• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ทำไมถึงเกิดเป็นผู้หญิง

ทำไมถึงเกิดเป็นผู้หญิง

ผมเชื่อ... เชื่อว่าคุณผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ทราบหรอกว่า ตัวของอาตมานั้นมาจากไหน...เปล่าผมไม่ได้หมายความว่า คุณมาจากเหนือหรือใต้อะไรเทือกนั้น แต่หมายถึงว่ามันเป็นมาอย่างไร คุณผู้หญิงจึงมาเป็นคุณผู้หญิงเพศแม่ พูดง่ายๆ ว่ามันเป็นมาอย่างไร ถึงได้เกิดมาเป็นผู้หญิง

ชาติปางก่อนคงบนบานสานกล่าวไว้มั้ง ขอให้เกิดมาเป็นหญิงในชาตินี้ หรือชาติที่แล้วเกิดเป็นชาย ชาตินี้เกิดเป็นหญิงซะบ้าง จะได้รู้รสทั้งสองเพศ...นั้นมันงมงาย ผมไม่ทราบเหมือนกันว่า ชาตินี้ชาติหน้ามีจริงหรือไม่ ผมไม่เคยระลึกชาติได้เลยเขียนต่อไปไม่ได้

แต่ที่จะเขียนต่อไป ตั้งอยู่บนรากฐานของวิทยาศาสตร์ รากฐานของเหตุผล อ่านต่อไปแล้วคุณจะทราบว่าคุณผู้หญิงทั้งที่เป็นคุณหญิงและที่ไม่ใช่คุณหญิง นั้นมีความเป็นมาอย่างไร

เริ่มกันตั้งแต่สร้างโลก... ซึ่งก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าใครเป็นคนสร้าง...สิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกในตอนหลังแต่ก็ล้านๆ ปีมาแล้ว ก็คือ สิ่งมีชีวิต แน่ละมนุษย์หรือคนคงจะไม่มีตัวตนในสมัยทวดของดึกดำบรรพ์อันนั้น อาศัยวิวัฒนาการเรื่อยมาเปลี่ยนแปลงเรื่อยมา จนเป็นปัจจุบันอย่างที่เห็นๆ กันอยู่นี่แหละ

พูดถึงสิ่งมีชีวิตที่แบ่งเป็นเพศผู้เพศเมียนั้น มีแต่ในสัตว์ชั้นสูงเท่านั้น พวกชั้นต่ำๆ เช่น พวกเชื้อโรคทั้งหลาย มันไม่มีเพศกันหรอกครับ สูงขึ้นมาหน่อยก็เป็นกระเทย คือ มีสองเพศในตัวเดียวกันอย่างเช่น ไส้เดือน สูงขึ้นมาอีก ทีนี้ก็แบ่งแยกออกจากกันเป็นเพศผู้เพศเมีย ตัวผู้ตัวเมีย อะไรละครับเป็นสิ่งกำหนดเพศผู้เพศเมีย อ๋อ...ใช่ ถ้าคุณคิดกันง่ายๆ ก็ไอ้นั่นไงละเป็นตัวบอกเจอเด็กเล็กๆ บางคนมองไม่ออกบอกไม่ถูกว่าเป็นหญิงหรือชาย ถามเด็ก เด็กก็ไม่พูดไม่ตอบ ได้แต่แก้ผ้าให้ดู เราก็ถึงบางอ้อทันที
ความจริงแล้วการบอกเพศมันไม่ได้อยู่ที่อ้ายนั่นหรืออีนั่นแต่เพียงอย่างเดียว ทำไมรึถ้าคุณเคยเห็นคนบางคนบอกไม่ได้เหมือนกันว่าเป็นเพศหญิงหรือชาย แยกไม่ออกว่างั้นเถอะ...จะเรียกว่ากะเทยก็ได้..

