• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

เพิ่มพลังด้วยการหายใจ

เพิ่มพลังด้วยการหายใจ

โดย ฟิลิป สมิท  แปลและเรียบเรียง วิไลรัตน์ โสฬสจินดา

น่าทึ่งไหม คุณสามารถสู้กับความอิดโรยและขจัดความซึมเซื่องได้ ด้วยการเรียนรู้วิธีเพิ่มออกซิเจนในร่างกาย

เรามักจะคิดกันว่า การหายใจคือการ สูดอากาศเข้าออกจากร่างกายเท่านั้นเอง แต่แท้จริงแล้ว การหายใจ คือ เครื่องมือชิ้นสำคัญชิ้นหนึ่ง ในการทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า และมีผลดีต่ออารมณ์อย่างมากอีกด้วย

ถ้าหากเราหายใจให้ถูกวิธี จะเกิดผลดีหลายอย่าง เช่น จะผ่อนคลายความตึงเครียดได้ ปรับเปลี่ยนอารมณ์ได้ ยืดอายุออกไปอีก เราจะรู้สึกสดชื่น แจ่มใสเมื่อตื่นนอน โดยไม่ต้องดื่มกาแฟอีกต่อไป จะมีสมาธิในการทำงานมากขึ้น มีภูมิต้านทานโรคหวัด และการติดเชื้อตามช่องทางเดินอากาศมากขึ้น จะนอนหลับสนิทกว่าเดิม และจะลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจลง

การหายใจที่สมบูรณ์ที่สุดจะทำให้ปอดได้รับอากาศเต็มที่ กล้ามเนื้อทุกส่วนของระบบหายใจที่จะถูกใช้ นอกจากหน้าอกและซี่โครงจะพองขึ้นแล้วท้องจะโป่งออกเพราะกะบังลมเคลื่อนตํ่าลงมาก เพิ่มเนื้อที่ให้ปอดรับอากาศได้เต็มที่ แม้แต่ปอดส่วนที่ใช้น้อยที่สุดก็จะได้รับอากาศบริสุทธิ์ ทำให้ได้ออกซิเจนเพิ่มขึ้น และกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ดีขึ้น

การหายใจเต็มที่แบบนั้น จะเป็นรากฐานสำหรับการฝึกหายใจท่าต่างๆ

ลองฝึกหายใจตามขั้นตอนต่อไปนี้ จนสามารถหายใจแบบนี้ได้โดยอัตโนมัติแล้วคุณจะพบว่า การฝึกหายใจวิธีนี้วิธีเดียว จะมีผลต่อสุขภาพพลานามัยของคุณอย่างมาก

ตอนที่ 1

ฝึกหายใจให้ถูกวิธี

1. หายใจเข้าทางจมูกช้าๆ โดยมุ่งให้ลมพุ่งตรงไปยังจุดใต้สะดือสัก 2 นิ้ว จะทำให้ส่วนล่างของปอดเต็มไปด้วยอากาศ เมื่อทำท่านี้ท้องจะพองออกเหมือนลูกโป่ง

2. เมื่อท้องโป่งเต็มที่แล้ว ต่อไปให้อากาศเข้าไปยังส่วนล่างของทรวงอก ทรวงอกจะขยายตัว (พอง) จากส่วนล่างขึ้นมาสู่ส่วนบน

3. สุดท้าย ให้อากาศเข้าไปยังส่วนบนสุดของปอด การหายใจเข้าควรกินเวลาทั้งสิ้นประมาณ 5 วินาที

4. กลั้นหายใจไว้สัก 5 วินาที แต่เมื่อฝึกได้คล่องแล้ว ควรจะกลั้นไว้นาน 10 วินาที เพื่อปอดจะได้มีโอกาสใช้และดูดซึมออกซิเจนทั้งหมด

5. ในการหายใจออก ก็ทำตามขั้นตอนเดียวกับการหายใจเข้า โดยเริ่มจากการเกร็งส่วนล่างของกล้ามเนื้อท้องก่อน อันจะเป็นการไล่อากาศออกจากส่วนล่างสุดของปอด หลังจากนั้น ปล่อยให้ทรวงอกแฟบลงจากส่วนล่างขึ้นมาจนถึงหน้าอกตอนบน การหายใจออกควรทำช้าๆ เช่นเดียวกับการหายใจเข้า

ตอนที่ 2

สูตรสร้างพลัง

การสร้างฐานพลังสำหรับร่างกาย เราจะต้องนำออกซิเจนใหม่เข้าสู่ร่างกายอย่างสมํ่าเสมอ แต่คนส่วนมากมักจะใช้ปอดทำงานเพียง 1 ใน 3 ส่วนของความสามารถของปอด จึงควรปลูกฝังค่านิยมใหม่ ให้ใช้ ปอดได้มากขึ้น และดีขึ้นทดแทนการหายใจแบบเฉื่อยชา ด้วยการหายใจเต็มปอดซึ่งหมายความว่า เนื้อเยื่อแต่ละส่วนและเซลล์แต่ละเซลล์ทั่วร่างกายจะได้รับออกซิเจนเพิ่มขึ้น เราจะรู้สึกสดชื่นขึ้นกว่าเดิม และมีกำลังเหลือตลอดไม่อ่อนเพลียเหมือนก่อน

การบริหารท่าต่างๆ ในสูตรสร้างพลังนี้ ใช้เสริมกับการหายใจเต็มปอดและการฝึกปฏิบัติควบคู่กันไปในยามเริ่มรู้สึกอ่อนเพลีย จุดประสงค์ ก็เพื่อปรับปริมาณออกซิเจนในร่างกาย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมอง ซึ่งจะให้ส่งผลกระทบต่อการทำงานของร่างกายเรา ช่วยให้เรากลับสดชื่นกระปรี้กระเปร่าเหมือนเดิมในทันทีทันใดนั่นเอง

เมื่อใดที่เรารู้สึกหมดแรง เราจะหันไปหาสิ่งกระตุ้น ที่ออกฤทธิ์ เช่น กาแฟสัก 1 ถ้วย สารกระตุ้นนี้จะไม่สามารถให้พลังงานในระยะยาวได้เลย เพราะประมาณ 15 นาทีเท่านั้นร่างกายเราจะกลับคืนสู่สภาวะปกติ

แต่ในการหายใจแบบเสริมพลังนี้ จะกระตุ้นฐานกำลังของเราและให้พลังงานอันต่อเนื่อง ต่างจากกาแฟตรงที่เป็นการเพิ่มออกซิเจนอันสดชื่นในร่างกาย แทนที่จะเป็นการเพิ่มสารเคมีที่ไปกระตุ้นระบบประสาทเท่านั้น 

ข้อมูลสื่อ

73-004
นิตยสารหมอชาวบ้าน 73
พฤษภาคม 2528
เรื่องน่ารู้
วิไลรัตน์ โสฬสจินดา
ฟิลิป สมิท