• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

เอกลักษณ์ของเอกบุรุษและสตรี

เมื่อกล่าวถึงเสื้อผ้าอาภรณ์ที่สวมใส่แล้ว ไม่มีใครปฏิเสธว่าเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันของมนุษย์

ในยุคแรก เสื้อผ้าเป็นเพียงสิ่งที่นำมาปกคลุมร่างกายเพื่อให้เกิดความอบอุ่นขึ้นเท่านั้น โดยนำเอาหนังสัตว์มาคลุมกับร่างกายเพียงเพื่อปกปิดอวัยวะสืบพันธุ์ด้วยใบหญ้า ใบไม้ ต่อมาเมื่อมนุษย์เจริญขึ้น ได้มีการแสวงหาเส้นใยของพืชและต้นไม้ เส้นใยจากตัวไหมมาทอเย็บเป็นเสื้อผ้าขึ้น ต่อมาเสื้อผ้าได้ค่อยๆเปลี่ยนบทบาทจากที่ใช้ปกคลุมร่างกายและสร้างความอบอุ่น มาเป็นสัญลักษณ์ของชนชาติหรือเผ่าพันธุ์ด้วย จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม ซึ่งแสดงถึงความเจริญทางด้านวัตถุ

ในปัจจุบัน การผลิตเสื้อผ้าที่ทันสมัยตามแฟชั่น ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงถึงศิลปะในการแต่งตัวเท่านั้น ยังเป็นการแข่งขันทางด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อการส่งออกครองตลาดโลกอีกด้วย มีการผลิตเส้นใยเทียม เช่น เทโตรอน ซึ่งคล้ายใยฝ้าย อะครีลิค เลียนแบบขนสัตว์ ไหมพรม ไนลอนคล้ายผ้าไหม และอื่นๆอีกมากมาย ดังนั้น การสวมใส่เสื้อผ้าจึงไม่ใช่เพียงเอาผ้าคลุมตัวคล้ายชาวกรีกหรือชาวบ้านบางระจัน แต่เป็นศาสตร์แขนงหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพและแสดงถึงรสนิยมของบุคคลผู้นั้นด้วย

เสื้อผ้าที่เหมาะสม ควรประกอบด้วยคุณสมบัติ 4 ประการคือ
ประการแรก ต้องเพิ่มความอบอุ่นต่อร่างกายตามสภาวะดินฟ้าอากาศ เช่นหน้าร้อนเสื้อผ้าควรจะบางและซับเหงื่อได้ ผ้าที่เหมาะสมจึงมักเป็นผ้าฝ้ายสีขาว ผ้าลินิน ผ้าไหมที่บาง และผ้ายืด จะดีกว่าผ้าทอ

ประการที่สอง เสื้อผ้าต้องทำความสะอาดได้ง่าย เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคหรือมีกลิ่นจากเชื้อรา ทำให้เป็นโรคผิวหนัง หรือโรคทางเดินหายใจได้ ผ้าเทโทรอนผสมฝ้ายซักได้ง่ายและแห้งเร็ว ผ้าฝ้ายไม่ควรใส่แป้งมากเพราะเป็นอาหารอันโอชาให้กับเชื้อโรค เชื้อรา ผ้าที่ซักน้ำได้จะเหมาะสมกว่าผ้าที่ต้องซักแห้ง เพราะซักได้บ่อยทุกวัน และไม่มีการแพ้น้ำยาซักแห้งที่หลงเหลืออยู่ในเสื้อผ้านั้น

ประการที่สาม การสวมใส่ต้องง่าย เสื้อที่สวมศีรษะควรเป็นผ้ายืด เสื้อเชิ้ตส่วนใหญ่ทำจากผ้าทอ มีกระดุมอยู่ด้านหน้า กางเกงผู้ชายควรมีซิปหรือกระดุมอยู่ข้างหน้า เพื่อความสะดวกในการปัสสาวะ กระโปรงของสตรีควรมีกระดุมหรือซิปอยู่ด้านข้าง สำหรับสตรีที่ต้องนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ ควรใส่กางเกงหรือกระโปรงกางเกง

ประการที่สี่ ราคาของเสื้อผ้าไม่ควรแพงเกินไป ทั้งนี้เนื่องจากราคามาตรฐานของเสื้อผ้า เช่น ความสวยของกระดุม กระดุมเหล็ก กระดุมมุกย่อมแพงกว่ากระดุมพลาสติก การปักดอกไม้ สัญลักษณ์ต่างๆ เป็นต้น และที่สำคัญคือเนื้อผ้าแบบเดียวกัน ถ้าปักสัญลักษณ์ของยี่ห้อที่มีการโฆษณามาก ราคาเสื้อผ้านั้นยอมสูงขึ้นกว่าธรรมดาหลายเท่า เพราะผู้ผลิตต้องเสียค่าโฆษณาไปมาก

