• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

จ้าวโรค 2

ตอน จ้าวโรค 2

ผมมีนิวาสสถานอยู่ในคอหนูหน่อย บริเวณร่องทอนซิล ผมอยู่กับพี่น้องท้องเดียวกับผมไม่มากมายนัก บริเวณลำคอหนูหน่อยคือแถวทอนซิล โคนลิ้น ผนังด้านข้าง ด้านหลังของลำคอ มีนักเลงโตประจำถิ่นมากมาย บางพวกก็เป็นญาติสนิทกับผม บางพวกก็เป็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆ เหมือนกัน นักเลงโตประจำถิ่นแบ่งเป็น 2 พวกใหญ่ ๆ พวกหนึ่งรูปร่างกลมอยู่กันเป็นคู่ๆ หรือเป็นสายๆ เมื่อถูกย้อมสีกรัม (โปรดดูภาพพิเศษ) จะติดสีม่วง เขาเรียกว่า “กรัมบวกตัวกลม” อีกกลุ่มหนึ่งติดสีแดงหรือ กรัมลบ รูปร่างกลม ชอบอยู่เป็นคู่ๆ ถ้าดูจากการย้อมสีเฉยๆ หน้าตาจะเหมือนเชื้อหนองในเปี๊ยบทีเดียว แต่พวกที่อยู่ในคอแบบประจำถิ่นเป็นเชื้อที่เป็นญาติสนิทหับหนองในเท่านั้นเอง พวกหลังนี้เรียกว่า “กรัมลบตัวกลม” นอกจากนั้นยังมีนักเลงกระจอกแกหลายอย่าง แต่มีจำนวนสู้สองกลุ่มนี้ไม่ได้

นักเลงเหล่านี้อยู่ในคอหนูหน่อยอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน หนูหน่อยจะให้ที่อยู่อาศัยและอาหารเจ้านักเลงโตตัวกลม 2 ชนิดนี้ก็คอยป้องกันไม่ให้ผู้ร้ายอย่างผมทำอันตรายหนูหน่อยได้ ทั้งสองกลุ่มต่างพยายามรักษาพื้นที่ของตนและคอยชำเลืองดูพวกผมไม่ให้เพิ่มจำนวนมากนักเหมือนๆ กับปราบปรามผู้ก่อการร้าย (ผ.ก.ค.) เพราะถ้าไม่มีผู้ร้ายเสียเลยก็จะเหงา

บริเวณคอหนูหน่อยมีทหารป้องกันอย่างแข็งแรง ต่อมน้ำเหลืองใหญ่ที่ใครๆ ชอบเรียกผิดๆ ว่า ทอมซิน ที่จริงมีชื่อว่า “ทอนซิล” ต่างหาก ต่อมน้ำเหลืองนี้เป็นที่ดักเชื้อโรคหรือศัตรูของหนูหน่อยที่มีอิทธิพลทีเดียว นอกนั้นบริเวณผนังลำคอ และแถวโคนลิ้นก็มีต่อมน้ำเหลืองเล็กๆ มากมายทำหน้าที่ดักเชื้อโรคเช่นเดียวกันกับต่อมทอนซิล หนูหน่อยแสนฉลาดที่มีวิธีการเลี้ยงและควบคุมนักเลงโตสองกลุ่มเป็นอย่างดี ถ้านักเลงโตชักจะกำเริบเติบสานมีจำนวนเพิ่มขึ้นมากหนูหน่อยก็จะทำให้เยื่อบุผนังลำคอลอกหลุดออก คล้ายกับขี้ไคลตามตัวนั่นเอง นักเลงโตที่มีอยู่บนเยื่อบุเหล่านี้ก็หลุดเข้าไปในกระเพาะหรือถูกบ้วนออกไปนอกร่างกาย ในกระเพาะก็มีกรดคอยฆ่านักเลงโตอยู่แล้ว นักเลงโตในคอหนูหน่อยจึงมีจำนวนค่อนข้างคงที่ แต่ก็อยู่ได้พอสุขสบาย ผมถูกคุมกำเนิดทั้งโดยหนูหน่อยเองและพวกนักเลงโตประจำถิ่น ผมจึงทำอะไรหนูหน่อยไม่ได้เพียงแต่รอจังหวะ

ผมแฝงอยู่กับพวกนักเลงโตที่หน้าตาคล้ายๆ ผม คือ พวกกรัมบวกตัวกลม ตัวผมก็กลมๆ ชอบอยู่เป็นสายๆ หรือบางทีก็อยู่กันเป็นคู่ๆ อย่างที่บอกแล้วผมไม่ค่อยเป็นสุขนักเพราะต้องคอยหลีกเลี่ยงพวกนักเลงโตประจำถิ่น พวกเม็ดเลือดขาวหรือทหารของหนูหน่อย และภูมิคุ้มกันอื่นๆ เช่น ยาพิษ หรือภูมิคุ้มกันบางชนิดของหนูหน่อย ผมจึงมีจำนวนเพียงเล็กน้อยแต่ก็พออยู่ได้ในคอหนูหน่อย

