• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

น้ำเหลือง หาได้น่ารังเกียจ

น้ำเหลือง หาได้น่ารังเกียจ

น้ำเหลือง (Lymph) เป็นคำไทยที่ฟังดูแล้วน่าขนพองสยองเกล้า เนื่องจากเรารับรู้เรื่องน้ำเหลืองในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผีๆสางๆ หรือกับคนที่ตายไปแล้ว หรือไม่เช่นนั้นก็เกี่ยวกับเรื่องของบาดแผลอักเสบเรื้อรังที่น่ารังเกียจ

ความจริงน่าจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับคำว่า น้ำเหลืองเสียใหม่

โดยปกติในร่างกายของเราก็มีน้ำเหลืองอยู่ในตัว น้ำเหลืองมีหน้าที่ที่แน่นอนและเป็นหน้าที่ที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของร่างกาย น้ำเหลืองจึงไม่ใช่สิ่งที่น่ารังเกียจ หรือเป็นสิ่งที่สกปรกแต่อย่างใด

น้ำเหลืองมีลักษณะคล้ายกับพลาสม่าของเลือด คงยังจำได้ว่าพลาสม่าเป็นส่วนที่เป็นของเหลวของเลือด เมื่อเราแยกเอาเม็ดเลือดออกไป ส่วนของน้ำที่เหลือเราเรียกว่า พลาสม่า แต่ปริมาณโปรตีนในน้ำเหลืองต่ำกว่าในพลาสม่า

ในระหว่างเซลล์ร่างกายที่เรียงรายต่อกันอยู่ ที่ว่างเล็กๆ ระหว่างเซลล์ จะมีน้ำเหลืองเลี้ยง เพื่อทำทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการซึมผ่านอาหารและพลังงานจากหลอดเลือดสู่เซลล์ ส่วนของน้ำที่อยู่ระหว่างเซลล์นี้เอง ที่มารวมกันเข้าแล้วเข้าสู่ระบบน้ำเหลือง แต่น้ำระหว่างเซลล์บางส่วนก็ไหลเข้าสู่หลอดเลือดฝอยและกลับเข้าสู่หัวใจโดยตรง

ระบบน้ำเหลืองมีอยู่ทั่วร่างกายเช่นเดียวกับเส้นเลือด ในระบบน้ำเหลืองก็มีท่อน้ำเหลือง ซึ่งทำหน้าที่ลำเลียงน้ำเหลืองเข้าสู่หัวใจ แต่ท่อน้ำเหลืองนี้ไม่ได้ติดต่อโดยตรงกับหลอดเลือด ท่อน้ำเหลืองเล็กๆ จะรวมกันเข้าเป็นท่อที่ใหญ่ขึ้น ท่อใหญ่ของระบบน้ำเหลืองจะมีลิ้นอยู่ภายในท่อเป็นระยะๆ หน้าที่ของลิ้นก็คือ ป้องกันไม่ให้น้ำเหลืองไหลย้อนกลับทาง

ท่อน้ำเหลืองที่ใหญ่ที่สุดของระบบน้ำเหลือง จะเทน้ำเหลืองที่ลำเลียงมาจากส่วนต่างๆ ของร่างกายเข้าสู่ เส้นเลือดดำที่คอ ท่อน้ำเหลืองไม่ได้เปิดเข้าสู่หัวใจโดยตรง เส้นเลือดดำที่รับน้ำเหลือง เป็นเส้นเลือดดำที่อยู่ใต้ไหปลาร้า ที่เราเรียกว่า เส้นเลือดดำใต้ไหปลาร้า และเส้นเลือดดำที่ไหลมาจากส่วนหัว

ท่อน้ำเหลืองใหญ่ๆ มักจะมีเม็ดรูปไข่ติดอยู่ตามท่อเป็นระยะๆ เรียกว่า ต่อมน้ำเหลือง ต่อมน้ำเหลืองจะพบได้มากในบริเวณคอ รักแร้ และบริเวณขาหนีบ

ในต่อมน้ำเหลืองยังอัดแน่นไปด้วยเซลล์เม็ดเลือดขาว ทำหน้าที่ทำลายเชื้อโรค ต่อมน้ำเหลืองเป็นป้อมปราการที่คอยดักทำลายเชื้อโรค

ต่อมน้ำเหลืองเป็นส่วนประกอบของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันเสียเป็นส่วนใหญ่ ในต่อมน้ำเหลืองยังอัดแน่นไปด้วยเซลล์เม็ดเลือดขาวที่เรียกว่าลิมโฟไซท์และฟาโกไซท์ เซลล์ดังกล่าวทำหน้าที่ทำลายเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย

ฟาโกไซท์ จะทำหน้าที่กลืนกินตัวเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย ก่อนที่จะทันได้ทำอันตรายต่อร่างกายของเรา น้ำเหลืองจะไหลเวียนผ่านต่อมน้ำเหลือง เพื่อกรองเอาเชื้อโรคออกเสียก่อนที่จะไหลไปรวมกับเลือด ดังนั้นต่อมน้ำเหลืองก็คือ ป้อมปราการที่คอยดักทำลายเชื้อโรคไม่ให้เข้าสู่กระแสเลือด