เสื้อผ้าที่ดีไม่ควรสิ้นเปลืองเนื้อผ้ามากอย่างที่เราคิด กระโปรงทำงานไม่ต้องมีจีบมากมายจนคล้ายกระโปรงเต้นรำ แต่ควรมีการผ่าด้านข้างเพื่อสะดวกต่อการเดินหรือนั่ง เสื้อผ้าที่หลวม และใหญ่กว่าตัวเราไม่เพียงแต่ทำให้ดูรุ่มร่าม แต่ยังไม่เหมาะสมกับผู้ใช้แรงงานหรือผู้ชอบการออกกำลังกาย

นอกจากนี้ การแต่งกายที่ฉาบฉวยเกินไปยังสร้างบุคลิกที่ไม่ดี ถ้าบุคคลอื่นเขาคิดว่าเราเป็นดารา อาจจะโชคดีไป แต่ส่วนมากเขามักมองเป็นอย่างอื่น ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย

สีของเนื้อผ้าที่สวมใส่ ยังสามารถสื่อความหมายหลายอย่าง ผู้ที่เป็นช่าง กรรมกร ชาวนา มักจะใส่เสื้อผ้าสีเข้มที่มองเห็นความสกปรกยาก เช่น น้ำเงิน หรือสีดำ ซึ่งไม่เหมาะกับดิน ฟ้า อากาศ ของบ้านเรา ความจริงผู้ใช้แรงงาน ซึ่งทำงานอยู่กลางแจ้งควรใช้เสื้อผ้าสีขาวมากกว่า เพราะถึงแม้จะดูสกปรกแต่ก็ซักได้ และสีขาวช่วยสะท้อนแสงอาทิตย์ที่ส่องมา ทำให้ความร้อนถูกดูดซึมเข้าไปในเสื้อผ้าได้น้อยกว่าผ้าสีเข้มหรือสีดำ

ในทางตรงกันข้ามผู้ที่สวมใส่เสื้อผ้าสีขาว สะอาดตลอดเวลา มักจะแสดงถึงความเป็นผู้ไม่ต้องทำงานหนัก และที่ร้ายไปกว่านี้ ผู้ชายที่ใส่เสื้อขาว กางเกงขาว มักทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดคิดว่าเป็น “ผู้ชายนะยะ” ไม่ใช่ผู้ชายจริงๆ แต่การใส่เสื้อขาวกางเกงขาวในการเล่นกีฬากลางแจ้งเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามเหตุผลที่ได้กล่าวมาแล้ว

ในประเทศเราซึ่งมีอากาศร้อน และแสงแดดจ้าตลอดปี สีเสื้อผ้าควรเป็นสีที่สดใส เพราะสะท้อนแสงได้ ทำให้ไม่ร้อน แฟชั่นเสื้อผ้าสีดำเหมาะสำหรับประเทศหนาว เพราะสีดำดูดซึมความร้อนได้ดี ประเพณีของเราถือว่าสีดำเป็นสีแห่งความโศกเศร้า ถ้าใครสวมใส่ชุดดำมักจะถูกถามว่าจะไปงานศพหรือเปล่า ทำให้คุณค่าของแฟชั่นหมดไปทันทีทันใด

การสวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่ถูกกับภาวะสิ่งแวดล้อมและอากาศ ทำให้เกิดข้อเสียมากมาย ผู้ที่เข้าใจว่าใส่เนื้อผ้ายิ่งหนาจะทำให้ดูยิ่งสง่าขึ้น อาจเกิดผลตรงกันข้าม คือเหงื่อออกตามซอกข้อพับต่างๆ โดยเฉพาะใต้รักแร้ ซึ่งเป็นแหล่งที่เชื้อแบคทีเรียขยายพันธุ์ได้ง่าย ทำให้เกิดกลิ่นตัวไม่เป็นที่ปรารถนา

ผู้ที่ไม่สวมใส่เสื้อผ้า โดยเฉพาะเวลากลางคืนทำให้เป็นหวัด ไม่สบายได้ง่าย เมื่ออากาศเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน ทำนองเดียวกับผู้ที่อยู่ห้องปรับอากาศ แต่ใส่เสื้อผ้าบาง ไม่มีแขน ย่อมทำให้เป็นหวัดบ่อย

ในห้องปรับอากาศจึงควรมีเสื้อคลุมเตรียมไว้อยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้เนื่องจากความรู้สึกร้อนหนาวของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันไป

ข้อมูลสื่อ

99-013
นิตยสารหมอชาวบ้าน 99
กรกฎาคม 2530
บุคลิกภาพ
รศ.ประโยชน์ บุญสินสุข