• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

หนุ่มสาวยุค 2001 กับเรื่องนั้น

เรื่องนั้น...ที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า เซ็กซ์ เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งของมนุษยชาติในการเจริญเผ่าพันธุ์ เป็นเรื่องราวที่อาจจะเป็นสีสันของชีวิตทำให้เกิดความสุขสม เป็นสัมผัสรักที่จับต้องได้ เหมือนที่กล่าวกันมาเสมอ ๆ ว่ากามารมณ์เป็นพื้นฐานของชีวิตคู่ แต่เซ็กซ์ก็เป็นดาบสองคม ซึ่งอาจจะกลับมาบาดตัวเองให้เป็นแผลลึกที่เจ็บปวด และต้องรำลึกถึงเสมอไปก็ได้

การเรียนรู้ถึงพฤติกรรมทางเพศของคนเราจึงเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี และปลอดภัยจากความรักและกามารมณ์ที่ไม่เหมาะสม

การสำรวจพฤติกรรมทางเพศของมนุษยชาติทั่วโลกนั้น กระทำกันทุกปี และรู้จักกันทั่วไปในนามของดูเร็กซ์โพล ซึ่งในปี ค.ศ. 2001 ... ปีแรกแห่งสหัสวรรษใหม่นั้นก็มีข้อมูลต่าง ๆ ที่น่าสนใจและน่าศึกษา เพื่อที่จะได้นำมาเป็นข้อมูลใช้ในการดำเนินชีวิตในยุคใหม่ที่ความรักและกามารมณ์มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ง่าย และโอกาสจะเกิดความผิดพลาดก็สูงขึ้นเป็นเงาตามตัว

เมื่อพูดถึงคำถามที่รอคอยคำตอบของหนุ่มสาวยุค 2001 แล้วมีคำถามที่น่าสนใจมาก

ทราบไหมครับว่า หนุ่มสาวนั้นมีคำถามคาใจต่าง ๆ ที่ติดอันดับแรก ๆ แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน จึงมีคำกล่าวว่า ผู้ชายมาจากดาวอังคาร และผู้หญิงมาจากดาวศุกร์นั่นแหละ

เพราะผู้หญิงจะคิดถึงความรักก่อนเสมอ ในขณะผู้ชายจะคิดถึงปฏิบัติการทางเพศก่อน !! และยังคงเป็นแบบนี้มาในทุกยุคทุกสมัยโดยไม่เคยเปลี่ยนแปลง

ปัญหาคาใจอันดับ 1 ถึง 3 ที่ผู้ชายอยากจะถามก็คือ
- ทำอย่างไรจึงจะทราบว่า ผู้หญิงคนที่คบอยู่ไม่เคยมีความสัมพันธ์กับชายใดมาก่อน
- ทำอย่างไรจึงจะสามารถปฏิบัติการร่วมกับแฟนได้อย่างมีความสุขสม
- ทำอย่างไรจึงจะสามารถทำให้คู่นอนมีความสุขได้พร้อม ๆ กับตัวเองได้

3 อันดับแรกของคำถามคาใจของหนุ่ม ๆ นั้น อันดับ 1 และอันดับ 2 เป็นคำถามที่ติดอันดับดังกล่าวมาตลอดในทุกยุคทุกสมัย มีแต่อันดับ 3 เท่านั้นที่เปลี่ยนแปลงไป

ในอดีตสิ่งที่เป็นคำถามคาใจอันดับ 3 ของชายหนุ่มก็คือ ทำอย่างไรจึงจะไม่ติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ผู้ชายยุคเก่านั้นคิดถึงตัวเองเป็นส่วนใหญ่ หรือจะพูดแบบชาวบ้านก็ว่าเห็นแก่ตัวเองเป็นที่ตั้ง คิดถึงความสุขสมของตนเองเป็นเรื่องใหญ่ คิดถึงความปลอดภัยเฉพาะแต่ของตนเองโดยไม่สนใจคู่ที่มีสัมพันธ์สวาทว่าจะเป็นอย่างไร จนกระทั่ง 2-3 ปี ที่ผ่านมานี้เท่านั้น ที่คำถามคาใจอันดับ 3 เริ่มจะเห็นว่า ทำอย่างไรจึงจะทำให้คู่ของตนมีความสุขสมพร้อมไปด้วย

จะเป็นเพราะการออกมาเรียกร้องสิทธิของผู้หญิงในความเท่าเทียมกันหรือผู้ชายเกิดจะเป็นสุภาพบุรุษนักรักก็เหลือจะเดา แต่พอสรุป ๆ ได้ว่าผู้ชายยุค 2001 นั้น เห็นแก่ตัวน้อยลง และเห็นกับคู่ของตนมากขึ้น

แต่แน่นอนที่ครองอันดับแรกก็คือ พวกเขาอยากรู้ว่าผู้หญิงที่เขาจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งนั้นเป็นของเขาเป็นคนแรกหรือเปล่า เพราะเคยมีคำกล่าวว่าผู้ชายนั้นจะเป็นผู้ที่มีสโลแกนประจำใจว่า “ข้า ฯ จะไปเหยียบย่างยังดินแดนที่ไม่เคยมีใครไปมาก่อน”

เขาต้องการเป็นคนแรกของเธอ ... แต่เธอต้องการเป็นคนสุดท้ายของเขาเหมือนปัญหาคาใจอันดับต้น ๆ ของพวกเธอซึ่งมีว่า ...
- ทำอย่างไรชีวิตคู่จะยืนยาวและเป็นสุข
- ครั้งแรกมันเจ็บไหม
- ทำอย่างไรจึงจะไม่ติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

