจากเราเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมไม่ได้ จึงต้องหันมาสนใจดูแลร่างกายโดยเน้นที่อาหารแทน

การกินอาหารกับผิวสวย
ข้อแนะนำการกินอาหารเพื่อให้ผิวสวยมีดังนี้
๑. ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ ๘ แก้ว จะเป็นการช่วยชำระของเสีย  และสารพิษต่างๆ ออกจากร่างกาย
๒. ลดอาหารไขมันสูงและอาหารที่ให้แคลอรีสูง

พบว่าอาหารที่มีไขมันสูงจะทำให้เกิดโรคหัวใจ  และมะเร็งได้ มีงานวิจัยชี้ว่าอาหารไขมันสูงอาจก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ เพราะอาหารไขมันสูงทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายต่ำ มะเร็งจึงมีโอกาสเกิดง่ายขึ้น

เมื่อคนเรามีวัยสูงขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายจะค่อยๆ สูญเสียกล้ามเนื้อหรือความแข็งแรงของกล้ามเนื้อไป เหล่านี้ ทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีและไขมันน้อยลง ทำให้ต้องกินอาหารน้อยลง เพื่อให้ร่างกายมีน้ำหนักคงที่ ดังนั้น ต้องพยายามลดอาหารไขมันสูงและแคลอรีสูงด้วย

๓. กินผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม (dairy products) ที่เป็นชนิดไขมันต่ำ (low-fat)   ควรเลือกผลิตภัณฑ์นมเนยที่มีไขมันต่ำ เช่น low-fat  หรือ non fat yoghurt; cottage cheese หรือ skim milk พวกนี้จะลดไขมันได้โดย ร่างกายไม่ขาดแคลนแคลเซียม พวกปลาซาร์ดีนกระป๋อง ปลาแซลมอนกระป๋อง ก็เป็นแหล่งแคลเซียมที่สำคัญที่อาจทดแทนการได้แคลเซียมจากนมเนยได้  ผู้หญิงจำเป็นต้องได้รับแคลเซียมให้เพียงพอ ดังนั้น ถึงจะลดการดื่มนมกินเนยเพื่อลดอาหารไขมันสูงเพียงใด ก็ต้องไม่ลืมว่าจะต้องได้รับแคลเซียมให้เพียงพอ มิฉะนั้นจะเกิดโรคกระดูกพรุนได้

สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังคือแสงแดด  ซึ่งเชื่อว่าทุกคนคงทราบดีอยู่แล้ว แต่เมื่อไม่นานมานี้  มหาวิทยาลัยแพทย์ Baylor College ที่เท็กซัส สหรัฐ-  อเมริกา ได้ศึกษาผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งผิวหนังจำนวน ๗๖ คน โดยแบ่งเป็น ๒ กลุ่มเท่ากัน กลุ่มแรกจะได้อาหารไขมันต่ำ คือได้แคลอรีร้อยละ ๒๐ จากไขมัน  และกลุ่ม  ที่ ๒ ให้กินอาหารไขมันสูง คือได้แคลอรีร้อยละ ๔๐ จากไขมัน ให้กินอาหารแบบนี้ต่อเนื่องกัน ๒ ปี

พบว่ากลุ่มแรกซึ่งได้ไขมันต่ำ เกิดรอยโรคขั้นก่อนเป็นมะเร็งผิวหนัง (pre cancerous lesion) เพิ่มขึ้นเฉลี่ย ๓ รอยต่อคน แต่กลุ่มที่ ๒ ซึ่งได้ไขมันสูง พบรอยโรคก่อนเป็นมะเร็งผิวหนังที่เกิดใหม่เฉลี่ย ๑๐ รอยต่อคน นักวิจัยสรุปว่าการได้อาหารไขมันสูงอาจทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง เพราะระบบภูมิต้านทานของร่างกายจะเสียไป

๔. พยายามกินผักและผลไม้ร่วมด้วยเสมอ เพราะจะทำให้ร่างกายได้รับวิตามิน เกลือแร่ และยังให้ไฟเบอร์คือกากใยอาหาร  ซึ่งทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี

๕. กินอาหารที่มีไฟเบอร์คือกากใยอาหารให้เพียงพอ พยายามให้ร่างกายได้รับไฟเบอร์อย่างน้อยวันละ ๒๕ กรัม อาหารพวกข้าวที่ไม่ได้ขัดสี ข้าวกล้อง ถั่ว ถั่วฝักยาว จะให้ไฟเบอร์สูง
      
อาหารเสริมกับผิวพรรณ
โภชนาการที่ดี (จากการกินอาหาร) ทำให้ผิวพรรณ สดสวยและปราศจากโรคภัยของผิวหนัง  ที่เห็นได้ชัดคือเมื่อขาดอาหาร  เส้นผมอาจหลุดร่วง  มุมปากเกิดแผลอักเสบที่เรียกกันว่า "ปากนกกระจอก" เล็บซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผิวหนังอาจผุกร่อนเปราะหักง่าย และผิวหนังแลดูหม่นหมอง ไม่สดใส เกิดรอยช้ำจ้ำเลือดได้่ง่าย ยามใดเกิดการกระทบกระแทกและเกิดแผลที่ผิวหนัง บาดแผลจะหายได้ช้า
หากกินอาหารครบถ้วน ได้สัดส่วน มักจะได้รับวิตามินและเกลือแร่ที่เพียงพอ
เกลือแร่ที่จำเป็นมี ๑๖ ตัว 
ตัวอย่างของเกลือแร่ที่จำเป็นคือ เหล็ก แคลเซียม และสังกะสี
วิตามินที่จำเป็นต่อสุขภาพที่ดีมี ๑๓ ตัว
ตัวอย่างของวิตามินที่สำคัญต่อสุขภาพและผิวพรรณ ได้แก่ วิตามินเอ  ซึ่งทำให้ผิวพรรณนุ่มเนียนและยืดหยุ่นได้ดีไม่เหี่ยวย่น วิตามินบีรวมซึ่งทำให้ผิวหนังเรียบมัน  และวิตามินซีซึ่งใช้ในการสร้างคอลลา-เจนและอีลาสตินซึ่งเป็นส่วนประกอบของชั้นหนังแท้

หากร่างกายขาดวิตามินเอ อาจเกิดสิวได้ง่ายกว่าปกติ นอกจากนั้นการขาดวิตามินเอทำให้เป็นตุ่มนูนสาก ตามรูขุมขน หากขาดวิตามินบี เช่น บี ๑ บี ๓ และบี ๖ ผิวหนังอาจอักเสบได้ เส้นผมไม่แข็งแรง และอาจเกิดผลตามเนื้อเยื่อบุในช่องปาก การขาดวิตามินบี ๒ ทำให้มุมปากอักเสบที่เรียกกันว่าโรคปากนกกระจอก การขาดวิตามินบี ๓ (niacin) นอกจากจะมีผิวหนังอักเสบเป็นผื่นคัน ปวดแสบปวดร้อนบริเวณที่โดนแสงแดด เช่นที่หลังมือและที่คอ  แล้วยังมีท้องเสียและอาการหลงลืมได้ แพทย์เรียกกลุ่มอาการนี้ว่าโรคเพลแลกรา (pellagra) ส่วนการขาดวิตามินซี ทำให้แผลหาย ช้า เส้นขนบิดเป็นเกลียวสว่าน เกิดรอยช้ำจ้ำเลือดง่าย มีเลือดออกตามรูขุมขน เหงือกบวมและมีเลือดออกตามไรฟัน เรียกกันว่า โรคลักปิดลักเปิด (ศัพท์ แพทย์เรียกว่า scurvy)

ส่วนการขาดแคลนอาหารกลุ่มโปรตีน เช่น เนื้อสัตว์นั้นทำให้สีของผิวหนัง ของเส้นผมเปลี่ยนไป เส้นผมหลุดร่วงออก เล็บอาจมีสีขาวขุ่นทั้งเล็บได้ ผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์คือยังมีประจำเดือนอยู่อาจขาดธาตุเหล็กได้  เพราะนอกจากทุกๆ เดือนต้องสูญเสีย ธาตุเหล็กไปกับประจำเดือนแล้ว หากมีลูกอ่อนและเลี้ยง ลูกด้วยน้ำนมตัวเอง ก็จะสูญเสียธาตุเหล็ก ไปกับน้ำนม มากพอควร  ส่วนการขาดธาตุเหล็กทำให้เกิดโรคโลหิตจาง มีผิวพรรณซีดเซียวไม่เปล่งปลั่ง ลิ้นอักเสบ ริมฝีปากลอก เล็บโค้งงอเป็นรูปช้อน

