• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

เด็กแปดเดือดถึงเก้าเดือน ลักษณะของเด็ก

197. อุบัติเหตุจากที่สูง
เมื่อเด็กอายุ 8-9 เดือนนี้ คงไม่มีคนไหนที่ไม่เคยประสบอุบัติเหตุตกจากที่สูง ถ้าหากเด็กตกจากที่สูงเอาหัวฟาดพื้นแล้วจะต้องปัญญาเสื่อมทุกคนไปละก็ อารยธรรมของคนคงไม่เกิดแน่ อุบัติเหตุตกจากที่สูงที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุดคือ ตกเตียง ตกเก้าอี้ ถ้าตกจากที่สูงไม่เกินหนึ่งเมตรลงมาพื้นนุ่มๆ เช่น เบาะ หรือที่นอน ก็อาจจะไม่เป็นอันตราย แต่ถ้าตกลงมาบนพื้นซีเมนต์ ก็อาจอันตรายได้

ถ้าเด็กตกลงมาแล้วร้องไห้จ้า คุณแม่ก็สบายใจได้ขั้นหนึ่งแล้ว เด็กบางคนที่ความรู้สึกไว ตอนตกลงมาอาจรู้สึกช็อกจนหน้าซีดขาว แต่พออุ้มขึ้นแล้วเป็นปกติตามเดิมก็ไม่ต้องห่วง หลังจากนั้นสักไม่กี่นาที ศีรษะตรงที่ฟาดพื้นจะโนขึ้นมา เพราะเส้นเลือดที่อยู่นอกกะโหลกเกิดเป็นแผล ทำให้เลือดออก ไม่ใช่โรคเส้นเลือดในสมองแตก ซึ่งเป็นโรคร้ายแรงถึงชีวิตได้

ในกรณีที่เด็กตกจากเตียงหรือเก้าอี้ ส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องปรึกษาหมอ แต่ถ้าหากตกบันไดละก็ บางครั้งอาจต้องติดต่อกับหมอ

การที่เด็กหมดสติไปหลังจากตกจากที่สูงนั้น ในบางกรณีอาจเป็นเพราะตกเลือดในสมองก็ได้ หมอคงสั่งให้พาไปโรงพยาบาลที่ทำการผ่าตัดได้ ในกรณีนี้ควรใช้รถพยาบาลซึ่งชำนาญในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจะปลอดภัยกว่า

ในชนบทซึ่งติดต่อปรึกษาหมอล่วงหน้าได้ลำบาก ต้องพาตัวเด็กไปเลย เวลาเคลื่อนย้ายเด็กไม่ควรอุ้มควรให้นอนราบไปบนกระดาน และเอาน้ำแข็งหุ้มผ้าปะศีรษะไว้

ถ้าเด็กร้องอยู่นาน แต่ยังมีสติดีอยู่ หรือมีอาการอาเจียนหลังจากตกจากที่สูง หมอจะตรวจอาการให้ ถ้าไม่มีอะไรผิดปกติ หมอจะสั่งให้นอนอยู่เฉยๆ โดยใช้หมอนน้ำแข็งช่วย

คุณพ่อคุณแม่มักจะอยากให้หมอเอกซเรย์ตรวจสมองด้วย แต่การเอกซเรย์ตรวจดูธรรมดานั้น จะตรวจเห็นเฉพาะกรณีที่กะโหลกหักเท่านั้น ซึ่งถ้ามีบาดแผลขนาดนั้นละก็ เด็กจะแสดงอาการอื่นให้เห็นและเด็กจะหมดสติ ที่หมอไม่สั่งเอกซเรย์ก็เพราะไม่อยากให้เด็กเกิดความกลัวตอนถูกจับตรึง เพื่อถ่ายภาพเท่านั้น หมอคงอยากให้เด็กนอนอยู่เฉยๆ ถึงจะมีบาดแผลที่เส้นเลือดบ้าง แต่ถ้าได้นอนพักนิ่งๆ ก็จะไม่เป็นอะไรร้ายแรงมาก ถ้าหมอตรวจชีพจร การหายใจ ตรวจตาแล้วไม่มีอะไรผิดปกติละก็ หมอจะติดตามดูอาการต่อไปแล้วจึงตัดสินใจ ถ้าเห็นว่าไม่ปลอดภัย คงแนะนำให้อยู่โรงพยาบาล แต่ส่วนใหญ่เด็กที่ตกบันไดนั้น พอดูอาการสักหนึ่งคืนแล้ว มักจะปล่อยกลับบ้านได้