ทำอย่างไร...ก็ต้องใช้วิธีอื่นพิสูจน์สิครับ แล้วผมจะสาธยายต่อให้ฟัง

คุณคงไม่กล้าค้าน ถ้าผมจะบอกว่า เจ้าหล่อนหน้าตาขนาดนางสาวไทยยังอายนั้นเป็นผู้ชาย...เปล่าหรอกมิใช่คุณกลัวว่าผมจะให้เจ้าหล่อนพิสูจน์ความเป็นชาย แล้วคุณจะอาบัติ แต่เจ้าหล่อนเป็นผู้ชายจริงๆ ชายจริงหญิงแท้อยู่ที่ใดเล่าแน่นอนอ่านมาถึงบรรทัดนี้คงบอกได้ว่ามันมิได้อยู่ที่รูปร่างหน้าตาและการแต่งตัวเท่านั้น แต่อยู่ที่หลายๆ อย่าง

ฟีโนทัยพ์ (Phenotype) และ จีโนทัยพ์ (Genotype) ผมกำลังจะอธิบาย...แต่เขียนไปก็สองไพเบี้ยนิ่งเสียตำลึงทอง...เพราะผมมิได้บรรยายให้นักศึกษาแพทย์ ท่าน บ.ก.บอกให้ผมเขียนให้คุณๆ อ่านเท่านั้นเป็นอันว่า ฟีโนทัยพ์หรือจีโนทัยพ์มันเป็นอย่างไรก็อย่าไปสนมันเลย แต่ผมจะแปลงมาให้เข้าใจแบบไทยๆ ว่า ลักษณะเพศนั้นตามหลักวิทยาศาสตร์เราจะบอกเพศได้แน่นอน ก็ต้องมองทั้งข้างนอกหรือฟีโนทัยพ์และข้างในหรือจีโนทัยพ์

มองข้างนอกนั้นอย่างไร ก็อย่างที่กล่าวนั้นแหละ มองเอาจากรูปร่างภายนอกดูอวัยวะเพศ ดูหน้าอก ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ดูแสนจะลำบาก เพราะความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ ช่วยเสริมแต่งคุณๆ คงเข้าใจและเคยเห็นมาบ้าง พูดง่ายๆ ว่าชายจริงๆ ผู้หญิงเห็นแล้วยังอายชิดซ้ายไปเลย

มองข้างใน...มิใช่ผ่าท้องมาดูกันอย่าเข้าใจผิดอย่างศรีธนญชัย...ในกรณีที่บางคนมองข้างนอกแล้วบอกไม่ได้ว่าเป็นหญิงหรือชาย เพราะอ้ายนั่นมันไม่ช่วยบอกอะไรเลยและเป็นอย่างนั้นจริงๆ ในบางครั้งก็ต้องอาศัยนี่แหละ มองข้างในมองลึกเข้าไปโดยละเอียดถึงระดับโครโมโซม...ต้องขอโทษเขียนถึงตรงนี้ผมไม่ทราบจะหาคำอะไรมาแทนโครโมโซม..เอาเป็นว่าโครโมโซมนี้มีขนาดเล็กมาก ต้องมองผ่านกล้องจุลทรรศน์กำลังขยายมหาศาลจึงจะรู้เรื่องกัน...นั่นแหละครับต้องอาศัยโครโมโซมกัน จึงจะบอกได้ว่าเป็นหญิงหรือชายกันแน่

สิ่งที่กำลังเขียนในช่วงนี้ออกจะวิชาการไปหน่อย คุณอาจจะเบื่อที่จะอ่าน ก็ขอให้ทำใจหน่อยก็แล้วกัน...นะครับ

ก็อย่างว่า โครโมโซม เป็นตัวกำหนดเพศ เขาก็มีชื่อเรียก โครโมโซมทางเพศนี้ว่า โครโมโซมเอ๊กซ์ (x) และโครโมโซมวาย (y) ผู้หญิงก็จะมีโครโมโซมเป็น xx ส่วนผู้ชายจะมีโครโมโซม xy และยังมีแปลกๆ ผิดปกติออกไปอีก แต่ผมไม่ขอกล่าวถึงในที่นี้ ความจริงแล้วอยากจะกล่าวถึงแต่ xx เพียงอย่างเดียวเท่านั้นแหละว่าเป็นมาอย่างไรแต่ก็อดจะกล่าวถึง xy ไม่ได้ มิใช่กลัวว่าเพศผู้หรือ xy จะน้อยอกน้อยใจ แต่ต้องการเปรียบเทียบให้คุณๆ ได้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น

