• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

วัยรุ่น วัยเรียน วัยเสี่ยงเรื่องเพศ

ความรัก ตามที่ปรากฏในพจนานุกรรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๔๒ อรรถาธิบายไว้ว่า
"รัก (ก.) มีใจผูกพันด้วยความห่วงใย เช่น พ่อแม่รักลูก รักชาติ รักชื่อเสียง มีใจผูกพันด้วยเสน่หา มีใจผูกพันฉันชู้สาว เช่น ชายรักหญิง ชอบ เช่น รักสนุก รักสงบ"
"ใคร่ (ก.) อยาก, ต้องการ, ปรารถนา"Ž


ความรักที่ดีงาม ที่สมหวัง เป็นสิ่งวิเศษสุด
สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่จะเกิดกับคนคนหนึ่งได้ คือการได้มีความรัก และความรักได้รับการตอบสนอง
"กุมภาพันธ์" เดือนที่สองตามปฏิทินสากล
แต่ "กุมภาพันธ์" ในความคุ้นเคยของวัยรุ่นและหนุ่มสาว มักนึกถึงกุมภาพันธ์ คือเดือนที่มีวันแห่งความรัก ๑๔ กุมภาพันธ์ มากกว่าเดือนที่มีวันมาฆบูชา

ทั้งวันมาฆบูชา และวันวาเลนไทน์ ล้วนเป็นวันแห่งความรักทั้งคู่ นั่นคือ วันแห่งความรักในทางโลก และวันแห่งความรักในทางธรรม
ความรัก ควรมีกี่วันในรอบ ๑ ปี?
ถ้าเรามีความรักอย่างสร้างสรรค์ทุกวัน โลกคงจะสดใสสวยงาม
ความรักเป็นเรื่องวิเศษ เป็นพลังอันพิสดาร เมื่อเกิดความ รัก ความพึงพอใจในกันและกันแล้ว ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจอันมหาศาล ที่จะผลักดันให้คู่รักได้ช่วยกันคิด ช่วยกันเรียน ช่วยกันวางแผนจัดการชีวิต ถ้าต่างฝ่ายปฏิบัติต่อความรักด้วยความจริงใจ ไม่มุ่ง "หลอกฟัน" ไม่หลงกระโจนลงในปลักตัณหา ทำให้เข้าใจในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์มากขึ้น
สำหรับเรื่องเด่นจากปก นิตยสารหมอชาวบ้านฉบับนี้ ประกอบด้วย
๑. จากมาฆบูชาถึงวาเลนไทน์
๒. ความรักวัยใส มีเซ็กซ์เมื่อถึงวัยอันควร
๓. เมื่อเยาวชนผจญอิทธิพลของสื่อ
๔. โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์กับเยาวชน

คนวัยใสสามารถมีความรักและความใคร่ ได้ แต่อยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม รู้จักว่าขณะนี้ตนอยู่ในสถานะใด เช่น วัยเรียน วัยรุ่น วัยทำงาน
วัยรุ่นหญิงมีทัศนคติเกี่ยวกับความรักที่ปลอดภัย มากกว่ามุ่งไปที่เรื่องมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย

วัยรุ่นชายควรเป็นสุภาพบุรุษมากกว่าเพียงการเป็นคนเพศชาย และมีความอดทน อดกลั้นต่ออารมณ์ทางเพศ รวมทั้งหาทางออกในการตอบสนองอารมณ์ความต้องการทางธรรมชาติ และมุ่งความสนใจในเรื่องสันทนาการ อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดนตรี กีฬา ท่องเที่ยว
จาก มาฆบูชา ถึง วาเลนไทน์
มาฆบูชา

"มาฆบูชา" เป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนาวันหนึ่งของชาวพุทธ
ในปี พ.ศ.๒๕๔๘ นี้ วันมาฆบูชาตรงกับวันพุธที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ซึ่งห่างจากวันวาเลนไทน์เกือบ ๑๐ วัน
วันมาฆบูชาผู้คนให้ความสนใจกันน้อยกว่าวันวาเลนไทน์ ทั้งที่เป็นวันให้ความรักเหมือนกัน
พระพุทธเจ้าได้ให้ความรักอย่างแท้จริง นั่นคือ โอวาทปาติโมกข์ ที่เป็นหลักธรรมในการดำเนินชีวิตและเป็นสัจธรรม

