• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ปัสสาวะบ่อย

ปัสสาวะบ่อย

แปลและเรียบเรียงจากหนังสือ The Acupressure Health BookโดยFrank Bahr.M.D.

ความรู้เรื่องการกดจุดเป็นของเก่าแก่และมีมานานหลายพันปีซึ่งเป็นที่ยอมรับของชาวจีน ศาสตร์แห่งการกดจุดได้แพร่หลายไปทั่วโลก ทั้งในอเมริกาและยุโรปโดยเฉพาะในยุโรป Dr. Frank Bahr ท่านเป็นแพทย์ชาวเยอรมันเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการกดจุดโดยเฉพาะ ท่านได้ศึกษาและเขียนตำราการกดจุดไว้ ซึ่งผู้เขียนเห็นว่ามีประโยชน์ เหมาะสำหรับนำมาเผยแพร่แก่ประชาชนในการดูแลสุขภาพ เพราะกดจุดก็คือศาสตร์แขนงเดียวกับการฝังเข็มที่เราๆ ท่านๆ รู้จักกันดี แต่การกดจุดเป็นการฝังเข็มโดยไร้เข็มทั้งยังไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดเข็มเหมือนฝังเข็ม และไม่มีอันตรายใดๆ ต่อผู้ทำ ถ้าท่านกดถูกวิธีและมีประสิทธิภาพก็จะได้ผลในการรักษา ทั้งยังช่วยเสริมการรักษาของแพทย์ให้หายเร็วขึ้น แต่ถ้าท่านทำแล้วไม่ได้ผล ก็ไม่มีข้อเสียหายอะไร

อาการปัสสาวะที่จะกล่าวต่อไปนี้ เป็นการปัสสาวะบ่อยซึ่งไม่พบความผิดปกติที่กระเพาะปัสสาวะ แต่เป็นอาการที่พบได้ในผู้ที่มีความวิตกกังวล โดยเฉพาะกับสุภาพสตรี

อาการ

จะพบว่าในวันหนึ่งๆ จะปัสสาวะหลายครั้ง อาจจะถึง 12 ครั้งต่อวัน และจำนวนปัสสาวะที่ออกจะมีน้ำปัสสาวะจำนวนเพียงเล็กน้อย บางครั้งก็ออกเพียง 2-3 หยด

สาเหตุ

เกิดจากความวิตกกังวลซึ่งแสดงอาการออกมาโดยการปัสสาวะบ่อย เมื่อตรวจปัสสาวะจะไม่พบความผิดปกติ แต่ก่อนที่จะลงมือกดจุดท่านควรให้แพทย์ตรวจดูก่อนว่า อาการปัสสาวะบ่อยของท่านไม่ได้มาจากการอักเสบเรื้อรังของไตและกระเพาะปัสสาวะ

ตำแหน่งที่จุดกด

จุดบนร่างกาย

1. จุด “ไป่หุ้ย” (Pai-hui)

วิธีหาจุด:

อยู่กึ่งกลางของศีรษะ

วิธีนวด:

นวดเข้าหาหน้าผาก

 

2.จุด “จงจี๋” (chung-chi)

 

วิธีหาจุด:

จุดอยู่แนวที่กึ่งกลางของลำตัวและอยู่ส่วนล่างสุดของท้องน้อย

วิธีนวด:

นวดขึ้น

 

3. จุด “ฉี้ไห่” (Chi-hai)

วิธีหาจุด:

อยู่ต่ำกว่าสะดือประมาณ 2-3 นิ้วมือ (4-5นิ้วมือในคนอ้วน)

วิธีนวด:

นวดขึ้นบน

 

4. จุด “จู๋ซานหลี่” (tsu-san-li)

วิธีหาจุด:

วางฝ่ามือลงบนหัวเข่ากางนิ้วออกเล็กน้อยจุดจอยู่ที่ปลายสุดของนิ้วนาง

วิธีนวด:

นวดลงล่าง

 

5. จุด “ไท่ชง” (t’ai-ch’ung)

วิธีหาจุด:

จุดอยู่เหนือซอกนิ้วหัวแม้เท้ากับนิ้วเท้าอันที่สองขึ้นไปประมาณ 2 นิ้วมือ

วิธีนวด:

นวดขึ้น

 

จุดที่ใบหู

หูขวา:

 

 