หนูหน่อยเป็นเด็กแข็งแรง เพราะพ่อแม่ชอบให้ออกกำลังกายกลางแจ้งเสมอๆ พ่อแม่หนูหน่อยเป็นคนรักลูกอย่างฉลาด ไม่ตามใจหนูหน่อยมากนัก คอยจัดอาหารเพิ่มประโยชน์ไว้ให้หนูหน่อยกิน เช่น นมถั่วเหลือง หรือน้ำเต้าหู้ เนื้อ หมู ไก่ และไข่ เป็นประจำ แก้มหนูหน่อยแดง อ้วนท้วนน่ารัก นัยน์ตาสดใส ผมพยายามทำร้ายหนูหน่อยแต่หาโอกาสไม่ได้เลย ผมจึงยังแพร่พันธุ์ไม่ได้สักที

หนูหน่อยชอบเล่นกับหนูแดงเพื่อนบ้าน หนูแดงเป็นเด็กที่พ่อแม่ตามใจมาก พ่อแม่ไม่เข้าใจว่าการที่พยายามคะยั้นคะยอหนูแดงให้กินข้าวทั้งๆ ที่หนูแดงยังไม่หิวโดยให้รางวัลบ้าง ป้อนข้าวเข้าปากบ้าง ทำให้หนูแดงคนฉลาดรู้ว่า ถ้าจะเอารางวัลหรือทำไห้พ่อแม่ยอมแพ้ละก็ แกล้งอมข้าว แกล้งไม่กินไข่ ไม่กินเนื้อ พ่อแม่ต้องยอมแน่ๆ หนูแดงก็เลยเป็นคนกินอาหารยาก เลือกกินแต่ของหวานๆ ขนมอร่อยๆ เช่น ลูกกวาด หมากฝรั่ง เวลากินข้าวแต่ละทีก็ต้องให้คนอ้อนวอน แถมยังอมไว้นานๆ ด้วยร่างกายหนูแดงจึงขาดสารอาหารโปรตีน ซึ่งมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย และการป้องกันโรคมาก สารอาหารโปรตีนมีอยู่ในเนื้อ นม และน้ำเต้าหู้ ไข่ เป็นผลให้หนูแดงมีความต้านทานเชื้อโรคไม่ดีเท่าหนูหน่อย หนูแดงจึงเจ็บไข้บ่อยๆ

วันหนึ่งผมได้โอกาส หนูหน่อยเกิดคันคอ ไอแรงๆ สองสามครั้ง ผมหลุดลอยไปในอากาศโดยติดไปกับละอองน้ำลาย บังเอิญหนูแดงเล่นอยู่ใกล้ๆ จึงสูดเอาผมเข้าไปทางรูจมูก ผมก็ตามลมหายใจหนูแดงเข้าไปในลำคอ และหลอดลม ที่คอของหนูแดงก็มีนักเลงโตและทหารเหมือนของหนูหน่อย แต่ผิดกันตรงที่อ่อนแอไม่แข็งแรงอย่างของหนูหน่อย พวกผมแม้จะเข้ามาไม่มากนักก็สามารถหาที่อยู่ได้ และใช้เวลาไม่นานผมก็สามารถเจริญเติบโตได้ พวกผมรีบแบ่งตัวจาก 2 เป็น 4 จาก 4 เป็น 8 เรื่อยไป จนมีจำนวนเป็นล้านๆ ตัวนักเลงโตประจำถิ่นของหนูแดงเริ่มไม่เป็นท่า สุดท้ายก็แพ้พวกผม ผมจึงยึดพื้นที่บริเวณคอของหนูแดงได้ ทหาร หรือเม็ดเลือดขาวของหนูแดงและยาพิษหรือภูมิคุ้มกันของหนูแดงพยายามควบคุมพวกผมเต็มที่แต่ไม่ได้ผล เพราะหนูแดงไม่ได้เตรียมพร้อมอย่างหนูหน่อย

