• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

พุงโรก้นปอด

“เด็กในชนบทชนบทจำนวนมิใช้น้อยที่เป็นตาลขโมยพุงโรก้นปอด โรคนี้มีสาเหตุหลายๆ ชนิดด้วยกัน เช่น โรคขาดสารอาหาร โรคพยาธิในท้อง โรคธาลัสซีเมีย โรคมาลาเรีย เนื้องอกในช่องท้องเป็นต้น”

พุงโรก้นปอด

ข้าพเจ้าได้รับคำถามบ่อยๆ ว่า อะไรคือสาเหตุของโรคพุงโรก้นปอดในเด็ก และจะมีวิธีรักษาได้อย่างไร เป็นการยากที่จะตอบคำถามนี้ เพราะสาเหตุของโรคนี้มีหลายชนิด ดังนี้ คือ

โรคขาดอาหาร เนื่องจากไม่มีอาหารกินหรือกินอาหารไม่ถูกต้อง

โรคติดเชื้อที่สำคัญ คือ พยาธิในท้อง มาลาเนีย

โรคกรรมพันธุ์ เช่น โรคเลือดชนิดหนึ่ง เรียกว่า ธาลัสซีเมีย (Thalassemia) ซึ่งทำให้มีอาการซีด ตับโต ม้ามโต (หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ป้าง หรืออุปถัมภ์ม้ามย้อยนั่นแหละ)

เนื้องอกในช่องท้อง โรคที่พบบ่อยที่สุด คือ เกิดจากการขาดอาหาร และพยาธิในท้อง โรคมาลาเรีย ธาลัสซีเมีย และเนื้องอกในช่องท้อง (มักจะคลำพบก้อนในท้อง)

ฉะนั้นถ้าบุตรหลานของท่านมีอาการตัวผอม พุงโรก้นปอด ร้องไห้โยเย ให้ลองคลำดูว่า มีก้อนในท้องหรือเปล่า ถ้าพบว่ามีก้อนในท้องให้รีบพาเด็กไปหาหมอโดยด่วน ถ้าไม่พบให้คิดถึงว่า น่าจะเกิดจากโรคขาดอาหาร และโรคพยาธิในท้อง โรคขาดอาหารและโรคติดเชื้อมักจะเป็นร่วมกัน เมื่อเกิดโรคหนึ่งแล้วก็จะทำให้เกิดอีกโรคหนึ่ง หรือทำให้อีกโรคหนึ่งกำเริบมากขึ้น เช่น เมื่อเด็กขาดอาหาร จะทำให้ร่างกายอ่อนแอ ทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น พยาธิในท้อง ท้องร่วง มาลาเรีย โรคปอด วัณโรค จะทำให้เด็กกินอาหารไม่ได้ ทำให้เป็นโรคขาดอาหาร ทำให้เด็กมีอาการเลวลงเรื่อยๆ โรคขาดอาหารและโรคติดเชื้อทำให้เด็กของเราร่างกายไม่สมบูรณ์ และถึงแก่ความตายปีละมากๆ

โรคขาดอาหารและโรคติดเชื้อนี้ จึงเกิดร่วมกันเป็นวงจรวิกฤติ

วงจรวิกฤติของโรคขาดอาหารและโรคติดเชื้อ (แสดงว่า โรคขาดอาหารทำให้เกิดโรคติดเชื้อและโรคติดเชื้อทำให้เกิดโรคขาดอาหาร)

วิธีแก้ไขจึงต้องแก้ไขพร้อมกันทั้งโรคขาดอาหารและโรคติดเชื้อ

การแก้ไขโรคขาดอาหาร ในที่นี้จะไม่กล่าวถึงว่า จะทำอย่างไรจึงจะได้อาหารมาให้เด็กได้อย่างเพียงพอ ซึ่งมีปัญหามากมาย ตั้งแต่การเพิ่มของประชากร ทำให้พื้นที่เพาะปลูกน้อยลง ฝนแล้ง น้ำท่วม ค่าขนส่งแพง รายได้น้อย แต่จะกล่าวเฉพาะเรื่องทางการแพทย์ซึ่งมีหลักอยู่ 5 ประการ ในการที่จะทำให้เด็กได้รับอาหารเพียงพอ และถูกต้อง


 

ให้นมแม่ ต้องให้นมแม่จนกระทั่งเด็กอายุได้ 1 ปีครึ่ง การให้นมวัวมีปัญหามาก ถ้าทำความสะอาดไม่ถูกต้อง มีเชื้อโรคตกค้างอยู่ทำให้ท้องเสียได้ ที่สำคัญคือ เมื่อเริ่มให้ เด็กเพิ่งเกิดตัวเล็กๆ กินนมเพียงเล็กน้อย แต่พอโตขึ้นประมาณ 3-4 เดือน เด็กจะกินมากขึ้น เวลานี้เราก็รู้ว่านมราคาแพงมากถ้าพ่อแม่เงินทองขาดแคลน อาจให้เด็กกินน้อยลงโดยชงให้ใส หรือใส่ปนกับแป้งข้าวกล้อง หรือนมข้นหวาน แป้งข้าวปล้องละนมข้นหวานนั้นไม่เหมาะสมที่จะใช้เลี้ยงเด็กทารก เพราะมีโปรตีนและไขมันต่ำ บางคนเข้าใจว่า แป้งข้าวกล้องดี เพราะมีวิตามินบีหนึ่งสูงกันโรคเหน็บชาได้อันนี้ก็ถูกต้อง แต่ข้อเสียมากเหลือเกินดังกล่าวแล้ว จะทำให้เด็กเป็นโรคขาดอาหาร