จุดที่ 1. อยู่ที่แอ่งหูส่วนบน

วิธีนวด: นวดขึ้นบนเอียงไปด้านหน้า

จุดที่ 2. อยู่ที่รอยต่อระหว่างใบหูกับศีรษะ

วิธีนวด: นวดขึ้นบน

จุดที่ 3. อยู่ที่ส่วนล่างของติ่งหู

วิธีนวด: นวดขึ้นบนเอียงไปด้านหน้าเล็กน้อย

 

หูซ้าย

 

นวดเช่นเดียวกับหูขวา แต่ทิศทางตรงข้าม

การรักษา

กดจุดที่ร่างกายและใบหูทำสลับวันกัน ในรายที่เป็นรุนแรงควรจะนวดวันละ 2 ครั้งๆ ละ 5-10 นาที จนอาการดีขึ้น ต่อไปลดเหลือวันละ 1 ครั้ง ต่อไปอาทิตย์ละครั้ง

ในระหว่างที่กดจุดรักษา ควรจะหลีกเลี่ยงอาหารจัดและงดการดื่มสุรา

ข้อแนะนำทั่วไปก่อนกดจุด

1. นั่งหรือนอนในท่าที่สบายมือที่จะกดจุดไม่ควรจะเย็นถ้าเย็นควรทำมือให้อุ่นก่อนโดยแช่ในน้ำอุ่นหรือใช้ผ้าห่มมือไว้

2. ถ้าท่านมีผิวหนังที่แพ้ง่ายอาจจะโลชั่นหรือแป้งฝุ่นทาบริเวณที่จะกดจุดก่อนลงมือกดจุด

3. ระหว่างทำการกดจุดบางรายอาจมีเหงื่อออกมากควรให้พักระหว่างการกดจุดได้

4. ในวันที่อากาศหนาวเย็นเมื่อกดจุดเสร็จเรียบร้อยแล้วก่อนออกไปนอกบ้านควรสวมเสื้อให้อบอุ่น

ข้อแนะนำก่อนกดจุด

1. การกดจุด หมายถึง การนวดจุดๆ นั้นโดยใช้ปลายนิ้วมือที่เล็บสั้น

2. อ่านและดูรูปทีแสดงตำแหน่งการกดจุดให้เข้าใจ แล้วลองกดจุดที่อยู่บนร่างกาย สำหรับจุดที่อยู่บนใบหูแจจะใช้กระจกส่องช่วยหาจุด หรือวานให้ใครคนใดคนหนึ่งดูจุดนั้นในรูปแล้วชี้ตำแหน่งให้

3. เมื่อท่านกดถูกจุดๆ นั้นจะให้ความรู้สึกได้ดีกว่าบริเวณรอบๆ และควรกดจุดให้แรงพอ

4. นิ้วมือที่นิยมใช้กดจุด มักใช้นิ้วชี้ โดยให้ปลายนิ้วตั้งฉากกับผิวหนัง และนวดไปตามทิศทางที่ลูกศรชี้ในภาพนวด (ถู) ออกไปเป็นระยะทาง 1 นิ้ว การนวด ควรนวดประมาณ 30 ครั้ง ต่อ 10 วินาที หรือ 70-100 ครั้งต่อนาที

5. จุดบนใบหูอาจจะใช้ปลายนิ้วก้อยหรือปลายดินสอ, ปากกามนๆ นวดได้เพราะบริเวณใบหูเล็กและแคบกว่าร่างกาย

6. การกดจุดตามหลักของจีนได้กำหนดเวลาในการกดจุดแต่ละครั้งไว้ ดังนี้

  • เด็กอายุ 0-3 เดือน ใช้เวลากดทั้งหมด ½ -3 นาที
  • เด็กอายุ 3-6 เดือน ใช้เวลากดทั้งหมด 1-4 นาที
  • เด็กอายุ 6-12 เดือน ใช้เวลากดทั้งหมด 1-5 นาที
  • เด็กอายุ 1-3 ปี ใช้เวลากดทั้งหมด 3-7 นาที
  • เด็กโต ตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ใช้เวลากดทั้งหมด 5-10 นาที
  • ผู้ใหญ่ ใช้เวลากดทั้งหมด 5-10-15 นาที

7. จุดที่กดอยู่บนร่างกาย ควรกดหรือนวดทั้ง 2 ข้างของลำตัว (ร่างกายจะแบ่งเป็น 2 ข้าง คือ ข้างขวาและซ้าย)

8. ระยะต่างๆ ที่ใช้ในการวัด จะวัดจากความกว้างของนิ้วของผู้กดจุดเอง

ข้อมูลสื่อ

81-006
นิตยสารหมอชาวบ้าน 81
มกราคม 2529
ลลิตา อาชานานุภาพ