อีกทั้งผู้หญิงหลายๆ รายอยากมีหุ่นนางแบบจึงอดอาหารจนขาดเกลือแร่ได้ การขาดเกลือแร่ทำให้ผิวหนังซีดเซียว เหลือง และเกิดโรคโลหิตจางได้ หากขาดธาตุเหล็กจึงควรได้รับธาตุเหล็กทดแทน บางคนรักสวยรักงามอยากมีหุ่นงามยอมอดอาหารจนเอวกิ่ว มีนางแบบที่อดอาหารจนตายหลายคน จนต้องมีการรณรงค์ไม่ให้จ้างนางแบบที่ผอมเกินไป อ้วนไปก็ไม่ดี  ผอมไปก็ไม่ดี เดินทางสายกลางดีที่สุด

ในทางตรงกันข้าม สมัยนี้หลายๆ คนมีปัญหาเกี่ยว กับเรื่องความอ้วนหรือกินอาหารมากเกินความต้องการของร่างกาย ซึ่งอาจก่อปัญหาแก่ผิวหนังได้เช่นกัน คนอ้วนอาจเป็นโรคสะเก็ดเงิน (psoriasis)  ผิวแตกลาย (striae ) ผิวติดเชื้อรา โดยเฉพาะบริเวณที่อับชื้น เช่น ขาหนีบ ที่ชาวบ้านเรียกว่าสังคัง (tinea cruris) ติดเชื้อยีสต์ (candidiasis) เชื้อแบคทีเรีย (erythrasma)  ผิวมีผื่นดำ เช่นที่ ลำคอ (acanthosis nigricans)  มีติ่งเนื้อ (skin tags) มีกลิ่นตัว และมีขนดก เกิดได้ง่ายกว่าคนที่ไม่อ้วน

บางคนชอบอาหารรสเค็มจัดชนิดที่ต้องเติมน้ำปลา เติมเกลือเสมอๆ หรือชอบกินอาหารทะเล ไม่ว่า จะเป็น      ปู ปลา กุ้ง หรือสาหร่ายทะเล ซึ่งทำให้ได้รับไอโอดีนมากเกินไป ทำให้เกิดสิวอักเสบตามใบหน้า หน้าอกและหลังได้ ยาแก้ไอบางตัวมีส่วนประกอบของเกลือไอโอดีนสูง ดังนั้น หากเป็นสิวมากๆ และนานๆ ลองคิดดูว่าเกิดจากการได้รับเกลือแร่ไอโอดีนมากเกินไปหรือไม่

คนที่กินอาหารมังสวิรัติคือกินแต่ผัก บางครั้งกินผักมากเกินไปทำให้ผิวหนังมีสีเหลืองซีด เพราะสารบีตาแคโรทีนในผักใบเขียว หัวแครอตและมะละกอ 
วิตามินเอถ้ากินมากเกินไป ทำให้ผิวหนัง เยื่อบุในช่องปากและดวงตาแห้งผากได้

การกินวิตามินและเกลือแร่เสริม เป็นกำมือ โดยปราศจากการได้รับอาหารที่ครบสัดส่วน ย่อมไม่อาจทำให้คุณมีสุขภาพที่ดีได้ หากต้องการกินวิตามินหรือเกลือแร่เสริมมากๆ ควรปรึกษาแพทย์ หรือนักโภชนาการก่อนจะปลอดภัยกว่า 

 

 

 

 

 

 

ข้อมูลสื่อ

337-003
นิตยสารหมอชาวบ้าน 337
พฤษภาคม 2550
ผิวสวย หน้าใส
นพ.ประวิตร พิศาลบุตร