• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

เป็นยาของผู้หญิงมีหลายยี่ห้อจะซื้อแต่ละครั้งต้องชั่งใจนาน

เป็นยาของผู้หญิงมีหลายยี่ห้อ จะซื้อแต่ละครั้งต้องชั่งใจนาน ?

ตอนไปซื้อกินครั้งแรกนั้น มีเรื่องยุ่งๆ เยอะหน่อย แม้ว่าไม่ต้องบอกอาการ แต่ก็ไม่รู้จะเลือกอย่างไร? มีตั้งหลายยี่ห้อ  ถ้าคนขายเป็นผู้หญิงจะไม่ว่าอะไร? หากเจอผู้ชายนี่สิ ต้องชั่งใจอยู่นาน กล้าไม่กล้า? รายที่ไม่กล้าต้องกลับบ้านเปลี่ยนคนมาซื้อ จะยิ่งยุ่งๆ เข้าไปใหญ่ เพราะมีข้อแนะนำในการใช้ยาหลายเรื่อง เป็นยาของผู้หญิงครับ แต่เดี๋ยวนี้ผู้ชายบางประเภทอยากจะกินด้วย ยานี้ถ้ากินไม่ถูกต้องหรือไม่กิน คนใช้กับคนถูกใช้ให้ไปซื้อจะยุ่งๆ กันไม่ได้ หรือถ้าเผลอยุ่งๆ กัน จะเกิดเรื่องยุ่งๆ ตามมาอีกครับ

ยายุ่งๆ ที่ทำให้ยุ่งกันได้นั้นคือ  ยาคุมกำเนิด หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า "ยาคุม" นั่นเองครับ ในที่นี้จะขอกล่าว เฉพาะยาคุมกำเนิดชนิดเม็ด

ยาเม็ดคุมกำเนิด คือ ยาเม็ดที่ใช้ กินเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์แบบชั่วคราว จัดทำไว้เป็นแผงหลายชนิดสีสันสวยงาม แต่ละชนิดจะมีปริมาณตัวยาและจำนวน เม็ดไม่เท่ากัน เช่น ๒๑ และ ๒๘ เม็ด ผู้ใช้ต้องกินยาอย่างต่อเนื่อง บางชนิดอาจหยุดยาเป็นช่วง และเมื่อเลิกใช้ยาจะสามารถกลับมามีบุตรได้อีกครับ เรา สามารถแบ่งออกได้เป็น ๓ ชนิด ดังนี้ ครับ
๑. ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ซึ่งแบ่งออกเป็นอีก   ๒ ชนิด คือ
 ๑.๑ ยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนระดับเดียวกัน เป็นชนิดที่นิยมใช้กันมากที่สุด
 ๑.๒ ยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนหลายระดับ โดยจะแบ่งเม็ดยาเป็น ๓ กลุ่ม แต่ละกลุ่มจะมีปริมาณตัวยาแตกต่างกัน เพื่อเลียนแบบการหลั่งฮอร์โมนทั้ง ๒ ชนิดตามธรรมชาติให้มากที่สุดเพื่อลดผลข้างเคียงต่างๆ
๒. ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดที่มีเฉพาะโปรเจสโตเจน สำหรับ สตรีที่ไม่สามารถทนผลข้างเคียงของฮอร์โมนเอสโตรเจนได้ เช่น คลื่นไส้ อาเจียนมาก หรือสำหรับสตรีที่ให้นมบุตร แต่ประสิทธิ-ภาพในการคุมกำเนิดจะต่ำ
๓. ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดที่ใช้ภายหลังการร่วมเพศ ไม่แนะนำให้ใช้ในการคุมกำเนิดตามปกติ เนื่องจากมีฮอร์โมนขนาดสูงมาก
ผู้ใช้จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนอย่างมาก มีเลือดออกผิดปกติ ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ต่ำ อาจตั้งครรภ์นอกมดลูกได้ ในปัจจุบันมีการใช้ยานี้ในทางที่ผิด โดยเฉพาะในกลุ่ม  วัยรุ่น อาจทำให้โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ซึ่งรวมทั้งโรคเอดส์  มีอัตราเพิ่มสูงขึ้นได้ เราต้องช่วยกันรณรงค์เผยแพร่ความรู้กันต่อไปนะครับ