แบคทีเรียที่เข้าสู่ร่างกายของเรา จะถูกเก็บกักไว้ในต่อมน้ำเหลือง ฟาโกไซท์จะทำหน้าที่เป็นเพชฌฆาตทำลายแบคทีเรียทิ้งไป ส่วนเซลล์ลิมโฟไซท์นั้นเป็นเซลล์ที่ต่อมน้ำเหลืองสร้างขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่ผลิตภูมิคุ้มกันป้องกันร่างกายของเราจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ นับได้ว่าเป็นระบบรักษาความปลอดภัยให้กับร่างกายทางหนึ่ง

แต่บางครั้งแบคทีเรียที่เข้าสู่ร่างกายมีเป็นจำนวนมากมาย เกินกว่าฟาโกไซท์ในต่อมน้ำเหลืองจะทำลายมันได้หมด เมื่อนั้นก็จะเกิดการอักเสบ อาการอักเสบอาจจะเกิดขึ้นเฉพาะที่ที่ต่อมน้ำเหลืองเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น ต่อมน้ำเหลืองในลำคอมีหลายต่อม ที่รู้จักกันดีก็คือ ต่อมที่มีชื่อว่า ทอนซิล

จมูกและปากเป็นทางเข้าของเชื้อโรคที่สำคัญมากทางหนึ่ง ดังนั้นร่างกายจึงมีระบบป้องกันตัวเองโดยการตั้งด่านของต่อมน้ำเหลืองเอาไว้รอบลำคออย่างหนาแน่น เพื่อกักเชื้อโรคเอาไว้ก่อนที่มันจะแพร่กระจายไปสู่ส่วนอื่นๆ ของร่างกาย

ระบบน้ำเหลืองมีส่วนสำคัญในการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง...จึงเป็นระบบที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการรักษามะเร็งในปัจจุบัน เมื่อใดที่เชื้อโรคเข้ามาเป็นจำนวนมากเกินกว่าที่ฟาโกไซท์ในต่อมน้ำเหลืองจะทำลายได้หมด เมื่อนั้นต่อมน้ำเหลืองก็จะเกิดอาการอักเสบ ที่เราคุ้นเคยกันดี ก็คือ การอักเสบของต่อมน้ำเหลืองใหญ่ทอนซิล หรือที่เรียกว่าทอนซิลอักเสบ

ส่วนต่อมน้ำเหลืองอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน เมื่อใดที่เชื้อโรคเข้าไปคั่งอยู่ในนั้นมากๆ มันก็จะโตขึ้น หากมีการอักเสบ ต่อมน้ำเหลืองนั้นก็เจ็บ เช่น ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบ หรือต่อมน้ำเหลืองที่คอ รักแร้ เป็นต้น โดยปกติต่อมน้ำเหลืองจะไม่โตพอที่จะคลำได้ ถ้าใครเป็นหวัด คออักเสบบ่อยๆ ต่อมน้ำเหลืองที่ด้านข้างของคอทั้งสองข้างก็จะโตขึ้น และคลำได้เป็นเม็ดๆ เรียงรายกันไปตามความยาวของคอ เมื่อมีแผลอักเสบที่ขา เชื้อโรคก็จะเข้าสู่ต่อมน้ำเหลืองที่โคนขาหรือที่ขาหนีบ ทำให้เกิดการบวมและเจ็บอย่างที่เรียกกันว่า “ไข่ดันขึ้น” ดังนั้นแพทย์จึงอาศัยการตรวจต่อมน้ำเหลือง เพื่อสำรวจว่าอาการของโรคหรือการอักเสบนั้นลุกลามไปแค่ไหนแล้ว

ระบบน้ำเหลืองยังมีส่วนสำคัญในการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งเนื่องจากเซลล์มะเร็งจะไหลไปตามท่อน้ำเหลือง ไปสู่อวัยวะส่วนอื่นของร่างกาย และไปโตในอีกอวัยวะหนึ่งอย่างที่เราเรียกว่ามะเร็งมันลุกลามไป ดังนั้นระบบน้ำเหลืองจึงเป็นระบบที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการรักษามะเร็งในปัจจุบัน การผ่าตัดเนื้อร้ายหลายชนิดจะต้องเลาะเอาต่อมน้ำเหลืองใกล้เคียงออกด้วย เพื่อป้องกันการลุกลามมะเร็ง

โรคที่เกี่ยวกับระบบน้ำเหลืองที่เราอาจจะเคยได้ยินอีกโรคหนึ่ง คือ โรคเท้าช้าง

โรคเท้าช้างเป็นโรคที่ท่อน้ำเหลืองบริเวณโคนขาอุดตัน ดังนั้นการลำเลียงน้ำเหลืองผ่านขึ้นสู่ส่วนบนของร่างกายจึงถูกกั้นเอาไว้แต่ที่ส่วนขา เมื่อน้ำเหลืองคั่งอยู่ในท่อน้ำเหลืองเป็นเวลาหลายๆ ปี มันก็จะทะลักซึมออกนอกท่อ แทรกตัวอยู่ในเนื้อเยื่อของขา ทำให้บวมโตขึ้นมา เช่นเดียวกับการกักน้ำเหนือเขื่อนอย่างไรอย่างนั้น

โรคเท้าช้างเป็นโรคที่เกิดจากยุงกัดชนิดหนึ่งที่มีอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทยไทย โชคดีที่การกำจัดยุงชนิดนี้ทำกันอย่างได้ผล ทำให้ปัจจุบันโรคเท้าช้างได้หมดไปจากประเทศไทยแล้ว

 

ข้อมูลสื่อ

76-003
นิตยสารหมอชาวบ้าน 76
สิงหาคม 2528
พญ.ลลิตา ธีระศิริ