• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ต้มโคล้งปลาดุกย่าง

ต้มโคล้งปลาดุกย่าง


อาหารไทยรสจัดจ้านที่ไม่ควรพลาด

เมื่อเอ่ยถึงต้มโคล้ง หลายคนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่มักจะถามว่าคืออะไร กินไม่เป็น ซึ่งต่างจากต้มยำซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี ดิฉันก็ยังหาคำตอบไม่ได้เหมือนกันว่า ทำไมต้มโคล้งจึงไม่ฮิตเท่าต้มยำทั้งๆที่รสชาติใกล้เคียงกัน และเครื่องปรุงก็คล้ายๆ กัน ที่ต่างกัน คือต้มโคล้งมักจะใช้ปลาย่าง หรือปลากรอบ ในขณะที่ต้มยำจะใช้ปลาสด หรือกุ้งสด ต้มโคล้งจะใช้มะขามเปียก หรือมะม่วง ไม่ใช้มะนาว

ที่เป็นเอกลักษณ์ของต้มโคล้ง คือ มีการเผาพริกชี้ฟ้าแห้งเม็ดใหญ่ แล้วฉีกเป็นชิ้นๆ ใส่ลงไปด้วย ซึ่งทำให้ต้มโคล้งมีกลิ่นหอมต่างจากต้มยำ โดยความเห็นส่วนตัวแล้ว ดิฉันว่าต้มโคล้งสามารถทำได้สะดวกกว่าต้มยำนะคะ เพราะส่วนใหญ่จะใช้ของแห้งที่สามารถตุนไว้ในครัวได้ ไม่ว่าจะเป็นปลากรอบ มะขามเปียกพริกชี้ฟ้าแห้ง หัวหอมแดง ส่วนข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และพริกขี้หนูนั้นเชื่อว่าในครัวหรือสวนหลังบ้านของแต่ละท่านคงมีไว้ไม่ขาดมืออยู่แล้ว

ในการทำต้มโคล้งของบางบ้านเขาใช้แค่มะขามเปียก แต่ที่บ้านดิฉันใช้มะม่วงดิบด้วย (ถ้ามี) ซึ่งให้รสที่ต่างจากมะขามเปียกเล็กน้อย ก็คงตามแต่ความชอบและทรัพยากรที่มีในครัวของแต่ละบ้านนะคะ แต่อย่างไรเสียก็อย่าลืมบรรจุต้มโคล้งไว้ในรายการอาหารของบ้านคุณบ้างนะคะ เดือนละครั้งก็ยังดี เพื่อให้ลูกหลานได้รู้จัก ดิฉันอยากขอฝากบรรดาคุณยาย คุณป้า หรือคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายที่มีฝีมือหรือรู้วิธีปรุงอาหารไว้ตรงนี้ว่า เรามาช่วยกันทำอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักของลูกหลาน โดยหมั่นทำหรือสอนให้เขาทำกันดีไหมคะ เพื่อที่เขาจะได้ไม่รู้จักกันแต่เพียงผัดผัก ผัดกะเพรา หรือไข่เจียวเท่านั้น


วิธีทำ

1. ตั้งน้ำให้เดือดพร้อมทั้งใส่หอมแดงทุบ ตะไคร้ ข่า และใบมะกรูด

2. ใส่มะม่วงดิบซอยไปพอประมาณ

3. หั่นปลาดุกย่างเป็นท่อนๆ ใส่ลงไป

4. เผาพริกชี้ฟ้าแห้งเม็ดใหญ่ให้หอม แล้วฉีกเป็นชิ้นๆใส่ในหม้อ

5. เติมน้ำปลา และน้ำมะขามเปียก (ถ้ายังเปรี้ยวไม่พอ) พร้อมพริกขี้หนูสดทุบ และต้นหอมหรือผักชีฝรั่งหั่นหยาบ ชิมรสหวานตามความชอบ

ข้อมูลสื่อ

164-015
นิตยสารหมอชาวบ้าน 164
ธันวาคม 2535
เข้าครัว
นาตยา