ยาเม็ดคุมกำเนิดป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างไร?  
ฮอร์โมนทั้ง ๒ ชนิด คือ เอสโตรเจนและโปรเจสโตเจน ออกฤทธิ์ดังนี้
๑. ป้องกันไม่ให้ไข่สุกและยับยั้งการตกไข่
๒. สกัดกั้นอสุจิไม่ให้เข้าสู่มดลูกโดยทำให้มูกบริเวณปากมดลูกเหนียวข้นขึ้น
๓. ขัดขวางการฝังตัวของไข่ที่ผสมแล้ว

ข้อแนะนำสำหรับผู้ที่จะเริ่มใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด
ก่อนที่จะใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด ควรไปพบแพทย์ เพื่อทำ     การตรวจสอบประวัติความเจ็บป่วยต่างๆ ว่ามีโรคหรือภาวะที่ เป็นข้อห้ามของการใช้ยาหรือไม่ โดยแพทย์จะทำการตรวจดังนี้  ครับ
๑. ตรวจร่างกายทั่วไป เช่น วัดความดันเลือด
๒. การตรวจเต้านม
๓. การตรวจภายในและตรวจหามะเร็งปากมดลูก

หากไม่สะดวกที่จะไปพบแพทย์ได้ ควรตรวจสอบประวัติสุขภาพด้วยตนเองก่อน ตามแบบสอบประวัติสุขภาพสำหรับผู้ที่จะเริ่มใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด ผู้ที่ไม่มีอาการใดอาการหนึ่งตามที่ระบุ   ไว้ ๑๔ ข้อดังต่อไปนี้ จึงจะสามารถใช้ยาคุมกำเนิดได้ อย่าลืม ตรวจสอบทุกข้อนะครับ
๑. มีหรือเคยมีผิวหนังหรือตาเหลือง
๒. มีก้อนที่เต้านม
๓. มีหรือเคยมีเลือดหรือน้ำเหลืองปนเลือดไหลออกมาจากเต้านม
๔. มีระดูมากผิดปกติ
๕. มีระดูถี่ผิดปกติ หรือมีเลือดออกทางช่องคลอด
๖. มีเลือดออกทางช่องคลอดภายหลังร่วมเพศ
๗. มีอาการขาบวมและปวดมาก
๘. มีอาการเจ็บร้าวในทรวงอกจนแทบทนไม่ไหว
๙. มีอาการเหนื่อยมากผิดปกติภายหลังออกกำลังกาย
 ๑๐. มีอาการปวดศีรษะแทบทนไม่ไหวบ่อยๆ
 ๑๑. มีอาการเส้นเลือดขอดที่น่องพองผิดปกติ
 ๑๒. มีความดันเลือดตัวบนสูงกว่า ๑๔๐ มม.ปรอท
 ๑๓. มีน้ำตาลในปัสสาวะ
 ๑๔. มีไข่ขาวในปัสสาวะ

วิธีกินยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดแผง ๒๑ เม็ด
เริ่มใช้ยาตั้งแต่วันที่ ๑ ของรอบเดือน (นับวันแรกที่มีประจำเดือนเป็นวันที่ ๑) อาจเริ่มกินยาช้ากว่านี้ได้ แต่ ต้องไม่เกินวันที่ ๕ ของรอบประจำเดือน กินยาติดต่อกันทุกวันจนหมดแผง ในเวลาใดก็ได้แต่ควรกินเวลาเดียวกันทุกวัน (แนะนำให้กินตอนเย็น เพราะถ้า ลืมจะได้กินได้ภายในวันนั้น) แล้วหยุด ยา ๗ วัน ดังนั้นต้องอย่าลืมวันแรกของรอบเดือน จำไว้ให้ดีนะครับ

การเริ่มยาในวันแรกของรอบประจำเดือน จะได้ผลการคุมกำเนิดดีตั้งแต่เดือนแรกที่เริ่มกินยา แต่จะมีผล ให้รอบประจำเดือนแรกหลังจากใช้ยาสั้นกว่าปกติ จากนั้นรอบประจำเดือน ต่อไปจะเป็นปกติประมาณ ๒๘ วัน

