• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

"การเดิน" ดีต่อสุขภาพอย่างไร

 "การเดิน" ดีต่อสุขภาพอย่างไร

การออกกำลังกายเป็นเรื่องเฉพาะตัว
สำหรับผู้ที่ใส่ใจหมั่นออกกำลังกายก็จะได้ สุขภาพที่แข็งแรงเป็นการตอบแทน ซึ่งจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการลงทุน (เวลาและจิตใจ)
ถ้าหากมีเวลาน้อยก็เลือกออกกำลังกายแบบง่ายๆ เช่น การเดิน (เร็ว) การวิ่ง (เหยาะๆ) การว่ายน้ำ การขี่จักรยาน การเต้นแอโรบิก เป็นต้น
การออกกำลังกายที่ดีและมีประโยชน์คือการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับวัยและสม่ำเสมออย่างน้อยวันเว้นวันหรือสัปดาห์ละ 3-5 วัน วันละ 30-45 นาที
การลงทุนด้วยการออกกำลังกายประเภทใดประเภทหนึ่ง หรือหลายประเภทสลับกันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สุขภาพกายแข็งแรง สุขภาพจิตสดชื่นเบิกบาน มีชีวิตยืนยาว ก็น่าจะถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด (เชื่อไหมครับ)

"การเดิน" คือการออกกำลังกายที่ง่าย สะดวก และปลอดภัยที่สุด
ใครที่เดินได้ก็สามารถออกกำลังกายด้วยวิธีนี้ได้ นั่นคือการเดินเร็วที่สม่ำเสมอและต่อเนื่องในระยะเวลาหนึ่ง จนกระทั่งเหงื่อออกโซมกาย หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ ชีพจรเต้นเร็ว 100-120 ครั้งต่อนาที

การเดินออกกำลังกายมีวิธีการเฉพาะ กล่าวคือ ควรเริ่มที่ท่ายืนก่อน ปล่อยตัวตามสบายหายใจปกติ
ขณะเดินควรเงยหน้ามองตรง ไปให้ไกลที่สุด เดินเต็มฝ่าเท้า โดยลงส้นเท้าเหยียบพื้นให้เต็มฝ่าเท้าก่อน แล้วยกเท้าขึ้นโดยให้หัวแม่เท้าขึ้นจากพื้นเป็นส่วนท้ายของการเดิน
ควรจะเดินออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ อย่างน้อยครั้งละ 30-45 นาที วันเว้นวัน หรือสัปดาห์ละ 3-5 วัน
สำหรับความเร็วและระยะทางในการเดินนั้นขึ้นกับสภาพของแต่ละบุคคล
การเดินเพื่อออกกำลังกายแม้จะง่าย สะดวก และปลอดภัยก็ตาม แต่ก็ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาข้อเท้าและหัวเข่า
เพราะการเดินมากๆ จะทำให้ข้อและเข่าเจ็บ ควรเปลี่ยนเป็นการออกกำลังกายประเภทหรือชนิดอื่น
เช่น เดินในน้ำ ว่ายน้ำหรือรำมวยจีน เป็นต้น
สำหรับรองเท้าที่ใช้เดินออกกำลังกายนั้นก็มีส่วนในการป้องกันการบาดเจ็บได้ไม่น้อยจึงควรเลือกรองเท้าที่มีพื้นกันแรงกระแทกและรองรับอย่างมั่นคง
 

การเดิน "ดี" ต่อสุขภาพอย่างไร
1.สภาพร่างกายในทุกๆส่วนแข็งแรงสมบูรณ์โดยทำให้กล้ามเนื้อกระดูกและเอ็นแข็งแรง มีความยืดหยุ่น การเดินเป็นประจำจะทำให้กระดูกหนาแน่นและแข็งแรงยิ่งขึ้น

2.ป้องกันและต่อต้านการเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ดังคำกล่าวที่ว่า "กีฬาๆ เป็นยาวิเศษ"เช่น เป็นยาป้องกันรักษาโรคหัวใจ โรคความดันเลือด โรคกระดูกพรุน โรคเบาหวาน เป็นต้น

3.ชะลอความเสื่อมของร่างกาย ยืดระยะการเป็นหนุ่มสาวให้ยาวนาน พร้อมทั้งยังช่วยให้อายุยืนยาวยิ่งขึ้น

4.สติปัญญาเฉียบแหลม เพิ่มความสามารถในการคิด การจำดีขึ้น

5.ลดปัญหาการนอนไม่หลับ การเดินออกกำลังกายตอนเย็นแดดอ่อนๆ จะช่วยให้การนอนหลับดียิ่งขึ้น

6.ระบบการทำงานของหัวใจและการไหลเวียนของเลือดได้ดีและเป็นปกติ

7.หลอดเลือดขยายตัวและหดตัวสลับกัน ทำให้การไหลเวียนเลือดสะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยลดความดันเลือดลง

8.ระบบการย่อย และระบบการขับถ่ายของร่างกาย ทำงานได้ดีเป็นปกติ

9.เจริญอาหารยิ่งขึ้น

10.ระบบภูมิคุ้มกันหรือภูมิต้านทานโรคแข็งแรง 


11.ผิวพรรณสดใสและเต่งตึง ใครอยากสาวเสมอสวยเสมอจงเดินออกกำลังกายเป็นประจำดูซิครับ

12.ลดความเครียดได้เป็นอย่างดี
กระตุ้นให้ฮอร์โมน เอนดอร์ฟิน (หรือสารความสุข) หลั่งออกมาซึ่งมีฤทธิ์กล่อมประสาท ทำให้อารมณ์ดี รู้สึกมีความสุขเป็นพิเศษ จิตใจสดชื่นเบิกบาน รวมทั้งลดความเจ็บปวดได้ด้วย

13.ลดความหงุดหงิด ความโกรธหรืออารมณ์ไม่ดีต่างๆ ได้อย่างดี

14.ผ่อนคลายความตึงเครียดของสมอง
และกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกายได้เป็นอย่างดีเช่นกัน
15.ร่างกายหลั่งฮอร์โมนเพศมากขึ้น ความรู้สึกทางเพศจึงดีขึ้นทั้งชายและหญิง

16.จิตใจสดชื่นเบิกบาน ปลอดโปร่งแจ่มใส กระชุ่มกระชวย รู้สึกมีความสุข

เห็นไหมครับว่า การเดินดีต่อสุขภาพอย่างไร
การเดินออกกำลังกายนับว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัย ประหยัด มีประโยชน์และคุ้มค่าที่สุด สมควรใช้เป็นวัคซีนและยา (วิเศษ) ป้องกันและรักษาโรคต่างๆ ทั้งทางกายและทางใจด้วยตนเอง

ข้อมูลสื่อ

305-003
นิตยสารหมอชาวบ้าน 305
กันยายน 2547
นพดล อิ่มกระจ่าง