• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ซื้อของเล่นเด็กแรกเกิด

ซื้อของเล่นเด็กแรกเกิด

 

ดิฉันยังจำได้ดีว่า เมื่อครั้งที่พี่สาวคลอดลูกคนแรก ดิฉันตื่นเต้นยินดีมาก เพราะเป็นหลานคนแรก และพี่สาวก็มาพักฟื้นหลังคลอดอยู่กับคุณยาย นั่นหมายถึงดิฉันต้องมีส่วนช่วยเลี้ยงหลานด้วยแน่นอน แต่บ้านเราไม่มีของเล่นเด็กเลย คิดได้ดังนั้นดิฉันจึงรีบออกจากบ้านไปหาซื้อของเล่นที่เขย่าได้มีด้ามถือ เมื่อเขย่าจะมีเสียงดังกุ๋งกิ๋ง ค้อนพลาสติกที่มีเสียงดังบ๊อกๆเวลาเคาะ และลูกบอล

ดิฉันชื่นชมอยู่กับของเล่นได้ 3 วัน พี่สาวก็พาหลานกลับมาอยู่ที่บ้าน ดิฉันรีบบอกพี่สาวว่านี่เป็นของเล่นของหลาน ดิฉันให้หลาน แต่พี่สาวกลับบอกว่าหลานยังเล่นไม่เป็นหรอก ต้องรอให้โตอีกหน่อย ดิฉันจึงเถียงว่าหลานเล่นไม่เป็น ผู้ใหญ่ก็เล่นให้ดูได้

จริงตามคำของพี่สาวพูด หลานได้แต่นอนๆ ตื่นขึ้นมาก็ร้อง พี่สาวก็ต้องให้นม ดูดนมไปสักพักก็หลับต่ออีก ดิฉันคอยเวลาที่จะเล่นด้วยก็ไม่ได้เล่น เป็นอันว่าดิฉันต้องเล่นของเล่นเหล่านั้นไปพลางๆก่อน โดยที่หลานไม่ได้ดูเลย

ความไม่เข้าใจว่าทำไมหลานจึงยังเล่นของเล่นไม่ได้ ทำให้ดิฉันเริ่มศึกษาถึงพัฒนาการของเด็กและความสำคัญของของเล่น จนกระทั่งดิฉันมีครอบครัวและมีลูกที่น่ารัก ซึ่งดิฉันได้พบว่าพัฒนาการของเด็กเป็นส่วนสำคัญมากในการเจริญเติบโต ซึ่งผู้เลี้ยงเป็นบุคคลสำคัญในการที่จะเพิ่มทักษะและเสริมสร้างพัฒนาการของร่างกายให้เด็กได้ โดยอาศัยสื่อกลางคือของเล่น ของเล่นต่างชนิดกันและวิธีการเล่นที่แตกต่างกันย่อมให้ประโยชน์ต่างกัน

แล้วเด็กแรกเกิดต้องการของเล่นอะไร

เด็กแรกเกิดจะนอนหลับวันละประมาณ 16-17 ชั่วโมง แต่ละช่วงจะนอนนานติดต่อกันประมาณ 4ชั่วโมง เมื่อโตขึ้นเวลาในการนอนหลับจะค่อยๆลดลง เด็กจะตื่นขึ้นร้องไห้เมื่อรู้สึกหิวหรือรำคาญจากการปัสสาวะหรืออุจจาระรดที่นอน เกิดความไม่สบายตัว เมื่อแม่จัดการเช็ดเนื้อตัวและเปลี่ยนผ้าอ้อมใหม่ให้ ตามด้วยการให้ดูดนม ไม่ช้าเด็กก็จะหลับต่อได้อีก

ในขณะลูกตื่น คุณลองสังเกตให้ดี ถ้าลูกไม่หลับตาร้องไห้ สายตาของลูกจะมองอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ไม่มีการจ้องมองของเล่นที่เอามาให้ดู ทั้งนี้ก็เพราะว่าดวงตาของเด็กแรกเกิดยังพัฒนาได้ไม่สมบูรณ์ ยังไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อของลูกตาให้กลอกกลิ้งไปตามความต้องการได้ กล้ามเนื้อของลูกตาทั้ง 2 ข้าง ยังทำงานไม่ประสานกัน

แต่ตาสามารถมองไปที่แสงได้ และภายใน 2-3 วัน ก็ติดตามการเคลื่อนที่ของแสงได้ในระยะเวลาสั้นๆ ไม่เหมือนปากที่พร้อมจะดูดนมและหันเข้าหาแหล่งให้น้ำนม เมื่อนำมาแตะข้างๆปากเวลาเด็กหิว การดูดก็จะดูดติดต่อกันจนกว่าจะอิ่มหรือหลับไปก่อน
ถ้าเอาของเล่นใส่มือให้กำเด็กจะกำไว้แน่น โดยเฉพาะถ้าเอาใส่ทางนิ้วก้อย จะยิ่งกำไว้แน่น พยายามแย่งดึงออกเท่าไรก็จะไม่ปล่อย และก็ไม่ได้ยกของเล่นนั้นไปดู เพราะเด็กแรกเกิดจะยังไม่สามารถเคลื่อนมือผ่านมาที่หน้าได้

