• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

สงสัยอวัยวะเพศของลูกว่าเป็นหญิงหรือชาย

สงสัยอวัยวะเพศของลูกว่าเป็นหญิงหรือชาย

สมจิตหอบลูก (ชาย) ออกจากโรงพยาบาลกลับไปบ้านด้วยความดีใจ ความที่เห่อลูก( ชาย ) จึงเชิญพ่อแม่ พี่น้อง ปู่ย่า ตายาย ตลอดจนเพื่อนบ้านมาเลี้ยงฉลองกันใหญ่โต
 

พอถึงเวลาสำคัญที่ญาติพี่น้องและแขกจะได้ชมโฉม “ไอ้จู๋” ของลูก (ชาย ) สุดที่รัก

สมจิตต้องตกใจเกือบช็อกรู้สึกหน้าเสียและเสียหน้ามาก เพราะ “ ไอ้จู๋ “ ของลูก ( ชาย ) ไม่ยักกะมี เขารีบหอบลูกกลับมายังโรงพยาบาลที่ทำคลอดด้วยคิดว่านางพยาบาลคงสับเปลี่ยนลูก เอาลูกผู้หญิงมาให้ แต่ที่จริงแล้ว ป้ายข้อมือเบอร์ หน้าป้ายเวชทะเบียนก็ตรงกันทุกอย่างว่าเป็นลูกของสมจิตจริงๆ

ข้อผิดพลาดอยู่ที่คนบอกเพศตั้งแต่อยู่ในห้องคลอด ซึ่งอาจเป็นพยาบาลหรือผู้ช่วย เห็นหรือดูอวัยวะเพสไม่ละเอียด ก็บอกไปว่าเพศชาย ผู้เขียนป้ายข้อมือ แผนกเวชระเบียนก็เขียน เพศชาย ไปตลอดว่า เป็น ด.ช.บุตรนาง…ซ้ำร้ายคุณหมอผู้ตรวจเด็ก เมื่อตรวจดูอย่างละเอียดแล้วเขียนในบันทึกประวัติการตรวจร่างกายว่า เป็นเพศหญิง แต่ไม่ได้แก้หน้าป้ายและไม่ได้บอกกับแม่เด็กว่าลูกเป็นเพศหญิงหรือเพศชายทำให้คุณพ่อสมจิต และแม่เข้าใจผิดมาตลอด

นั้นเป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นในโรงพยาบาลที่ไหนก็ได้แต่ที่อยากจะพูด ก็คือ เรื่องอวัยวะเพศของเด็ก พ่อหรือแม่ต้องดูให้ดีว่าเป็นเพศอะไรกันแน่ ถ้าเป็นเพศชายก็ต้องลองคำดูว่ามีอัณฑะ (ไข่ )หรือไม่ และขนาดของจู๋เล็กใหญ่พอสมควรหรือไม่ ถ้าเล็กเกินไปหรือใหญ่เกินไปจนผิดสังเกต ก็ปรึกษาแพทย์เสียหน่อย เพราะอาจมีโรคแทรกซ้อนที่อันตราย และถ้าปล่อยไว้จนโตก็จะแก้ไขลำบาก

ส่วยฝ่ายเด็กหญิงก็ต้องดูตรงแคมของอวัยวะเพศว่ามีลักษณะย่นๆเหมือนถุงอัณฑะของเพศชายหรือไม่ และตรงอวัยวะเพศตรงกลางโตเกินไปหรือไม่ถ้าผิดสังเกตก็ลองปรึกษาดู ทั้งสองเพศที่ลักษณะของอวัยวะเพศไม่แน่ว่าจะเป็นไปทางใดทางหนึ่ง เรียกว่า “อวัยวะเพศกำกวม” ผู้ที่จะวินิจฉัยได้ชัดเจน ก็คือ แพทย์เท่านั้นแหละ

กล่าวคือ โดยสรุปควรดูอวัยวะเพศของลูกซะหน่อยว่า ปกติหรือไม่ เพื่อให้ลูกเติบโตได้ตรงเพศ

ข้อมูลสื่อ

177-002-1
นิตยสารหมอชาวบ้าน 177
มกราคม 2537
เรารักสุขภาพ
นพ.อำนาจ บาลี