• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ซึมเศร้า

ซึมเศร้า


"คุณแม่ไม่เหมือนเดิม" เสียงพูดจากลูกชายทั้ง ๓ คน ของคนไข้รายหนึ่งของป้าหมอ พวกเรามีความทุกข์มากครับ ปกติคุณแม่เป็นคนมีเหตุผล  รับฟังคนอื่นไม่ใช้อารมณ์ ๑ เดือนที่ผ่านมา ท่านเปลี่ยนแปลงไปมาก ลูกทั้ง ๓ คนเล่าต่อว่า หลังจากแต่งงานกับคุณพ่อ คุณแม่ก็ย้ายมาอยู่ร่วมกับครอบครัวของคุณพ่อ คุณแม่เป็นคนยิ้มง่าย มีน้ำอดน้ำทน เวลาที่ถูกคุณย่าดุ ท่านอาจจะมีน้ำตาซึมบ้าง แต่แล้วก็จะเข้าไปขอโทษคุณแม่ทำตามที่คุณย่าสั่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องเสื้อผ้า อาหาร รวมทั้งเรื่องเล็กๆน้อยๆ จนได้รับคำชมจากครอบครัวคุณพ่อว่า "คุณแม่เป็นศรีสะใภ้ของวงศ์ตระกูล" แต่ความจริงแล้ว คุณแม่รู้สึกอึดอัดมาก จากการต้องทำทุกอย่างให้เป็นไปตามความต้องการของคุณย่า คุณย่ามักจะพูดว่า "ถ้าทำไม่ได้ก็เก็บของออกจากบ้านไปเลย" ลูกทุกคนเข้าใจกับการใช้ชีวิตแบบหน้าชื่นอกตรมของคุณแม่ สิ่งที่ทำให้คุณแม่ทนคุณย่าได้ คือ ความรักที่มีต่อลูกและสามีเท่านั้น 

พอคุณปู่จากไป พี่น้องของคุณพ่อทุกคนก็ย้ายออกไปอยู่ข้างนอกกันหมด จนเหลือแต่ครอบครัวของเราที่อยู่ร่วมกับคุณย่า คุณย่าทำโรงงานผลิตอาหารสัตว์ร่วมกับคุณปู่ เป็นธุรกิจที่ทำรายได้มหาศาล หลังจากที่คุณปู่เสียไป คุณย่าก็มีคุณพ่อเป็นหัวแรงสำคัญ มีคุณแม่คอยดูแลทุกอย่างในบ้าน แต่คุณย่าจะเป็นคนออกคำสั่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขายสินค้า การสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศ ทั้งที่คุณย่าอ่านหนังสือไม่ออก แต่พวกเราก็เคารพในคำสั่งสอนแนะนำของคุณย่าเสมอ พวกเราเองตั้งแต่เด็กก็มักถูกคุณแม่สั่งสอนให้เชื่อฟังคุณย่า ห้ามดื้อ ห้ามเถียงโดยเด็ดขาด สำหรับคุณแม่แล้ว คุณย่าจะได้รับการปฏิบัติที่พิเศษกว่าคนอื่นๆ

ธุรกิจของเรามาจนถึงจุดอิ่มตัว คุณย่าจึงตัดสินใจ ที่จะหยุดทุกอย่างลง คุณย่าขายกิจการทั้งหมด แล้วเก็บเงินก้อนใหญ่เอาไว้ คุณย่าบอกกับคุณพ่อว่า "ต่อไปนี้เราจะอยู่เฉยๆ แล้วใช้เงินกัน" คุณย่าทำพินัยกรรมมอบสมบัติทั้งหมดให้กับคุณพ่อ พินัยกรรมนี้ไม่มีชื่อของคุณแม่แม้แต่คำเดียว คุณพ่อได้เพียงแต่ปลอบใจคุณแม่ว่า "ทั้งหมดนี้เป็นของทั้งฉันและเธอ" ทุกครั้งที่พวกเราถ่ายรูปเวลาไปเที่ยว คุณย่ามักจะต้องยืนตรงกลางระหว่างคุณพ่อและคุณแม่ ลูกทุกคนอยากให้มีเพียงรูปครอบครัวยืนถ่ายรูปด้วยกัน แต่คุณย่าก็ไม่ยอม คุณย่ามักพูดว่า "ถ้าจะถ่ายให้สวยต้องถ่ายแบบนี้" พวกเรามีความสุขกันมาตลอด โดยไม่เคยมีใครรู้ว่าคุณแม่คิดอย่างไร คุณแม่ทำงานบ้านเรียบร้อย ไม่เคยบกพร่อง คุณแม่เหนื่อยกับงานบ้านทั้งวัน แต่คุณแม่ก็ยิ้มรับเสมอมา ไม่นานคุณพ่อก็มาจากพวกเราไปด้วยโรคหัวใจ  คุณย่าเสียใจมากเหลือเกิน ช่วงเวลานั้นคุณแม่ไม่ยอมห่างจากตัวคุณย่า ตามดูแลใกล้ชิดอย่างดีเสมอ จนคนอื่นมักพูดว่า "คุณย่ามีบุญที่มีสะใภ้ดีขนาดนี้"