มาดูที่ต่อมทอนซิลของหนูแดงบ้างซิ มีพวกผมอยู่เป็นร้อยๆ ล้านตัว รวมเป็นกลุ่มๆ จนมองเห็นเป็นจุลขาวๆ ด้วยตาเปล่า ทอนซิลของหนูแดงทั้งบวมทั้งแดงและมีจุดขาวเต็มไปหมดทั้งสองข้าง หนูแดงตัวร้อนจี๋ เจ็บคอจนพูดไม่ออก แม้แต่กลืนน้ำก็ยังเจ็บ หนูแดงเริ่มไอและมีเสลดหรือเสมหะ พอหนูแดงไอพวกผมก็รีบหนีออกจากร่างกายหนูแดงไปกับละอองน้ำลาย ไปกับเสลด ยิ่งกว่านั้นหนูแดงยังไม่รู้จักระวัง ไอรดคนโน้นทีคนนี้ที และบ้วนเสมหะลงพื้น ทำให้พวกผมแพร่พันธุ์ไปสู่คนอื่นๆ เห็นไหมเล่าครับ พวกผมจะหมดไปจากโลกนี้ได้อย่างไร ผมก็จ้าวโรค อีกชนิดหนึ่งอย่างไรเล่าครับเมื่อครั้งก่อน (จ้าวโรค 1) เพื่อนผมจ้าวโรคไข้ รากสาดได้แนะนำตัวมาแล้ว คราวนี้ผมขอแนะนำตัวบ้าง

ผมหรือครับ มีชื่อว่า เบต้าสเตร๊ปโตคอคคัส กลุ่มเอ ผมไม่มีชื่อภาษาไทย (แต่จะเรียกผมว่าเชื่อลูกโซ่ก็ได้ครับ เพราะผมชอบอยู่เรียงเป็นสายคล้ายโซ่) และผมก็ทำให้เกิดโรคได้หลายโรค จนบอกไม่ถูกว่าผมเป็นจ้าวโรคอะไรแน่ ผมเป็นศัตรูของเด็กๆ เพราะถ้าควบคุมผมไม่ได้ผมจะเป็นตัวอันตรายมาก

ตอนแรกๆ ที่หนูแดงป่วย แม่ของหนูแดงคิดว่าเป็นไข้หวัดธรรมดาจึงให้ยาลดไข้ หรือยาแอสไพรินของผู้ใหญ่กิน 1 เม็ด หลังอาหาร (หนูแดงอายุ 6 ปีแล้ว) หนูแดงตัวเย็นลงเป็นพักๆ แต่พอหมดฤทธิ์ยาก็มีไข้อีก แม่ของหนูแดงให้ยาซ้ำอีก 2 ครั้ง ก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม แม่ของหนูแดงเป็นคนฉลาดเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับต่อมทอนซิลมาบ้าง จึงให้หนูแดงอ้าปากให้ดู โดยใช้ด้ามช้อนกดลิ้นหนูแดงไว้ จึงมองเห็นจุดขาวๆ บนต่อมทอนซิล คิดว่าไม่ใช่ไข้หวัดธรรมดาเสียแล้วจึงพาหนูแดงไปหาหมอ หมอให้ยาหนูแดงมากินหลายอย่างและสั่งว่า ต้องกินยาให้ครบ 10 วัน ถึงแม้ว่าหนูแดงจะหายดีแล้วก็ตาม

พวกผมถูกยาฆ่าเชื้อโรคที่หนูแดงกินเข้าไปก็ล้มตายลงมากพอสมควร แต่พวกผมอดทนครับ หนูแดงกินยาไปตั้ง 5 วันแล้ว ผมก็ยังไม่ตายหมดอาการของหนูแดงหายดีแล้ว แม่ของหนูแดงมีธุระมากลืมให้หนูแดงกินยาจนครบ 10 วัน ผลจากที่พวกผมยังตายไม่หมดทำให้เกิดโรคตามหลัง การอักเสบของต่อมทอนซิลซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากลัว คือ โรคลิ้นหัวใจรั่ว และโรคไตอักเสบเฉียบพลัน ใครเป็นนับว่าโชคร้ายเพราะอาจจะต้องผจญต่อโรคเหล่านี้ไปตลอดชีวิต

หนูแดงที่น่ารักถูกพวกผมทำร้ายจนเกิดผลตามหลัง คือ โรคไตอักเสบเฉียบพลัน หลังจากหนูแดงหายเจ็บคอประมาณ 3 สัปดาห์ หนูแดงมีอาการไข้ขึ้นอีก ต่อมามีฉี่เป็นสีน้ำล้างเนื้อ และฉี่น้อยลง หนังตา หน้าและมือบวม แม่ของหนูแดงตกใจมากจึงพาหนูแดงไว้ในโรงพยาบาลด้วย หนูแดงอยู่โรงพยาบาลหลายวันจึงหายและกลับบ้านได้ แต่หมอได้กำชับให้แม่หนูแดงพาหนูแดงไปให้หมอตรวจทุกเดือน และต้องกินยา ฉีดยาเป็นเดือนๆ จนกว่าจะหายสนิท