ความสำคัญของวันมาฆบูชามีอะไรบ้าง
พระพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ ซึ่งเป็น โอวาทสำคัญที่เป็นหัวใจของคำสอนในพระพุทธศาสนา และระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญ ๔ อย่างที่ เกิดขึ้นพร้อมกัน หรือเรียกว่า วันจาตุรงคสันนิบาต ประกอบด้วย
๑. พระสงฆ์ ๑,๒๕๐ รูป มาประชุมโดยพร้อม-เพรียงกัน และทุกรูปล้วนเป็นพระอรหันต์
๒. พระสงฆ์ ๑,๒๕๐ รูป ล้วนเป็นเอหิภิกขุอุป-สัมปทา คือ พระสงฆ์ที่พระพุทธเจ้าอุปสมบทให้
๓. พระสงฆ์ ๑,๒๕๐ รูป เดินทางมาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย
๔. ดวงจันทร์เสวยมาฆฤกษ์ และพระพุทธเจ้าแสดงธรรมโอวาทปาติโมกข์ มีใจความสำคัญคือ ทำความดี ละเว้นความชั่ว และทำจิตใจให้บริสุทธิ์
ดังนั้น ชาวพุทธจึงควรให้ความสำคัญในวันมาฆบูชา และนำหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้ามาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ และเป็นหลักปฏิบัติในการดำเนินชีวิต

ความรักเป็นสุขหรือเป็นทุกข์
ในปัจจุบันคนไทยเรารับวัฒนธรรมทางตะวันตก มาถือปฏิบัติกันอยู่ในสังคม โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น นั่นคือ กำหนดให้วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ เป็น "วันแห่งความรัก" หรือ "วันวาเลนไทน์" ซึ่งดูไม่สอดคล้องกับชีวิตคนไทยที่ส่วนใหญ่เป็นพุทธศาสนิกชน รวมทั้งศาสนาอื่นๆ ที่ไม่ใช่ศาสนาคริสต์ และดูจะมีความหมายสำคัญเป็นพิเศษ สำหรับเด็กวัยรุ่นที่กำลังแตกเนื้อหนุ่มเนื้อสาว สัญลักษณ์รูปหัวใจและดอกกุหลาบ สีแดง ซึ่งมีความหมายแทนความรัก มีการนำออกมาเผยแพร่จำนวนมาก
ในทางพุทธศาสนา จำแนกความรักไว้ ๒ ประเภท
๑. ความรักที่เกิดจากกามฉันทะ
ความเร่าร้อน ความกระหาย ที่อยากในสิ่งที่ตน พึงปรารถนา หากได้ตามใจปรารถนาแล้ว ผู้นั้นก็จะมีความชื่นชมยินดี มีความสุขทั้งกายและใจ ถ้าต้องประสบกับความผิดหวัง จิตของผู้นั้นจะมีแต่ความโทมนัส เศร้าโศกเสียใจ เกิดความทุกข์กายตามมา
กินไม่ได้ นอนไม่หลับ เบื่อโลก เบื่อชีวิต เบื่องาน มีอารมณ์หงุดหงิด ขาดสติสัมปชัญญะ บางคนคิดสั้น ก่ออกุศลกรรม คือการทำอัตวินิบาตกรรม
อย่างไรก็ตาม ความรักในลักษณะนี้เป็นความรักที่เกิดตามธรรมชาติ ยากที่จะหลีกเลี่ยงได้
๒. ความรักที่เกิดจากเมตตา
ความเมตตามีอยู่ในจิตวิญญาณของมนุษย์ทุกคน โดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา ชนชั้น เวลา สถานที่ สามารถกระจายไปได้ทุกหนทุกแห่ง ไม่มีขอบเขต
คำว่า "เมตตา" หมายถึงไมตรี ความรัก ความปรารถนาดี ความเห็นอกเห็นใจ ความเข้าใจดีต่อกัน หรือต้องการสร้างเสริมประโยชน์สุขให้แก่เพื่อนมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย
เมตตาจัดเป็นธรรมพื้นฐานของจิตใจขั้นแรก ในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ซึ่งทำให้มองกันในแง่ดี หวังดีต่อกัน พร้อมที่จะรับฟัง และเจรจากันด้วยเหตุและผล
ความรักที่เกิดจากความเมตตา จึงมีอยู่ในจิตใจของคนทุกคน นับตั้งแต่การปฏิสนธิจนถึงวันสิ้นอายุขัย เป็นความรักระหว่างพ่อแม่กับลูก ระหว่างญาติพี่น้องมิตรสหาย ระหว่างบุพการีกับลูกหลาน ระหว่างครูอาจารย์กับศิษย์ เป็นต้น
ความรักในลักษณะนี้ จะสร้างความห่วงใยเอื้ออาทร สามารถพัฒนาปลูกฝังลึกในจิตใจให้เจริญเติบโตขึ้นได้โดยง่าย จัดเป็นความรักที่มีความถาวรและสมบูรณ์อยู่ในตัว และเป็นความรักที่เสริมสร้างความสุขทางกาย ทางใจ และสร้างสันติสุขให้แก่มนุษยชาติอย่างแท้จริง