เด็กที่ตกเตียงหรือตกบันได ส่วนใหญ่มักจะร้องไห้จ้าอยู่พักหนึ่ง และบาดเจ็บหัวโนอยู่วันสองวันก็หายไป แต่บางครั้งคุณพ่อคุณแม่ห่วงเฉพาะที่ศีรษะของลูกจนลืมที่อื่นไป มีบางกรณีเหมือนกันแต่น้อยมากที่เด็กเกิดบาดเจ็บที่ม้าม หรือไต เวลาปัสสาวะจึงมีสีแดง เพราะเลือดออก เมื่อเลือดออก หน้าเด็กจะซีดขาว และท้องโป่ง เด็กจะร้องกวนไม่ยอมกินอาหาร พาไปหาหมอก็จะตรวจพบได้ ซึ่งจะต้องผ่าตัดหยุดเลือด นอกจากนั้นยังมีบางครั้งที่กระดูกไหปลาร้าหัก ถ้าเด็กหัวโน หรือเลือดออกที่ศีรษะ คุณพ่อคุณแม่จะมัวกังวลที่จุดนั้น จนลืมตรวจดูให้ทั่วทุกส่วน หลังจากนั้น 1-2 วัน พอจะสอดแขนอุ้มเด็ก เด็กจะร้องเพราะเจ็บ ถ้ายกแขนเด็กชูขึ้น แขนข้างที่กระดูกหักจะยกลำบาก กระดูกไหปลาร้าหักแบบนี้ไม่ต้องห่วง ถ้าทำให้กระดูกไม่เคลื่อนที่ ไม่นานก็จะติดกันเอง และหายสนิท

198. ถูกของร้อน

อุบัติเหตุถูกของร้อนนั้นมีหลายระดับ มีตั้งแต่ถูกก้นบุหรี่ของคุณพ่อจี้เอาโดยบังเอิญ เพียงแต่ผิวหนังแดงขึ้นนิดเดียวจนกระทั่งถูกน้ำร้อนทั้งกระติดราดเอาครึ่งตัว ซึ่งอาการค่อนข้างหนัก

ถ้าผิวหนังบริเวณที่แขนขาที่ถูกของร้อน มีบริเวณนิดเดียว (เช่น บริเวณนิ้ว หรือส่วนหนึ่งของฝ่ามือ) และเพียงแต่ผิวหนังแดงขึ้นนิดหน่อยไม่พองขึ้นมา ให้เอาแอลกอฮอล์เช็ดแผลแล้วพันผ้าเอาไว้ ไม่ควรใช้ของอื่นเช่น เอายาหม่องทา ทาดินสอพอง หรือใช้ซีอิ้วทา ฯลฯ เพราะถ้าหากแผลเกิดพุพองขึ้นมาอาจเกิดอักเสบเพราะเชื้อโรคเข้าไปได้

ในกรณีที่ผิวหนังพองหลังจากถูกของร้อน รีบพาไปหาหมอทันที อย่าเอาอะไรทาส่งเดช เพราะอาจเกิดอักเสบเป็นแผลเป็นได้ง่าย พวกแผลพุพอง คุณแม่ไม่ควรจัดการเอาน้ำเหลืองออกเสียเอง

ในกรณีที่เด็กถูกสารเคมี เช่น โซดาไฟ กรดเกลือ กรดกำมะถัน ให้รีบล้างด้วยน้ำประปาแล้วพาไปหาหมอทันที

เวลาที่เด็กถูกน้ำร้อนลวกทั้งๆ ที่ใส่เสื้อผ้าอยู่ ก่อนอื่นให้ใช้น้ำราดเสียก่อน ไม่ควรถอดเสื้อผ้าทันทีเพราะไม่ดีอาจทำให้บาดแผลเป็นมากขึ้น แทนที่จะถอดเสื้อผ้าให้ใช้กรรไกรตัดออก อย่างไรก็ตามควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหมอดีกว่า ขอให้ราดด้วยน้ำ (น้ำประปาธรรมดา) แล้วรีบพาไปส่งโรงพยาบาลโดยด่วน

199. ท้องเสีย
ส่วนใหญ่เด็กมักท้องเสียเพราะกินเชื้อโรคเข้าไป แต่ในกรณีที่ไม่มีใครในบ้านท้องเสีย และคุณแม่มั่นใจว่ารักษาความสะอาดทำอาหารดีพอ เด็กอาจท้องเสียด้วยสาเหตุอื่นได้เหมือนกัน

เด็กที่ท้องเสีย เด็กจะอารมณ์ไม่ดี ร้องกวนผิดปกติและบางครั้งมีอาการไข้ ต้องพาไปหาหมอ
ถ้าท้องเสียเพราะเป็นบิด เด็กจะอึทีละน้อย กะปริบกะปรอย อุจจารยะมีมูกหรือมีเลือด มีกลิ่นเหม็น มีไข้ หรือมีไข้ต่ำ ต้องพาไปหาหมอ นอกจากเพราะเชื้อโรคแล้ว เด็กยังอาจท้องเสียเพราะกินมากเกินไป ในกรณีนี้เด็กจะท้องเสียอย่างเดียว ไม่มีไข้ ร่าเริงดี ถ้าลดอาหารลงเล็กน้อย และเปลี่ยนจากผลไม้เป็นให้น้ำผลไม้แทน สักวันสองวันก็จะหาย