ระหว่างหยุดยา ๒-๔ วัน จะมีเลือดประจำเดือนมา เมื่อหยุดยาครบกำหนด ให้เริ่มแผงใหม่ในวิธีเช่นเดิม ผู้ใช้จะเริ่มกินยาเม็ดใดในแผงก่อนก็  ได้ แต่ถ้ากินตรงกับวันกำกับจะช่วยป้องกันไม่ให้ลืมกินยา

วิธีกินยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดแผง ๒๘ เม็ด
เริ่มกินยาในวันแรกของรอบประจำ เดือน กินเม็ดแรกในส่วนที่ระบุบนแผงว่าเป็นจุดเริ่มต้นใช้ยาและกินตามวันกำกับ ตามทิศลูกศรจนหมดแผง และกินแผงใหม่ติดต่อได้เลยไม่ต้องหยุด ยา ยากลุ่มนี้ต้องกินติดต่อกันทุกวัน ชื่อยาอาจมีคำว่า อีดี (ED) เพื่อทำให้ ทราบว่าเป็นยาชนิด ๒๘ เม็ด แบบนี้จะดีกว่าแบบ ๒๑ เม็ด ตรงที่ไม่มีการ หยุดยา เพราะบางท่านเมื่อหยุดยา ๗ วันแล้ว ลืมเริ่มกินยาไปเลยก็มีครับ

วิธีกินยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนหลายระดับ
ตัวยาในแต่ละเม็ดจะไม่เหมือนกัน เช่นใน ๑ แผงจะมีตัวยาที่ต่างกันถึง  ๓ กลุ่ม จึงต้องกินยาตรงตามลูกศรกำกับ และเมื่อลืมกินยาต้องเลือกกินให้ตรงกับชนิดยาที่ลืมด้วยครับ

ทำอย่างไรถ้าลืมกินยาเม็ดคุมกำเนิด
๑. ลืม ๑ เม็ด ให้กินทันทีที่นึกได้ และกินเม็ดต่อไปตามปกติ
๒. ลืม ๒ เม็ดติดต่อกันในช่วง ๒ สัปดาห์แรก ให้กินยา ๒ เม็ดติดต่อ กัน ๒ วัน แล้วกินต่อไปตามปกติจนหมดแผง ให้ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย หรืองดร่วมเพศ ๗ วัน
๓. ลืม ๒ เม็ดติดต่อกันในช่วง สัปดาห์ที่ ๓ หรือมากกว่า ๒ เม็ดในช่วงใดก็ตาม ให้หยุดยาแผงนั้นจนกว่า จะมีเลือดประจำเดือน จึงเริ่มยาแผงใหม่ ให้ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย หรืองดร่วมเพศตั้งแต่เริ่มหยุดยา จนกินยาแผงใหม่ไป ๒ สัปดาห์
สำหรับผู้ที่ลืมกินยาบ่อยๆ ควรเปลี่ยนไปใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นๆ เช่น ยาฉีดคุมกำเนิด ห่วงอนามัย เป็นต้น (แหมทีเรื่องยุ่งๆ กันทำเป็นไม่ลืมนะครับ)

ผลข้างเคียงของยาเม็ดคุมกำเนิด
ในปัจจุบันยาเม็ดคุมกำเนิดส่วนใหญ่มีระดับฮอร์โมนต่ำ จึง พบผลข้างเคียงต่างๆ ลดลง และผลข้างเคียงส่วนใหญ่ไม่รุนแรงเท่าใดครับ เช่น
๑. อาการคลื่นไส้ อาเจียน มักพบในช่วงแรกของการใช้ยาและแก้ไขได้โดยให้กินหลังอาหารเย็นหรือก่อนนอน แต่ถ้าเป็นมากและเป็นอยู่นานควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อเปลี่ยนชนิด
๒. อาการเจ็บคัดเต้านม พบในระยะแรกของการใช้ยา ซึ่งผู้ใช้ส่วนใหญ่จะมีอาการลดลงหรือหายไปในเวลาต่อมา
๓. เลือดออกกะปริดกะปรอย มักพบในผู้ที่ลืมกินยาบ่อยๆ และอาจเกิดได้ในระยะแรกของการใช้ยาเช่นกัน ซึ่งผู้ใช้ควรกินยาอย่างสม่ำเสมอ
๔. การขาดระดูระหว่างการใช้ยา ควรตรวจดูให้แน่ใจว่าไม่ได้ เกิดการตั้งครรภ์โดยเฉพาะผู้ที่กินยาไม่สม่ำเสมอหรือลืมกินยาบ่อยๆ
ผลข้างเคียงอื่นๆ ได้แก่ น้ำหนักตัวเพิ่ม มีสิว ฝ้า ผมร่วง ปวดศีรษะ เป็นต้น อาการที่กล่าวมานั้นจะเกิดขึ้นในระยะแรกของการใช้ยา และส่วนใหญ่หายได้เองเมื่อใช้ยาไป ๒-๓ เดือน