ใครเป็นผู้กำหนดเพศในลูกที่จะคลานออกมา...ฝ่ายพ่อครับ...ฝ่ายพ่อครับเป็นผู้กำหนดในน้ำเชื้ออสุจิจะมีตัวเชื้อทั้งตัวผู้และตัวเมีย นั่นคือ ตัวเชื้อที่นำโครโมโซม x หรือโครโมโซม y ตัวใดตัวหนึ่ง ส่วนในไข่ของคุณผู้หญิงจะมีแต่โครโมโซม x แต่เพียงชนิดเดียว เมื่อเกิดอาการตัวกันขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ถ้าไข่มาผสมกับตัวเชื้อที่โครโมโซม x ลูกออกมาก็เป็น xx ใช่ครับ เป็นผู้หญิง แต่ถ้าหากไข่มาผสมกับเชื้อ y ก็ออกมาเป็น xy เป็นลูกผู้ชาย

เอาละ ที่นี้คุณก็เข้าใจแล้วสินะ ถ้าเป็นผู้หญิงละก้อ xx เป็นผู้ชายละก้อ xy ตัวคุณเองถ้าเป็นผู้หญิงอย่าไปบอกใครเขาละว่าโครโมโซมคุณนั้น xy นอกจากจะเชยแหลกแล้ว เขาอาจริคิดว่าไปว่าคุณเป็นประเทยก็ได้ ก็อย่างทีผมบอกนั่นแหละครับ เจ้าหล่อนคนนั้นสวยพริ้ง แต่เมื่อเจาะเลือดส่องตรวจโครโมโซม เป็น xy เสียนี่...

จากความรู้เรื่องโครโมโซมx และ y นี่เอง ทำให้โลกปัจจุบันนี้เราสามารถเลือกเพศได้ตามอำเภอใจ ถึงแม้ว่าไม่เป๊ะร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ให้ความหวังไว้มากเช่นกันกล่าวกันว่าไม่น้อยกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ ถ้าคุณปฏิบัติการตามหลักที่วางไว้สำหรับการเลือกเพศ

จะไปยากอะไร ถ้าต้องการเพศหญิงก็ทำให้ออกมาเป็น xx ต้องการเพศชายก็ทำออกมาเป็น xy มีไข่จากแม่เป็นตัวยืนอยู่แล้วเป็น x ที่เหลือมาเข้าคู่ตุนาหงันก็มาจากพ่อ...เชื้อ x หรือเชื้อ Y ตามแต่จะเลือก

การเลือกเพศ ก็อาศัยความรู้ที่ว่าเจ้าเชื้ออสุจิทั้งสองชนิดนั้นมีนิสัยแตกต่างกันบ้างรวมทั้งลักษณะรูปร่าง ว่ากันคร่าวๆ ก็คือ เชื้ออสุจิตัวผู้หรือเชื้อ y มีขนาดจ้อยกว่าเชื้อ เชื้อ x ความเสมอภาคในการผลิตก็แตกต่างกัน เชื้อ x มีจำนวนมากกว่า นอกจากนี้ ความคล่องตัวในสภาพความเป็นกรดด่างแตกต่างกัน เชื้อ y เมื่ออยู่ในสภาพความเป็นกรด มันจะง่อยเปลี่ยเพลียแรง ตรงข้ามกับเชื้อ x ซึ่งจะลิงโลดเหมือนเด็กๆ ได้ลงเล่นน้ำในทะเล ฉะนั้นเชื้อ y จะไม่สามารถเอาชนะเชื้อ y ได้เลย ถ้าหากจะเอามาว่ายแข่งกันในสภาพความเป็นกรด ตรงกันข้ามในสภาพความเป็นด่าง เชื้อ x ก็สู้เชื้อ y ไม่ได้ ด้วยหลักง่ายๆ เหล่านี้แหละ เขานำมาใช้เลือกเพศได้ผลมาแล้ว ส่วนวิธีปฏิบัติอย่างนั้น ผมคิดว่าเอาไว้วันหน้าค่อยเขียนให้อ่าน เพราะปัจจุบันนี้นับวันคนเราต้องการเลือกเพศมากขึ้น อันต่อเนื่องมาจากการวางแผนครอบครัว การคุมกำเนิดให้มีลูกแต่เพียงพอ แค่สองหรือสาม และครบเพศจึงจำเป็นอยู่เอง เมื่อคนแรกเป็นชาย คนที่ถัดมาก็ควรจะเป็นหญิง ใช่ไหมครับ นี่แหละผมถึงว่า ปัจจุบันนี้คนต้องการเลือกเพศมากกว่าแต่ก่อน...อย่างเห็นได้ชัด