ความคิดที่ว่า งดอาหารแข็ง ให้แต่อาหารเหลวแล้วท้องจะหายเดินนั้น ใช้ไม่ได้ในกรณีของเด็กทารก การณ์กลับกลายเป็นว่า การให้อาหารในลักษณะที่ผิดไปจากอาหารที่เคยได้รับทุกๆ วัน กลับส่งผลกระตุ้นที่ผิดแผกไปจากเดิมต่อลำไส้เด็ก ทำให้อุจจาระไม่แข็งสักที วิธีแก้คือ กลับไปให้อาหารตามเดิมเท่านั้น ถ้าเลือกให้ผลไม้ก็กลับไปให้ผลไม้ใหม่ ถ้าให้ข้าวต้มจางลงกว่าเดิม และการชั่งน้ำหนักเป็นเรื่องสำคัญถ้าเด็กได้อาหารเหมือนเก่าแล้ว ถึงแม้ท้องยังเสียอยู่ แต่ถ้าน้ำหนักเพิ่มขึ้น ร่างกายจะค่อยกลับสู่สภาพปกติ และอาการท้องเสียจะหายไปในที่สุด

200. ปอดบวม
อาการของโรคปอดบวม คือ เด็กจะมีไข้สูง หายใจลำบาก และเวลาไอจะแสดงอาการเจ็บปวด
ปอดบวมที่เกิดจากเชื้อปอดบวมไมโครพลาสมาสามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ ส่วนปอดบวมที่เกิดจากเชื้อไวรัสจะค่อยๆ หายได้เอง เพราะฉะนั้น เมื่อเด็กเป็นหวัดและหมอสงสัยว่าจะมีอาการปอดอักเสบ หมอมักจะใช้ยาปฏิชีวนะด้วย เด็กสมัยนี้จึงไม่ค่อยตายด้วยโรคปอดบวมเหมือนสมัยก่อน เพราะฉะนั้นเวลาหมอบอกว่าลูกคุณปอดชื้นหรือ ปอดอักเสบ คุณแม่ไม่ต้องตกใจนัก

แต่ก็มีโรคปอดบวมที่ค่อนข้างยุ่งยาก คือ ปอดบวมทีเกิดจากเชื้อ Staphylo coccus
ซึ่งเป็นเชื้อที่ดื้อยาปฏิชีวนะ และชื้อไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเชื้อพวกนี้เด็กมักติดมาจากผู้ใหญ่ เพราะฉะนั้นเวลาไปโรงพยาบาล ไม่ควรพาเด็กไปคอยหมอในห้องคอยรวมกับผู้ป่วยอื่นๆ ถ้าไม่มีห้องคอยสำหรับเด็กโดยเฉพาะคุณแม่อุ้มลูกคอยอยู่ข้างนอกจะปลอดภัยกว่า ถ้าลูกคุณเกิดเป็นปอดบวมด้วยเชื้อพวกนี้ จะต้องเข้าโรงพยาบาลรักษาและกว่าจะหายคงใช้เวลาเป็นเดือน

ถ้าหมอบอกว่าลูกคุณเป็นปอดอักเสบ แต่ไม่ต้องเข้าโรงพยาบาล ให้รักษาที่บ้านได้ คุณแม่จำเป็นต้องทำอะไรให้เป็นพิเศษ ถ้าเด็กอยากอาหารดี ก็ให้กินอาหารเสริมต่อไป และให้ดื่มน้ำผลไม้สดมากๆ ในกรณีที่ไอมาก คุณแม่ช่วยอุ้มพาดไหล่และตบหลังเบาๆ จะช่วยให้เสมหะหลุดออกมาได้ง่ายกว่าปล่อยให้นอนราบบนเตียง

.....ไข้สูง ทั้งๆ ที่ไม่มีน้ำมูกและไม่ไอ ไข้สูงติดต่อกัน 2 วันยังไม่ยอมลด ดู 167 มีไข้สูง หมอชาวบ้าน….
....มีไข้แล้วชัก ดู 183 ชัก หมอชาวบ้าน......
....อยู่ดีๆ ก็ร้องไห้จ้าแสดงอาการเจ็บปวด ทั้งๆ ที่เป็นเด็กร่าเริงมาตลอด เกิดร้องขึ้นมาอย่างกะทันหัน แล้วสักพักก็หยุดร้อง กลับแจ่มใสตามเดิม ถัดไปอีก 4-5 นาที กลับร้องอีก ดู 131 ร้องจ้าอย่างกะทันหัน และ 132 ลำไส้กลืนกัน หมอชาวบ้าน....
....หืด ดู 186 โรคหืดในเด็ก หมอชาวบ้าน 48
 

ข้อมูลสื่อ

53-005
นิตยสารหมอชาวบ้าน 53
กันยายน 2526