• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ปวดท้อง(ชุดที่ 2 ภาพชุดการรักษาตนเอง )


อาการปวดท้องที่ต้องไปหาหมอ
คือ อาการปวดท้องที่ร่วมด้วยอาการหนึ่งอาการใดดังต่อไปนี้

1.ไข้ (ตัวร้อน)

2.คลื่นไส้อาเจียนมาก หรืออาเจียนเป็นเลือด

3. ปัสสาวะไม่ออก หรือขัดมาก หรือเป็นเลือด

4.หน้าท้องแข็งหรือดาน เอามือกดเบา ๆ แล้วคนไข้เจ็บ (จนสะดุ้ง) หรือเอามือกดเบาๆ ให้ผนังท้อง
ยุบลงไปโดยคนไข้ไม่เจ็บ ยกมือขึ้นทันที แล้วคนไข้เจ็บจนสะดุ้ง

5.มีอาการเจ็บหนัก เช่น ซีดมาก หน้ามืด เป็นลม ตัวเย็นเหงื่อแตก ไม่ค่อยรู้สึกตัว หรือหมดสติ ชัก
เป็นต้น

6.อาการปวดท้องที่ลองรักษาเองแล้วไม่ดีขึ้น

 

การรักษาตนเอง
คนไข้ที่ปวดท้อง โดยไม่ได้ร่วมด้วยอาการในข้อ 1 ถึง 6 อาจจะลองรักษาเอง โดยนอนพักกินน้ำร้อน หรือเอาของร้อนประคบหน้าท้องแล้วดูว่า                  

ก. ถ้าอุจจาระปกติให้ดูว่าปวดเหนือสะดือหรือใต้สะดือ
- ถ้าปวดเหนือสะดือกินยาลดกรด 1-2 ช้อนโต๊ะ ซ้ำได้ทุก 1 ชั่วโมง อีก 2-3 ครั้ง ถ้าดีขึ้นให้รักษาแบบโรคแผลในกระเพาะ* ถ้าไม่ดีขึ้น ให้กินไดอะซีแพม 1 เม็ด และพาราเซตามอล 1-2 เม็ด ถ้ายังไม่ดีขึ้น ให้ไปหาหมอ

- ถ้าปวดใต้สะดือ กินยาแก้ปวด(พาราเซตามอล) 1-2 เม็ด ซ้ำได้ใน 1 ชั่วโมง ร่วมกับไดอะซีแพม 1 เม็ด ถ้าไม่ดีขึ้นให้ไปหาหมอ               

ข.ถ้าอุจจาระผิดปกติ ให้ดูว่าท้องผูกหรือท้องเดิน
- ถ้าท้องผูก สวนอุจจาระออก
- ถ้าท้องเดิน กินยาซันฟากัวนิดีน 4-5 เม็ด ต่อไป 2 เม็ดทุก 6 ชั่วโมง จนท้องหยุดเดิน ถ้าปวดบิดหรือปวดมวนในท้องมาก กินทิงเจอร์ฝิ่นการะบูน 10-20 หยด ผสมกับน้ำร้อน ๆ

 

รักษาโรคกระเพาะ:
กินอาหารเป็นเวลา อย่าให้หิวหรืออิ่มเกินไป กินยาลดกรด 1-2 เม็ด หรือ 1-2 ช้อนโต๊ะ 1- 2 ชั่วโมงหลังอาหาร 3 มื้อ และก่อนนอนและเวลาที่ปวดท้อง (อาจใช้ไดอะซีแพม ½-1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น และ 1-2 เม็ดก่อนนอนร่วมด้วยถ้ามีความเครียดกังวล)

 

                                

 

   

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ข้อมูลสื่อ

61-014
นิตยสารหมอชาวบ้าน 61
พฤษภาคม 2527
อื่น ๆ
หมอชาวบ้าน