นี่แหละฤทธิ์ของผม จ้าวโรคกรัมบวกตัวกลมละ

ภาคพิเศษ

ผมคือแบคทีเรีย หรือสิ่งมีชีวิตเล็กๆ มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าต้องใช้กล้องจุลทรรศน์ จึงมองเห็นผม แบคทีเรียถูกแบ่งตามรูปร่างง่ายๆ และการติดสีกรัม (กรัม คือ การย้อมสีชนิดหนึ่งให้ชื่อตามผู้ค้นพบ) เป็น 4 ชนิด คือ พวกติดสีม่วง เรียกกรัมบวก มีรูปร่าง 2 อย่าง คือ ตัวกลมและแบบแท่ง พวกติดสีแดง เรียก กรัมลบ มีทั้งตัวกลมและแบบแท่ง เช่นเดียวกัน ผมเป็นแบบกรัมบวกตัวกลม มีการเรียงตัวเป็นสายๆ

ญาติพี่น้องของผมมีทั้งที่ทำอันตรายหรือเป็นศัตรูโดยตรงของคนและเป็นนักเลงโตประจำถิ่น สำหรับตัวผมโดยปกติจะเป็นศัตรูเสียมากกว่าทำอันตรายแก่คนได้หลายอย่าง เช่น ทำให้เกิดโรคปอดบวม โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ทำให้เกิดฝีหนองและอื่นๆ อีกมาก แต่ส่วนใหญ่ผมชอบทำให้เกิดโรคต่อมทอนซิลอักเสบ

พูดถึงต่อมทอนซิล ถ้ากลัวผมละก้อหัดอ้าปากดูต่อมของตัวเองในกระจกซิครับ จะได้รู้ว่าต่อมทอนซิลอยู่ตรงไหน วิธีอ้าปากอยากแนะนำให้อ้าให้กว้างที่สุด และคิดว่าเวลาหาวเราทำอย่างไรก็ลองทำอย่างนั้นหรือมิฉะนั้นเวลาอ้าปากเต็มที่แล้วร้องคำว่า “อา” ไปด้วย คุณจะเห็นทอนซิลอยู่สองข้างลิ้นไก่ชัดเจนทีเดียว เมื่อคุณหัดอ้าปากดูคอตนเองจนชำนาญแล้วลองหัดดูคอของลูกคุณโดยหัดให้เด็กพยายามอ้าปากให้กว้างที่สุด และถ้าพอดูรู้เรื่องก็ให้ร้อง “อา” เช่นเดียวกัน แต่ถ้ายังไม่รู้เรื่องก็คอยดูเวลาแกร้องไห้เต็มที่จะเห็นได้ชัดเจน หรือใช้ด้ามช้อนกดลิ้นลงเล็กน้อย (รายละเอียดดูใน “หมอชาวบ้าน” “ฉบับที่ 1”)

 

การหัดดูทอนซิลมีประโยชน์นะครับ จะได้รู้ว่าปกติหน้าตามันเป็นอย่างไร เวลามีอะไรแปลกปลอมจะได้ตัดสินถูก พูดถึงจุดขาวๆ บนทอนซิล ผมมีเรื่องจะเตือนพ่อแม่ที่มีลูกเล็กๆ อายุไม่เกิน 10 ขวบไว้ด้วยว่านอกจากผมจะทำให้เกิดจุดขาวๆ ที่ทอนซิลได้แล้ว ยังมีญาติตระกูลอื่นของผมอีกทำให้เกิดได้ด้วยคือ เชื้อคอตีบ

ฉะนั้นคุณควรพยายามหัดดูต่อมทอนซิล ลิ้นไก่ ของคุณไว้ให้ดี หากมีจุดขาวๆ เกิดที่ทอนซิลเมื่อใดก็ตามจะเป็นสัญญาณได้อย่างดีว่า คุณต้องไปหาหมอแล้ว เพราะเป็นเรื่องอันตรายไม่ใช่หวัดธรรมดาแน่ๆ ถ้าเด็กโตเกิน 10 ขวบ มีจุดขาวๆ มักเกิดจากพวกผม แต่ถ้าเป็นเด็กเล็กๆ อาจเกิดได้จากทั้งพวกผม และพวกเชื้อคอตีบ ซึ่งมีอันตรายมากทั้งสองอย่าง

โรคคอตีบป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีน แต่ถ้าเป็นพวกผม คุณต้องคอยรักษาร่างกายของคุณให้แข็งแรงเสมอโดยออกกำลังกายสม่ำเสมอที่เป็นประโยชน์ รวมทั้งพยาพยามหลีกเลี่ยงไม่ให้ใครไอหรือจามรด

ตายจริง ! นี่ผมเผลอบอกเคล็ดลับหมดแล้ว เดี๋ยวคุณก็ฆ่าผมหมดเท่านั้นเอง

แต่ผมไม่กลัวครับ

สวัสดี

จากผมนายกรัมบวกตัวกลม

ข้อมูลสื่อ

2-021
นิตยสารหมอชาวบ้าน 2
มิถุนายน 2522
ทันโรค
พญ.ศมนีย์ ศุขรุ่งเรือง