• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

โรคกระเพาะอาหารเป็นโรคติดต่อ

โรคกระเพาะอาหารเป็นโรคติดต่อ


เมื่อหลายสิบปีก่อนถ้าบอกว่า "โรคกระเพาะอาหารเป็นโรคติดต่อ" คงถูกหัวเราะเยาะเป็นแน่ แต่ปัจจุบันไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว คิดว่าแพทย์ทุกคนคงทราบ แต่ประชาชนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่ทราบ

ต้นศตวรรษที่ ๒๐ เชื่อกันว่าโรคกระเพาะอาหารเกิดจากความเครียดและพฤติกรรมการกินอาหาร  ต่อมาพบว่าตัวการสำคัญ คือ กรดในกระเพาะอาหาร  การให้ยาลดกรดและเคลือบกระเพาะจึงกลายเป็นมาตรฐานในการรักษา แต่ถึงอย่างไรก็ยังเชื่อกันว่าโรคนี้เป็นโรคส่วนบุคคลไม่ใช่โรคติดต่อ จนเมื่อ ๒๐ ปีก่อน Marshall ก็ท้าทายแนวคิดนี้ด้วยตัวเขาเอง (จริงๆ) 
    
เชื้อแบคทีเรียเกี่ยวข้องกับโรคกระเพาะอาหาร
พ.ศ. ๒๕๒๕  อายุรแพทย์ระบบทางเดินอาหารชาวออสเตรเลีย Barry James Marshall และพยาธิแพทย์ J. Robin Warren ขณะตรวจชิ้นเนื้อของกระเพาะอาหารพบว่าเยื่อบุมีการอักเสบและมีเชื้อแบคทีเรียรูปเกลียวแทรกอยู่  จึงตั้งสมมุติฐานว่า เชื้อนี้ทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหาร ซึ่งต่อมาพิสูจน์ได้ว่าเป็นเชื้อเฮลิโคแบกเทอร์ไฟโลรี่ (Helocobacter pylori หรือ H.pylori) แต่การที่จะสรุปว่าเชื้อโรคหนึ่งเป็นสาเหตุของโรคหนึ่งๆ ต้องอาศัย Koch's postulate ซึ่งเขียนไว้เมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๓ Koch บอกว่าอันดับแรกต้องมีเชื้อโรคที่สามารถเพาะเชื้อได้ซึ่งสัตว์ทดลองที่ติดเชื้อต้องเกิดโรคและหายจากโรคเมื่อกำจัดเชื้อไป Marshall ทราบเรื่องนี้ดี เขาจึงเพาะเชื้อและพยายามทดลองในสัตว์แต่ไม่ประสบความสำเร็จ  เชื่อว่า โรคนี้คงก่อโรคเฉพาะในคน เขาจึงดื่มน้ำที่มีเชื้อ H. pylori เข้าไป ห้าวันต่อมาเขาเกิดอาการของโรคกระเพาะอาหาร  และในวันที่ ๑๔ เขาได้รับการส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหาร (Gastroscopy) พบว่าเยื่อบุอักเสบและมีเชื้อจำนวนมาก ต่อมาเขาก็กินยาปฏิชีวนะและทำการส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหารอีกครั้ง พบว่าเยื่อบุกระเพาะอาหารปกติ เขาและเพื่อนร่วมงานจึงสรุปว่าเชื้อโรคนี้สัมพันธ์กับโรคกระเพาะอาหารและส่งผลงานไปที่วารสาร The Lancet ของอังกฤษ แต่เหมือน Jenner บทความของเขาได้รับการปฏิเสธ  เขาจึงทดลองเพิ่มเติมและผลงานของเขาได้รับการตีพิมพ์  ใน Medical Journal of Australia เมื่อวันที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๘ (บทความนี้ติด ๑ ใน ๑๐ ของบทความที่มีผู้เข้ามาอ่านมากที่สุดในเว็บไซต์ของวารสารนี้)

อีกเกือบ ๑๐ ปีต่อมา พ.ศ. ๒๕๓๗ สถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) จึงได้ประชุมกันและรับรองว่า H.pylori สัมพันธ์กับโรคกระเพาะอาหารและหากผู้ป่วยติดเชื้อนี้ต้องให้ยาปฏิชีวนะ จากผลงานดังกล่าว Marshall และ Warren ได้รับรางวัลต่างๆ มากมายรวมทั้งในปี พ.ศ. ๒๕๔๔ เขาก็มารับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล สาขาสาธารณสุขที่กรุงเทพฯ  ผู้เขียนมีโอกาสเข้าฟังการบรรยายของ Marshall ด้วย  ถึงได้ทราบว่าเขาออกเสียง Helicobacter pylori ว่า เฮลิโคแบกเทอร์ ไพลอรี่ สำหรับประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคกระเพาะอาหารส่วนน้อยเท่านั้นที่มีเชื้อโรคนี้ ประกอบกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหารยังมีน้อย ทางสมาคมแพทย์โรคระบบทางเดินอาหารแห่งประเทศไทยจึงแนะนำให้ทำการส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหารเฉพาะผู้ป่วยที่จำเป็นเท่านั้น 

การปฏิบัติตัวที่เหมาะสม (เช่น ผ่อนคลาย กินอาหารให้ตรงเวลา หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เลิกบุหรี่ เลิกดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงยาแก้ปวดที่กัดกระเพาะอาหาร เป็นต้น) ยังคงเป็นการรักษาเบื้องต้นที่สำคัญ

ข้อมูลสื่อ

318-004
นิตยสารหมอชาวบ้าน 318
ตุลาคม 2548
นพ.ธีรวัฒน์ บูระวัฒน์