โลกเจริญไปยิ่งกว่านั้น เขาพยายามแยกเอาเชื้อ x และเชื้อ y ออกจากกัน เป็นสองกลุ่ม ต้องการผู้ชายรึสบายมาก เอากลุ่มเชื้อ y ใส่เข้าไป ลูกก็ออกมาเป็นชาย ต้องการลูกสาวรึ ก็สบายมากอีกนั่นแหละ เอาเชื้อ x ใส่เข้าไป แค่นี้ลูกก็ออกมาเป็นหญิงสมใจปรารถนา... พูดง่ายแต่ความจริงทำยากครับ

ผมตั้งใจเขียนเกี่ยวกับเพศหญิงมาตั้งแต่ต้น แต่ก็มีเพศชายเข้ามาปนอยู่ตลอดเวลา เห็นทีจะแยกกันไม่ออก

เอาละสมมติว่า ไข่ x มาผสมกับเชื้อ y เรียกว่าเกิดปฎิสนธิเกิดเป็น xy ขบวนการการนำเชื้ออสุจิ เข้าไปผสมกับไข่ผมไม่จำเป็นต้องเขียนถึง ขอข้ามไปเลย

การปฎิสนธิเกิดขึ้นบริเวณส่วนปลาย ของท่อรังไข่ มิได้เกิดที่ท่อรังไข่เองหรือเกิดในโพรงมดลูก...ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็ถือว่าผิดปกติ...เมื่อการปฏิสนธิเกิดขึ้นแล้วผมจะเรียกผลรวมของ x จากไข่และเชื้อสุจินี้ว่า “ตัวอ่อน” ตัวอ่อนจะค่อยๆ เดินทางจากปลายท่อรังไข่สู่โพรงมดลูก จนกระทั่งลงฝังตัวในเยื่อบุผิวมดลูก กินเวลานานประมาณ 7 วัน เป็นระยะทางสิบเซนติเมตรเศษก็ลองบวกลบคูณหารเอาเองก็แล้วกันถ้าอยากจะทราบความเร็วของการเดินทางที่แสนจะบรรจงนั้น

แน่ละในระยะแรก ตัวอ่อนจะไม่แสดงลักษณะภายนอกให้ทราบเลยว่าเป็นเพศหญิงหรือเพศชาย ถ้าจะเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงของตัวอ่อนในระยะแรกของทั้งสองเพศ จะเห็นว่าคล้ายกันมาก จนกระทั่วประมาณอายุ 3 เดือนนั่นแหละครับทารกน้อยในท้องจะแสดงเพศให้เห็นแตกต่างกัน แต่ต้องสังเกตกันให้ดีนะครับ เพราะขนาดเล็กมาก และยังไม่เหมือนอย่างของเราๆ จะว่าคล้ายก็ไม่เชิง เห็นเพียงแต่แสดงให้รู้ว่านี่นะชาย นี่นะหญิง เท่านั้นแหละเป็นแท่งโผล่ออกมากระจุ๋มกระจิ๋มก็เป็นเพศชาย ไม่มีแท่งติ่งโผล่ออกมา แต่แบนราบมีร่องตรงกลางนั้น คือ หญิง แต่เราก็พอบอกเพศได้แล้วมิใช่หรือ มีคนไข้ชอบถามอยู่เสมอว่า สักกี่เดือนจึงจะรู้ว่าเป็นเพศหญิงหรือเพศชาย ก็นี่แหละครับ...สามเดือน...ต้องออกมาให้เห็นนะครับ...ถ้ายังอยู่ในท้องแล้วละก้อ...ผมจนปัญญา