ของเล่นจึงยังไม่มีประโยชน์ที่จะมีไว้ให้เด็กถือเล่นในระยะแรกเกิดนี้ แต่มีไว้เพื่อฟังเสียงได้
เด็กสามารถรับฟังเสียงได้ตั้งแต่แรกเกิด เพราะหูมีการพัฒนาอย่างสมบูรณ์แล้ว เสียงเพลงจากหีบเพลง จากวิทยุ เทปเสียงเห่กล่อมลูก เสียงที่ไพเราะ เข้าจังหวะ จะช่วยทำให้เด็กเกิดภาวะสงบ มีประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาทางด้านจิตใจ
ของฝากสำหรับเด็กแรกเกิดจึงควรจะเป็นหีบเพลง ที่มีท่วงทำนองไพเราะ ดนตรีเข้าจังหวะ ไม่ร้อนรน
กระดิ่งหรือกุ๋งกิ๋ง สงบเสียงร้อง

เสียงดังกริ๊งๆของกระดิ่ง หรือเสียงดังกุ๋งกิ๋งเกิดจากการใช้มือของเราสั่นของเล่นให้เกิดเสียงที่ดังแตกต่างจากเสียงเพลงที่ใช้เห่กล่อมลูกเมื่อแรกเกิด เสียงเพลงทำให้ลูกเกิดภาวะสงบ แต่ในขณะที่ลูกร้องไห้อย่างไม่ยอมหยุด เสียงเพลงนั้นก็จะไม่มีความหมาย

เสียงกระดิ่งหรือกุ๋งกิ๋งที่ดังแทรกขึ้นมาอย่างร้อนรน สามารถทำให้เด็กหยุดร้องไห้ได้ และลดปฏิกิริยาที่กำลังทำอยู่ทันที ในจังหวะนี้จึงเป็นโอกาสที่แม่จะสงบใจตนเองและคิดถึงความต้องการของลูก
เยื่อแก้วหูของเด็กบอบบางควรแก่การทะนุถนอม ไม่ควรจะให้รับฟังเสียงที่ดังเกินไป ระดับความดังของเสียงเท่ากับระดับเสียงที่ผู้ใหญ่รับฟังได้ปกติ

การสั่นกระดิ่งหรือกุ๋งกิ๋งจึงควรสั่นให้ห่างจากหูของเด็ก เมื่อแม่สั่นกระดิ่งหรือกุ๋งกิ๋งข้างหูของลูก เสียงที่แม่ได้ยินอาจพอดี เพราะระยะทางจากแหล่งกำเนิดเสียงกับหูของแม่ห่างกัน แต่มีระยะใกล้กับหูของลูก เสียงซึ่งเป็นคลื่นสั่นสะเทือนจะเดินทางไปกระทบเยื่อแก้วหูด้วยความแรง และเป็นอันตรายได้
เสียงที่พอเหมาะจะกระตุ้นความรู้สึกของเด็กได้โดยไม่เป็นอันตรายและไม่ทำลายสุขภาพจิตคือ การสั่นกระดิ่งหรือกุ๋งกิ๋งตรงหน้าเด็ก และอยู่ห่างใบหน้าหลายๆนิ้ว ซึ่งจะได้ประโยชน์ในการบริหารสายตาด้วย
เพราะเมื่อเด็กอายุได้ 1 เดือน สายตาจะเริ่มพัฒนาดีขึ้น เริ่มมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้ แต่ต้องอยู่ห่างหลายๆนิ้ว ถ้าไกลออกไปเด็กจะไม่สนใจมอง ในระยะนี้นอกจากเด็กจะตื่นขึ้นมาเพื่อกิน ยังตื่นขึ้นมาบริหารสายตาอีกด้วย

เด็กมองหน้าแม่ได้ในขณะที่ดูดน้ำนมจากแม่ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าระยะห่างระหว่างตาลูกกับหน้าแม่เป็นระยะที่พอดีที่ลูกจะมองได้ชัด การนำเอาของเล่นมาให้ลูกดูจึงควรวางให้ห่างจากสายตาเท่าๆกับระยะดังกล่าวนี้ เมื่อลูกสนใจที่จะมองวัตถุจึงเป็นหน้าที่ของกล้ามเนื้อลูกตาที่จะต้องทำงานควบคุมให้ตาอยู่นิ่งเพื่อมองวัตถุ เป็นการบริหารกล้ามเนื้อลูกตาได้อย่างดี


ดังนั้นของฝากในระยะ 1 เดือนแรกจึงควรเป็นกระดิ่งหรือของเล่นกุ๋งกิ๋งที่เป็นสีสด สว่าง แวววาว เพราะจะทำให้เด็กมองได้ดีขึ้น
                                                              
                                                                                                                            (อ่านต่อฉบับหน้า)

 

ข้อมูลสื่อ

186-007
นิตยสารหมอชาวบ้าน 186
ตุลาคม 2537
สุมนา ตัณฑเศรษฐี