แต่แล้วโรคหัวใจก็พรากคุณย่าไปอีกคน หลังจากที่คุณย่าเสียไป คุณแม่ต้องเป็นคนจัดการทรัพย์สินทั้งหมดในบ้าน ช่วงนี้คุณแม่เริ่มอาการนอนไม่หลับ วันหนึ่งก็เข้ามาบอกกับลูกทั้ง ๓ คน ว่า "จะแบ่งสมบัติให้ทุกคน เพื่อให้ทุกคนได้เรียนรู้การใช้ชีวิตด้วยตัวเอง" สมบัติถูกแบ่งออกเป็น ๒ ส่วน ส่วนแรกจะแบ่งให้ ลูกทั้ง ๓ คน ส่วนที่ ๒ คุณแม่จะนำไปจัดตั้งมูลนิธิให้คุณย่า พร้อมกับจัดงานศพที่สมเกียรติให้กับคุณย่าด้วย ในงานศพมีการให้ทานแบบมหาทานแก่ผู้ยากไร้ทุกคน  ใช้เงินมากกว่า ๑๐ ล้าน เชิญผู้มีชื่อเสียงหลายท่านมาร่วมงาน ลูกทุกคนเกิดความแปลกใจกับการใช้เงินจัดงานศพคุณย่า ซึ่งคุณแม่โดยปกติไม่ใช่คนที่ใช้เงินเป็นน้ำเช่นนี้ หากลูกทักท้วงเรื่องการจัดงานศพนี้ คุณแม่ก็จะโมโห ร้องไห้เสียงโหยหวน พร่ำถึงบุญคุณของคุณย่าที่มีต่อพวกเราให้ฟัง

หลังจากได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับคุณแม่  ลูกทุกคนรู้ได้ทันทีว่า "คุณแม่ป่วย" แต่พอพาคุณแม่เข้าพบจิตแพทย์ คุณแม่ก็จะบอกว่าสบายดีไม่ต้องการหมอ 
หลังจากที่เกลี้ยกล่อมกันอยู่นาน ในที่สุดคนไข้รายนี้ก็ยอมมาพบป้าหมอ ป้าหมอรักษาด้วยการให้ยาติดต่อกัน ๑ ปี การรักษาจึงจบลง ลูกทุกคนรู้สึกได้ทันที ว่า"ได้คุณแม่คนเดิมกลับคืนมา" อาการโรคซึมเศร้าพบได้มากขึ้นทุกที บางคนแสดงออกช้า บางคนแสดงออกเร็ว ภาวะโรคซึมเศร้าเกิดจากความผิดปกติของสารเคมีบางตัวในเลือด ทำให้มีการทำงานของร่างกายและจิตใจเปลี่ยนแปลงไป อาการซึมเศร้ามีได้ ๒ แบบ คืออาการซึมเศร้าผิดปกติ และอาการร่าเริงผิดปกติ บางคนอาจจะมีทั้ง ๒ อาการสลับไปสลับมา บางรายอาจหายขาดได้โดยไม่ต้องเข้ารับการรักษา แต่บางรายรักษาหายแล้วก็กลับมาเป็นอีก

ข้อมูลสื่อ

330-011
นิตยสารหมอชาวบ้าน 330
ตุลาคม 2549
ป้าหมอ