• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

อาหารต้านมะเร็ง

อาหารต้านมะเร็ง


สังคมสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราในปัจจุบันล้วนปะปนไปด้วยสารพิษ เช่น ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ ควันจากโรงงานอุตสาหกรรม ควันไฟ สารพิษฆ่าแมลง ยาบางชนิด และควันบุหรี่ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ล้วนมีส่วนที่ทำให้ร่างกายเกิดเจ็บป่วยได้ทั้งสิ้น และโรคที่น่ากลัวอีกโรคหนึ่ง ก็คือ โรคมะเร็ง

กลไกการเกิดโรคมะเร็ง

มะเร็งไม่ใช่โรคที่เกิดขึ้นได้ง่ายๆ ฉะนั้นจึงมีหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคนี้ ทั้งด้านลักษณะนิสัยการกิน สิ่งแวดล้อม และเกิดจากสาเหตุภายในร่างกายของเราเอง ถ้าภูมิต้านทานในร่างกายอ่อนแอลง โอกาสที่จะเกิดมะเร็งนั้นก็เพิ่มมากขึ้น ปกติภายในร่างกายจะมีอวัยวะที่สำคัญมากทำหน้าที่ในการขับสารพิษออกจากร่างกาย คือ ตับ ไต และปอด ในเวลาที่ร่างกายแข็งแรงอวัยวะเหล่านี้จะทำงานได้อย่างเต็มที่ แต่เมื่อใดก็ตามที่ภูมิต้านทานภายในร่างกายอ่อนแอลง สารก่อมะเร็งจะสะสมในร่างกายมากขึ้นและเริ่มก่อกวนร่างกาย โดยเจ้าตัวสารก่อมะเร็งเหล่านี้จะไปแทรกแซงในระบบโครงสร้างของเซลล์ รบกวนความอุดมสมบูรณ์ของเซลล์ ผลจากการก่อกวนดังกล่าวทำให้มีการทำลายหน่วยพันธุกรรม (DNA) และลักษณะของเซลล์ ทำให้เซลล์มีลักษณะผิดปกติและอาจมีการแพร่ขยายเข้าไปในอวัยวะอื่นๆ ได้ และมีการทำลายอวัยวะนั้นๆ เราเรียกกลุ่มเซลล์นี้ว่า “เนื้อร้ายหรือมะเร็ง” ซึ่งจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
สร้างเสริมภูมิต้านทานให้ร่างกาย

ระบบต้านทานในร่างกายจะทำงานได้ดีก็ต่อเมื่อสารโปรตีนที่จำเป็นมากพอ แหล่งอาหารโปรตีนที่สำคัญ คือ เนื้อสัตว์ต่างๆ โปรตีนที่มาจากพืชซึ่งราคาถูกกว่านั้นมักจะมีคุณภาพไม่ครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ ดังนั้น การกินโปรตีนจากพืชจะต้องมีความรู้ประกอบด้วยว่า จะต้องกินพืชชนิดไหนจึงจะได้โปรตีนที่มีคุณค่าครบถ้วน และอาหารจากพืชที่จะมีโปรตีนเทียบเท่าจากเนื้อสัตว์ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วก็คือ อาหารที่มีส่วนประกอบจากถั่วเหลืองและงา แต่วิธีหนึ่งที่น่าสนใจในการป้องกันการเกิดมะเร็งอันเป็นผลมาจากการที่ร่างกายมีภูมิต้านทานที่อ่อนแอลง นั่นคือ การกินอาหารที่มีเบต้า-แคโรทีน (เป็นสารเริ่มต้นของวิตามินเอ) ในปริมาณที่เพียงพอซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าจะสามารถช่วยยับยั้งการเกิดมะเร็งได้

เบต้า-แคโรทีนคืออะไร

เบต้า-แคโรทีน (Beta-carotene) เป็นเม็ดสีที่ถูกสร้างขึ้นในพืช สาหร่าย และแบคทีเรีย ซึ่งมีอยูมากมายในผัก ผลไม้ ที่มีสีเหลือง สีส้ม และผักใบเขียวเข้ม เมื่อร่างกายได้รับเบต้า-แคโรทีนเข้าไปแล้ว จะเปลี่ยนสารชนิดนี้ให้เป็นวิตามินเอ ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อดวงตาของเรา สารเบต้า-แคโรทีนนอกจากจะมีผักและผลไม้บางชนิดแล้ว ยังมีในรูปของยาเม็ดเฉกเช่นเดียวกับอาหารเสริมสังเคราะห์ คือ ยาเม็ดวิตามินเอ อย่างไรก็ตาม หากร่างกายได้รับวิตามินเอมากเกินไปจะเกิดพิษต่อร่างกายได้ เพราะวิตามินเอสังเคราะห์ร่างกายจะไม่สามารถควบคุมถ้ามีวิตามินเอมากเกินความต้องการ แต่วิตามินเอที่เปลี่ยนมาจากเบต้า-แคโรทีนร่างกายจะเปลี่ยนออกมาในปริมาณที่จำเป็นต้องใช้เท่านั้น ดังนั้น คนเราจึงสามารถกินอาหารที่มีเบต้า-แคโรทีนมากๆ ได้โดยไม่ทำให้ปริมาณวิตามินเอในร่างกายมากเกินไป

เบต้า-แคโรทีนมีผลดีต่อร่างกายอย่างไร

เบต้า-แคโรทีนจะทำงานร่วมกับสารอาหารอื่นๆ ที่ช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น และนักวิทยาศาสตร์ยังมีหลักฐานที่ชี้ชัดว่าเบต้า-แคโรทีนสามารถยับยั้งโมเลกุลที่มีปฏิกิริยาว่องไวหรืออนุมูลอิสระ โดยเบต้า-แคโรทีนจะไปจับกับอนุมูลอิสระซึ่งจะทำลายเซลล์ ทำให้สามารถหยุดยั้งการทำลายเนื้อเยื่อหรือเซลล์อื่นๆ นอกจากนี้จากผลการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันและชาวแคนาดายังพบว่า เบต้า-แคโรทีนอาจช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจและต้อกระจกได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม การป้องกันมะเร็งไม่ใช่เพียงแค่เสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายด้วยการกินอาหารที่มีเบต้า-แคโรทีนมากๆ เท่านั้นแต่ยังขึนอยู่กับพฤติกรรมการบริโภคด้วย เช่น ไม่กินอาหารที่ปิ้ง ทอด ย่าง ลมควัน จนไหม้เกรียม และหากรู้ว่าสิ่งใดมีโทษก็ไม่ควรรับเข้าสู่ร่างกาย ก็อย่างเช่น เหล้าและบุหรี่ไงคะ แต่คนเราจะมีร่างกายที่แข็งแรงได้มิใช่เพราะอาหารเพียงอย่างเดียว ควรจะต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ และที่สำคัญคือ อย่าเครียด หรือวิตกกังวลจนเกินไป เพียงเท่านี้ไม่ว่าเชื้อโรคชนิดไหนๆ ก็ไม่สามารถทำร้ายร่างกายคุณได้หรอกค่ะ

ข้อมูลสื่อ

171-011
นิตยสารหมอชาวบ้าน 171
กรกฎาคม 2536
รู้ก่อนกิน
สมฤดี สาธรสัมฤทธิ์ผล
เอมอร อุดมเกษมาลี