• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

หมี่กะทิ

หมี่กะทิอยู่ในประเภทอาหารจานเดียวของไทยดั้งเดิม ที่ยังคงมีให้เห็นอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ ลักษณะของหมี่กะทิ ประกอบด้วยเส้นหมี่นำมาลวกให้นิ่ม แล้วราดด้วยน้ำกะทิปรุงรส ใส่กุ้ง หมู เต้าหู้ เต้าเจี้ยว ปรุงรสด้วย น้ำตาล น้ำส้มมะขามเปียก จัดใส่จานโรยด้วยไข่เจียวหั่นฝอย แต่งหน้าด้วยผักชี พริกแดง กินกับหัวปลี กุยช่าย ใบบัวบก

ในปัจจุบันหมี่กะทิที่ขายตามท้องตลาดจะใช้ซอสที่ทำเย็นตาโฟ มาคลุกทำให้มีสีที่ไม่น่ากิน ถ้าเป็นสูตรดั้งเดิมหมี่กะทิจะมีสีแดงเรื่อๆ จากเนื้อมะเขือเทศเท่านั้น


                                              

สูตรและวิธีทำหมี่กะทิมีดังนี้

เส้นหมี่ขาวแช่น้ำ                                   ๑/๒ กิโลกรัม
น้ำกะทิ                                                      ๕ ถ้วย
เนื้อมะเขือเทศกระป๋อง                              ๓ ช้อนโต๊ะ
เต้าเจี้ยวขาวโขลกละเอียด                        ๒ ช้อนโต๊ะ
เต้าหู้แข็งหั่นสี่เหลี่ยมเล็ก                          ๒ แผ่น
หมูสับ                                                       ๑ ถ้วย
กุ้งสับ                                                        ๑ ถ้วย
หอมแดงซอย                                            ๑ ถ้วย
พริกป่น                                                      ๑ ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา                                                  ๑/๔ ถ้วย
น้ำตาลปี๊บ                                             ๑/๔ ถ้วย
น้ำมะขามเปียกคั้นข้นๆ                          ๑/๒ ถ้วย
พริกแดง, เหลืองซอยไว้โรยหน้า           ๑/๔ ถ้วย
ถั่วงอกเด็ดหาง                                     ๑/๒ กิโลกรัม       
ใบกุยช่าย                                                ๒ ขีด
มะนาว                                                     ๕ ผล
ไข่ไก่                                                       ๒ ฟอง
น้ำมันพืช                                                 ๑ ช้อนโต๊ะ

ผักสด

หัวปลี ๒ หัว ผ่า ๖ ชิ้นตามยาว แช่น้ำผสมน้ำมะนาว, ใบกุยช่าย ใช้แต่โคน ปลายเอาไว้ใส่ในหมี่, ใบบัวบก เด็ดเป็นใบๆ ปริมาณตามชอบ

วิธีทำ
๑. ลวกเส้นหมี่ในน้ำเดือด พอนิ่มตักพักให้สะเด็ดน้ำ
๒. แบ่งกะทิ ๒ ถ้วยครึ่ง ใส่กระทะตั้งไฟพอให้แตกมัน ใส่เนื้อมะเขือเทศ แล้วใส่เส้นหมี่ผัดให้ทั่วแบ่งถั่วงอก ๑/๒ ส่วนใส่ลงไป ใส่ใบกุยช่าย (ใช้แต่ส่วนปลาย) ผัดให้เข้ากันแล้วยกลง
๓. กะทิที่เหลืออีก ๒ ถ้วยครึ่่ง นำไปตั้งไฟให้แตกมันเล็กน้อย ใส่หมูสับ กุ้งสับ เต้าเจี้ยว คนให้เข้ากัน พอหมูและกุ้งสุก ใส่หอมแดงซอย เต้าหู้หั่น ปรุงรสด้วยพริกป่น น้ำตาล น้ำมะขามเปียก น้ำปลา คนให้เข้ากัน พอเดือดปิดฝายกลง
๔. ตอกไข่ใส่ถ้วยตีให้เข้ากัน ใส่น้ำมันพืชในกระทะพอบางๆ พอน้ำมันร้อนเทไข่ใส่ลงไป เอียงกระทะหมุนไปรอบๆ ให้ไข่เป็นแผ่นบางๆ พอสุกตักขึ้น นำมาม้วนแล้วหั่นฝอย สำหรับโรยหน้า
๕. เมื่อพร้อมกินตักหมี่ใส่จาน ตักน้ำปรุงราดบนหมี่ผัด โรยด้วยไข่เจียวหั่นฝอย ผักชี พริกชี้ฟ้าแดงหั่นฝอย กินพร้อมผักสด
รสชาติ เค็ม เปรี้ยว หวานเล็กน้อย

หมายเหตุ :
๑. ผักที่นิยมกินกับหมี่กะทิคือ ใบบัวบก หัวปลี ถั่วงอกดิบ ใบกุยช่าย
๒. หัวปลี ถ้าจะให้ขาวน่ากิน เมื่อผ่าแล้วรีบแช่น้ำมะนาว และมีดที่ใช้ผ่าหัวปลีต้องลูบด้วยน้ำมะนาวเสียก่อน
การกินหมี่กะทิจะได้คุณค่าทางโภชนา-การ ดังนี้

๑ หน่วยบริโภค เท่ากับ ๒๕๐ กรัม ประกอบด้วย เส้นหมี่ผัด ๒๑๐ กรัม ผัก และเครื่องเคียง ๔๐ กรัม
พลังงาน                 ๒๗๕ กิโลแคลอรี
ไขมันทั้งหมด         ๑๐.๓ กรัม
โปรตีน                        ๑๑ กรัม
คาร์โบไฮเดรต        ๓๔.๕ กรัม

(รวมใยอาหาร)

ที่มาของข้อมูล : จากรายงานการวิจัย "คุณค่าอาหารไทยเพื่อสุขภาพ" โดยทีมวิจัยสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล

หมี่กะทิจัดเป็นอาหารจานเดียวที่มีปริมาณใยอาหารในระดับดีปานกลาง และจัดว่าให้พลังงานต่ำตามเกณฑ์ของการทำฉลากโภชนาการเพื่อการส่งออก ถึงแม้จะมีพลังงานต่ำแต่ก็มีไขมันอิ่มตัวสูง เพราะ น้ำราดทำจากกะทิ จึงควรระมัดระวังในการบริโภค
เคล็ดลับ
๑. เส้นหมี่ถ้าจะให้นิ่มน่ากินเมื่อแช่น้ำแล้วควรนำไปลวกในน้ำเดือด
๒. ส่วนของน้ำปรุงที่ใช้ราดบนเส้นหมี่ให้แยกไว้จนกว่าจะกินค่อยราดบนเส้นหมี่ จะทำให้น่ากินไม่แฉะและเละ
๓. น้ำปลาอย่าเพิ่งใส่หมดเพราะความเค็มของเต้าเจี้ยวแต่ละเจ้าไม่เท่ากัน
 

ข้อมูลสื่อ

310-019
นิตยสารหมอชาวบ้าน 310
กุมภาพันธ์ 2548
เข้าครัว
ริญ เจริญศิริ, ศศพินทุ์ ดิษนิล