ให้คาร์โบไฮเดรต (แป้งและน้ำตาล) เมื่ออายุ 3-4 เดือน เริ่มให้ข้าวบดกับกล้วยหรือน้ำแกงจืด

ให้โปรตีน เมื่ออายุ 5-6 เดือน ให้ไข่, หมู แต่ต้องทำให้อ่อนนุ่ม เพื่อจะเคี้ยวได้ง่าย หรืออาจให้อาหารจำพวกถั่ว เช่น ถั่วเขียว ถั่วเหลืองซึ่งมีโปรตีน

ให้วิตามิน เมื่ออายุ 3-4 เดือน ให้ผักและผลไม้ เริ่มด้วยน้ำส้มคั้น มะละกอสุก และผักใบเขียว ซึ่งมีวิตามินเอสูงมากจะป้องกันโรคเกล็ดกระดี่ขึ้นตา ซึ่งอาจทำให้ตาบอดได้ (ดู “หมอชาวบ้าน” ฉบับที 4 เรื่อง “เกล็ดกระดี่ขึ้นตา”)

ให้อาหารเด็กวันละ 4 มื้อ เพราะเด็กมีกระเพาะเล็ก กินครั้งหนึ่งไม่ได้มาก จึงต้องกินบ่อยๆ ถ้าสามารถทำได้เช่นนี้ เด็กจะไม่ขาดอาหาร

โรคติดเชื้อและพยาธิในท้องจะแก้ได้อย่างไร

ในประเทศพบว่าเด็กที่เป็นโรคขาดอาหาร มักจะเป็นโรควัณโรคร่วมด้วย เด็กมักจะติดวัณโรคจากผู้ใหญ่ ฉะนั้นถ้ามีผู้ใหญ่ในบ้านหรือเพื่อนบ้านใกล้เคียงเป็นวัณโรค ต้องรีบพาเด็กไปที่สถานีอนามัย หรือโรงพยาบาลเพื่อตรวจและรักษาให้ถูกต้อง ควรพาเด็กไปรับการฉีดยาป้องกันวัณโรคเสียทุกคน วัคซีนป้องกันวัณโรคสามารถป้องกันได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงผู้ใหญ่

การป้องกันและรักษาโรคพยาธิในท้อง

พยาธิในท้องที่สำคัญ คือ พยาธิปากขอ พยาธิไส้เดือน พยาธิตัวแบน และพยาธิเส้นด้าย

พยาธิปากขอ ติดต่อโดยไชเข้าผิวหนังที่เท้าเข้าไปในร่างกาย แล้วภายหลังจะไปเกาะติดที่ผนังลำไส้ ที่หัวมีขอเกาะ พยาธิจะดูดเลือดจากลำไส้เป็นอาหาร ทำให้ผู้ป่วยขาดอาหารและซีดลง

วิธีป้องกัน อย่าถ่ายอุจจาระลงบนพื้นดิน ควรถ่ายลงในส้วม และสวมรองเท้าอย่าเดินเท้าเปล่า การรักษาให้ใช้มะเกลือที่ลูกยังเขียวอยู่มาโขลกกับน้ำกะทิ กิน 1 ลูกต่ออายุ 1 ขวบ ขนาดสูงสุดไม่เกิน 20 ลูก

ห้ามใช้ลูกมะเกลือที่สุกแล้ว ซึ่งมีสีดำเพราะอาจเกิดอันตรายได้

พยาธิไส้เดือน ไข่จะอยู่ตามพื้นดิน ติดต่อทางปาก วิธีรักษาให้กิน ยาถ่ายพยาธิหรือไซรัปปิเปอราซีน (Piperazine Syrup) ขององค์การเภสัชกรรม (ขนาด 30 มิลลิกรัม ขวดละ 2.50 บาท) เพราะเด็กในชนบทมักจะเล่นอยู่ตามพื้นดิน

พยาธิตัวแบน เกิดจากกินหมู หรือเนื้อวัวที่มีตัวพยาธิอยู่ เห็นมีลักษณะคล้ายก้อนสาคู ฉะนั้นต้องระวังอย่ากินเนื้อหมู หรือเนื้อวัวที่เป็นโรค และให้กินกินอาหารสุกๆ ยาที่ใช้รักษา คือ นิโคลซาไมด์ (Niclosamide) หรือ ไดคลอโรเฟน (Dichlorophen)

พยาธิเส้นด้าย ตัวและไข่จะอยู่ที่ก้นเด็ก ทำให้คัน ติดต่อทางปาก ยาที่ใช้รักษาง่ายๆ คือ ใช้น้ำกระเทียม (ทุบกระเทียมแล้วเอาแช่น้ำสักครู่) สวนก้นเด็ก หรือกิน ไซรัปปิเปอราซีน ป้องกันยาก เพราะพยาธิอยู่ที่ก้นเด็กนั่นเอง

สรุป โรคพุงโรก้นปอดมีสาเหตุสำคัญจากการขาดอาหาร และมีพยาธิในท้อง ถ้าเด็กของท่านมีอาการดังกล่าว จำเป็นต้องให้ยาถ่ายพยาธิและให้อาหารให้ถูกต้องและเพียงพอ เด็กของท่านจะแข็งแรงมีสุขภาพสมบูรณ์ หายจากโรคพุงโรก้นปอด จะได้เป็นกำลังของครอบครัว และประเทศชาติต่อไปอนาคต

ข้อมูลสื่อ

7-005
นิตยสารหมอชาวบ้าน 7
พฤศจิกายน 2522
นพ.ปรีชา วิชิตพันธ์