• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ตายจากยาลดความอ้วน

การรักษาด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนปอดหรือเปลี่ยนทั้งปอดและหัวใจอาจเป็นโอกาสเดียวที่จะช่วยให้มีชีวิตต่อไปได้อีกสักระยะหนึ่ง แต่ก็ทำยากมาก และค่าใช้จ่ายก็สูงมาก

ยาลดความอ้วนที่ก่อให้เกิดอันตรายดังกล่าวได้ถูกห้ามผลิตหรือนำเข้ามาจำหน่าย แต่ก็ยังมีการลักลอบจำหน่ายกันตามสถานบริการลดน้ำหนักบางแห่ง รวมถึงใช้ระบบการขายตรง

ยาลดความอ้วนเหล่านี้จะออกฤทธิ์กระตุ้นประสาท ทำให้ตื่นตัว นอนไม่หลับ ไม่รู้สึกหิว หัวใจจะเต้นแรงและเร็ว ปากแห้งคอแห้ง คลื่นไส้ อาเจียน และท้องผูก ในรายที่มีอาการรุนแรงจะมีอาการประสาทหลอน กระสับกระส่าย ชัก และตายได้ บางรายอาจไม่มีอาการเฉียบพลัน แต่จะมีแรงดันโลหิตในปอดสูงขึ้น จนท้ายที่สุดก็เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว และเสียชีวิต

ปัจจุบันมียาลดความอ้วนที่นิยมใช้กันอยู่หลายกลุ่ม เช่น กลุ่มที่ทำให้เบื่ออาหารไม่รู้สึกอยากอาหาร กลุ่มขับปัสสาวะ ยาระบาย ฮอร์โมนกระตุ้นการเผาผลาญพลังงาน เป็นต้น ซึ่งต้องใช้อย่างระมัดระวัง บางกลุ่มก็ต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์

จริงอยู่ที่ความอ้วนมีผลเสียมากมาย นำไปสู่โรคต่างๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และยังมีผลต่อความสวยความงามอีกด้วย แต่การลดน้ำหนักด้วยการใช้ยาก็ต้องระมัดระวัง เพราะส่วนใหญ่ที่พบทั่วไปในท้องตลาดและนิยมใช้กันคือกลุ่มที่ลดความอยากอาหาร

ผลข้างเคียงของยาลดความอยากอาหารคือ ปากแห้ง กระหายน้ำ หงุดหงิด นอนไม่หลับ คลื่นไส้ และเมื่อใช้ไประยะหนึ่งก็จะดื้อยา พอหยุดใช้ยาก็เกิดโยโย่เอฟเฟกต์ ทำให้กลับมาอ้วนเหมือนเดิมหรือไม่ก็อาจจะน้ำหนักมากกว่าเดิมอีก

ส่วนยาพวกขับปัสสาวะก็ไม่ได้ช่วยลดไขมัน แต่จะขับน้ำและเกลือแร่ออกมา อาจเกิดความไม่สมดุล บางรายหัวใจเต้นผิดปกติ หรืออาจหยุดเต้นไปเลย

การลดความอ้วนที่ดีที่สุดและได้ผลระยะยาวก็คือ การควบคุมอาหารและออกกำลังกาย ซึ่งหลายๆ คนก็ทราบถึงหลักการนี้ดี แต่ก็เป็นเรื่องที่พูดง่ายทำยาก ต้องมีความตั้งใจแน่วแน่จริงๆ

คนอ้วนโดยเฉพาะคนที่มีปัญหาสุขภาพอื่นๆ ร่วมด้วยมักจะมีปัญหาเรื่องการออกกำลังกาย จึงทำให้รู้สึกท้อแท้และปล่อยเลยตามเลย คือคิดว่าไหนๆ ก็ลดความอ้วนไม่ได้เพราะไม่ได้ออกกำลังก็เลยทำให้ไม่คุมอาหาร เพราะถูกปลูกฝังความเชื่อที่ว่า ต้องคุมอาหารและออกกำลังกายร่วมกันจึงจะลดได้

คนอ้วนที่ยังแข็งแรงบางคนก็พยายามออกกำลังกาย แต่พอเหนื่อยก็หิวแล้วก็กินเพิ่ม แทนที่จะลดความอ้วนกลับกลายเป็นว่าอ้วนมากขึ้น ในที่สุดก็เลิกออกกำลังกาย

อันที่จริง หัวใจของการลดความอ้วนอยู่ที่การควบคุมอาหารเป็นหลัก

เน้นว่า "ควบคุม" ไม่ได้ให้อดอาหาร เพราะการอดอาหารจะทำให้ระบบการเผาผลาญทำงานผิดปกติและยังทำลายกล้ามเนื้อ

ดังนั้น ควรกินให้ครบ 3 มื้อ บางคนเน้นกินโปรตีน ผักผลไม้ บางคนเน้นลดแป้ง ก็แล้วแต่ทฤษฎี แต่ในทางปฏิบัติมักทำได้ยากเพราะมีอาหารอร่อยๆ ล่อตาล่อใจอยู่มากมาย เมืองไทยมองไปทางไหนก็ของกินเต็มไปหมด

หากต้องการลดความอ้วนแล้วก็ต้องอย่าตามใจปาก ให้มีสติทุกครั้งที่กินและดื่ม พยายามจัดเมนูอาหารคร่าวๆ ของตัวเองโดยคำนึงถึงพลังงานที่จะได้รับเข้าไป อย่าให้มากเกินความต้องการเพราะจะสะสมเป็นไขมัน

ลดอาหารประเภททอด หวาน มัน ดื่มน้ำเปล่ามากๆ วันละ 6-8 แก้ว และควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพราะจะช่วยเผาผลาญไขมันและยังเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อที่จะช่วยเร่งการเผาผลาญให้มากขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม การลดน้ำหนักก็ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของสุขภาพ

"การมุ่งดูแลร่างกายให้แข็งแรง มีรูปร่างสัดส่วนที่สมดุล"
ต่างหากที่ดีกว่าการตั้งหน้าตั้งตาเพื่อจะผอมเพียงอย่างเดียว

ข้อมูลสื่อ

356-004
นิตยสารหมอชาวบ้าน 356
ธันวาคม 2551
นพ.พินิจ ลิ้มสุคนธ์