แน่นอนว่าคำถามคาใจ 2 อันดับแรกของสาวๆ นั้น ครองอันดับมาทุกยุคทุกสมัยเช่นกัน เพราะในความเป็นผู้หญิงนั้นสิ่งที่เธอต้องการก็คือ ความรัก ความเข้าใจ ความอบอุ่น ความมั่นคง ความจริงใจจากชายคนรักของเธอ เธอเป็นคนที่กว่าจะเกิดความรักนั้นยาก แต่เมื่อเกิดแล้วความรักจะดำรงอยู่ตลอดไป และเธอจะพยายามนำทุกอย่างเพื่อที่จะทำให้นาวารักของเธอและเขาสามารถผ่านมรสุมร้ายต่าง ๆ ไปอย่างไม่ย่อท้อ ...นั่นจึงเป็นสัญชาตญาณเบื้องต้นความเป็นหญิงที่เมื่อรักใครแล้วมักจะคิดถึง และสนใจความรู้สึกของเขามากกว่าของตนเอง

อย่างไรก็ตาม คำร่ำลือเกี่ยวกับการเจ็บปวดรวดร้าวจากการร่วมรักครั้งแรกนั้นก็เป็นคำถามที่อยู่ในใจของสาว ๆ เกือบทุกคน แม้ว่าเรื่องราวเกี่ยวกับการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่เขียนบรรยายในหนังสือต่าง ๆ จะแสนหวานอย่างไร...เธอก็ยังกลัวอยู่

และความรักเท่านั้น... ที่ทำให้เธอยอมเป็นของเขาโดยไม่กลัวเจ็บ
เมื่อมาถึงปัญหาคาใจของสาว ๆ นั้น ในอดีตจะเป็นคำถามว่า จะปกป้องตัวเองอย่างไรไม่ให้เกิดการตั้งครรภ์ในขณะที่ยังไม่พร้อมอยู่ แต่ปัจจุบันคำถามดังกล่าวเปลี่ยนไปเป็นการป้องกันตนเองจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อย่างไร

ทั้ง ๆ ที่คำตอบของทั้ง 2 คำถามดังกล่าวนั้นเป็นคำตอบเดียวกันก็คือ...ให้ฝ่ายชายสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่จะมีเพศสัมพันธ์กัน

ยอมเขาทุกอย่างแล้ว ถ้าเขายังไม่ยอมสวมถุงยางอนามัยอีก...จะไปยอมเสียตัวให้เขาเพื่อที่จะมาเสียใจทีหลังทำไม

นอกจากเขายอมไปตรวจก่อนแต่งว่าปลอดภัยจากโรคร้ายที่จะถ่ายทอดทางเพศสัมพันธ์แล้ว จึงค่อยยอมเป็นของเขา โดยไม่มีถุงยางอนามัยมาปกป้องภยันตราย...ก็เขาปลอดภัยแล้วนี่นา

แม้ว่าจะไม่ปลอดภัยจากการป้องกันการตั้งครรภ์ที่ยังไม่พร้อมก็ตาม...แบบนั้นผู้หญิงก็อาจจะยอมคุมกำเนิดโดยวิธีใดวิธีหนึ่ง

ด้วยเหตุนี้แหละ คำถามเกี่ยวกับวิธีการเลือกใช้วิธีคุมกำเนิดจึงเป็นคำถามในอันดับ 4 ของหนุ่มสาว

ทราบไหมว่า...ครั้งแรกของกันและกันนั้นเขาและเธอเป็นของใคร คำตอบก็คือครั้งแรกของหนุ่ม ๆ นั้น 3 ใน 4 คน มีเพศสัมพันธ์กับสาวคนรัก (หรือที่คิดว่ารัก) ในขณะที่ครั้งแรกสาว ๆ นั้นร้อยละ 95 มีความสัมพันธ์กับแฟนหนุ่มของเธอ...ด้วยความรักและในบรรยากาศแสนโรแมนติกที่เป็นใจ

มีผู้ชายอีกเกือบ 1 ใน 4 เท่านั้นที่แสวงหาประสบการณ์ครั้งแรกด้วยการ “ขึ้นครู” กับสาว ๆ ที่ให้บริการทางเพศ ซึ่งอาจจะเป็นครูคนแรกของพวกเขาในประสบการณ์พิศวาส และหนุ่มที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ต้องหมดอนาคตลงไป เนื่องจากไม่ป้องกันตนเองโดยการสวมถุงยางอนามัยเมื่อขึ้นครูในครั้งแรก

คำถามสำคัญที่ควรจะเป็นคำถามอันดับแรกในยุคนี้จึงควรจะเป็น....การมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยควรจะเป็นอย่างไร เสียมากกว่า...จริงไหมครับ

จะรักจะใคร่จะเป็นของกันและกันอย่างไรขอให้ปลอดภัยไว้ก่อน

สำหรับผู้หญิงแล้ว การรักนวลสงวนตัวนอกจากจะทำให้มีคุณค่าเป็นกุลสตรีที่ชายมีความเป็นสุภาพบุรุษหมายปองแล้ว ยังเป็นการปกป้องตนเองจากอันตรายของการมีเซ็กซ์ก่อนเวลาด้วย และผู้ชายทั้งหลายคงจะต้องเริ่มมีความเป็นสุภาพบุรุษมากขึ้นด้วย

...เพื่อสังคมที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้

 

ข้อมูลสื่อ

276-007
นิตยสารหมอชาวบ้าน 276
เมษายน 2545
นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์