วันวาเลนไทน์
วันวาเลนไทน์ มาจากชื่อของนักบุญวาเลนไทน์ (St. Valentine) มีชีวิตอยู่ในสมัยกษัตริย์ Claudius ที่ ๒ แห่งกรุงโรม
กษัตริย์ Claudius ออกกฎห้ามจัดงานแต่งงาน เพราะอยู่ระหว่างการทำศึกสงคราม และต้องการให้ผู้ชายไปเป็นทหาร
นักบุญวาเลนไทน์ขัดคำสั่ง ด้วยการไปเป็นบาท-หลวงในพิธีแต่งงานให้หนุ่มสาว และรู้ถึงกษัตริย์ Claudius
กษัตริย์ Claudius ส่งทหารไปจับนักบุญวาเลนไทน์ ไปประหารชีวิต
นักบุญวาเลนไทน์เสียชีวิตวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ค.ศ.๒๙๖ ก่อนเสียชีวิตได้ฝากข้อความถึงเพื่อนๆ และลงท้ายว่า "Love from your Valentine"

ในปี ค.ศ.๔๙๖ พระสันตะปาปา Gelasius ได้ยกย่องในวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ เป็นวันวาเลนไทน์ เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้ระลึกถึงคุณความดี ความกล้าหาญ และความเสียสละของนักบุญวาเลนไทน์ คนส่วนใหญ่จึงถือเอาวันนี้เป็นวันแห่งความรัก
ต่อมาหนุ่มสาวส่วนใหญ่ใช้วันวาเลนไทน์แสดงความรัก โดยมีการส่งขนม (ช็อกโกแลต) ดอกไม้ (ดอกกุหลาบ) ให้กับคนที่ตนรัก
ถ้าจะให้วันวาเลนไทน์ (Valentine) มีความหมาย ที่ดี สมบูรณ์ ไม่ใช่เป็นเพียงวันแห่งความรักเท่านั้น
V = Verity ความจริงที่มีอยู่
คุณควรให้ความจริงแก่เธอหรือแก่เขา ว่าคุณมีความเป็นอยู่อย่างไร มีอะไรบ้างที่คุณพอจะบอกเขาหรือเธอได้ว่า คุณเองนั้นปัจจุบันเป็นอย่างไร กล่าวอย่างเปิดเผย ด้วยความเข้าใจและความไว้เนื้อเชื่อใจ
A = Ambition ความปรารถนาอย่างแรงกล้า
คุณจะรักใคร จะชอบใคร จะจีบใคร คุณควรมีความปรารถนาในความรักอย่างจริงจัง มิใช่ทำไปเพื่อตามแฟชั่น
L= Lenient ผ่อนปรน กรุณา ปรานี
คุณและเขาควรมีการผ่อนปรน อะไรปล่อยวางได้ก็ควรปล่อย อย่าเก็บไว้และนำมาคิดให้หนักสมอง
E = Equality ความเสมอภาค ความทัดเทียมกัน
ปัจจุบันคู่รักควรมีความเสมอภาคกัน ไม่ใช่บรรจงกราบเช้ากราบเย็นอย่างเช่นโบราณ หมดสมัยนอนทีหลังตื่นก่อนแล้ว เราต้องก้าวไปด้วยกัน ด้วยความมุ่งมั่นในอนาคต
N = Notable การยกย่องให้อยู่ในสภาพที่ดี
คุณควรยกย่องเขาหรือเธอให้อยู่ในสถานภาพที่ดีต่อบุคคลทั่วไป
T = Tender ความรักใคร่ที่นุ่มนวล
คุณควรจะทะนุถนอมเขาหรือเธอด้วยความรัก ความนุ่มนวล ความห่วงใย ความปรารถนาดี
I = Innovation การนำความแปลกใหม่มาให้คู่รัก
มิใช่อยู่อย่างไรก็อยู่อย่างนั้น คุณควรทำสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ มาสู่ชีวิตคุณและเธอ การเปลี่ยนแปลงเป็นวิถีของชีวิต ดังนั้น คุณควรจะเปลี่ยนอะไรๆ ในทางที่ดีบ้าง
N = Nexus การเชื่อมโยงความสัมพันธ์ให้มีตลอดไป
คุณจะมอบกุหลาบให้เขาหรือเธอในโอกาสอื่นๆ นอกเหนือจากวันวาเลนไทน์
E = Endurance ความอดทน ความอดกลั้น

คุณจะต้องมีความอดทนต่อทุกๆสิ่ง ถ้าหากคุณต้องเผชิญกับสิ่งนั้น อาจเป็นเวลาที่คุณจะต้องคอย คุณจะต้องยืนหยัดในความปรารถนาของคุณ
 

ข้อมูลสื่อ

310-007-1
นิตยสารหมอชาวบ้าน 310
กุมภาพันธ์ 2548
พญ.เพ็ญพรรณ วัฒนไกร
กองบรรณาธิการ