ข้อควรระวังเมื่อใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด
ให้สังเกตผลข้างเคียงที่รุนแรงและเป็นอันตรายจากอาการเตือน ดังนี้ครับ
๑. มีอาการปวดบริเวณท้องอย่างรุนแรง ตัวเหลือง ตาเหลือง
๒. มีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง ความดันเลือดสูง
๓. มีอาการปวดและบวมที่เท้า ขา และน่อง
๔. ปวดตา ตาพร่า เห็นแสงวูบวาบ
๕. มีอาการปวดหน้าอกอย่างรุนแรง หายใจหอบเหนื่อยง่าย
เมื่อมีอาการเตือนดังกล่าวควรหยุดยาและรีบปรึกษาแพทย์ทันที

ยาคุมกำเนิดรุ่นใหม่ๆ เลือกใช้ได้ตามความต้องการ
ในปัจจุบันนี้ ยาเม็ดคุมกำเนิดผลิตขึ้นมาโดยให้มีปริมาณฮอร์โมนในขนาดต่ำๆ ที่สามารถใช้ได้กับสตรีทั่วๆ ไป นอกจากนี้ยังพัฒนาฮอร์โมนใหม่ๆ เพื่อลดผลข้างเคียงต่างๆ เราจึงสามารถขอคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อเลือกใช้ได้ตามความต้องการได้เลยครับ ดังนี้
๑. ลดอาการคลื่นไส้ อาเจียนได้เป็นอย่างดี เพราะฮอร์โมนชนิดใหม่สามารถออกฤทธิ์ได้ทันทีโดยไม่ต้องไปเปลี่ยนแปลงเป็นสารออกฤทธิ์ที่ตับ และทำให้ใช้ปริมาณฮอร์โมนน้อยลงมากอีกด้วย
๒. ไม่ทำให้เกิดสิว หรือใบหน้ามัน หรือยิ่งทำให้ขนดกในสตรีที่มีภาวะฮอร์โมนเพศชายมากเกินไป เพราะฮอร์โมนใหม่ออกฤทธิ์ต้านได้
๓. ไม่ทำให้น้ำหนักเพิ่ม หรือเกิดฝ้ามากขึ้น เพราะสามารถลดปริมาณฮอร์โมนลงได้มาก

การวิจัยยาเม็ดคุมกำเนิดยังคงมีไปเรื่อยๆ เพื่อประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด  ลดผลข้างเคียงให้ได้มากที่สุด และลดปริมาณฮอร์โมนที่ใช้ลง
หวังว่าความรู้เกี่ยวกับยาเม็ดคุมกำเนิดนี้คงทำให้ "ยายุ่งๆ"  กลายเป็น "ยาง่ายๆ"  มากขึ้นเพื่อให้ท่านผู้อ่านที่อยู่ในฐานะยุ่งๆ พอจะยุ่งๆ กันได้อย่างปลอดภัยไร้กังวลนะครับ

ข้อมูลเพิ่มเติม :
สุวรรณา ภัทรเบญจพล. ยาเม็ดคุมกำเนิด.
การให้คำปรึกษาเรื่องยาเม็ดคุมกำเนิดในร้านขายยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.

ข้อมูลสื่อ

287-011
นิตยสารหมอชาวบ้าน 287
มีนาคม 2546
ภก.สุดเหมือนฝัน ธนธัญญา