เมื่อเด็กทารกอยู่ในท้อง 280 วันตามกำหนดก็จะอุแว้ๆ ออกมา...ก่อนที่จะดูส่วนอื่นของร่างกายเด็กสูติแพทย์มักจะดูอ้ายตรงนั้นแหละก่อนเพื่อน...ไม่ใช่เพราะสัปดนแต่จำเป็นต้องดู เพราะหนึ่งอยากรู้เหมือนกันว่าเด็กเป็นเพศไหน สองเมื่อรู้แล้วจะได้บอกผู้เป็นแม่ที่กำลังรอฟังอยู่บนเตียงคลอดนั้นแหละว่าเป็นหญิงหรือชาย...คุณเองก็คงอยากทราบเพศของเด็กในทันทีเหมือนกัน...ใช่ไหมครับ...ผมเชื่ออย่างนั้น

โอ้โฮ...ดีใจจัง “ได้ลูกสาว” คุณคงมีความรู้สึกอย่างนั้น ถ้าหากคุณไม่อยากได้ลูกเป็นชาย อาจเป็นเพราะเด็กผู้หญิงน่ารักกว่า เด็กผู้ชายซนหรือลูกชายอยู่แล้วหนึ่งคน

เอาล่ะเป็นอันว่าคุณได้ลูกสาวละ...ท้องนี้

ต่อจากนี้ไปก็ตั้งหน้าตั้งตาเลี้ยงลูก ผมจะไม่เขียนวิธีเลี้ยงลูก...เพราะมีหนังสือแนะนำอยู่มากมายหลายเล่มหาอ่านเอาเองได้

ความแตกต่างระหว่างเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชายในระยะขวบแรกๆ ยังแยกกันได้ยาก บางคนเอามาแต่งตัวเป็นชาย คุณอาจเข้าใจว่าเป็นผู้ชายทั้งๆ ที่มีจิ๋มซ่อนอยู่ข้างใน แต่ไม่นานเกินรอหรอกครับ ความแตกต่างระหว่างเด็กหญิงและเด็กชายจะค่อยๆ โผล่มาทีละอย่างสองอย่างแต่ก็มีอยู่หลายๆ อย่างนะครับที่เลียนแบบกันได้ไม่ว่ากิริยาท่าทาง การแต่งกาย จนมีผู้หญิงประเภทสองเยอะแยะไปหมด มีอยู่อย่างเดียวเท่านั้นแหละครับที่ผู้หญิงประเภทสองทำไม่ได้อย่างผู้หญิงประเภทที่หนึ่ง...ทราบไหมครับว่าอะไร ถ้าไม่ทราบผมจะบอกให้ก็ได้...

“รอบเดือนไงละครับ”

เชิงอรรถ

โครโมโซม (Hromosome) เป็นสารเล็กๆ อยู่ในแกน (นิวเคลียส) ของเซลล์ของสิ่งมีชีวิต เป็นตัวกำหนดชนิดของเผ่าพันธุ์ รูปร่างหน้าตา สีสันลักษณะของเพศหญิงและเพศชาย และลักษณะต่างๆ ทั้งหมดของสิ่งมีชีวิตซึ่งสามารถสืบทอดไปยังลูกหลานเหลนได้หรือพูดง่ายๆ ก็คือ มันเป็นสิ่งที่กำหนดกรรมพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตนั่นเอง ในสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดจะมีจำนวนโครโมโซมไม่เท่ากัน ในคนเราจะมีโครโมโซมอยู่ 46 ตัวหรือ 23 คู่ 22 คู่เป็นตัวกำหนดลักษณะทั่วๆ ไป (รูปร่างหน้าตา ฯลฯ) ที่เหลืออีก 1 คู่ คือ โครโมโซมเอ๊กซ์ (x) เป็นตัวกำหนดความเป็นหญิงและโครโมโซมวาย (y) เป็นตัวกำหนดความเป็นเพศชาย

ข้อมูลสื่อ

2-014
นิตยสารหมอชาวบ้าน 2
มิถุนายน 2522
นพ.พนิตย์ จิวะนันทประวัติ