• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

โรคต้อเนื้อ

ก่อนที่จะอ่านเรื่องราวของโรคนี้ ท่านควรจะทราบก่อนว่า ต้อเนื้อคืออะไร ?

“ต้อเนื้อ” เป็นโรคที่เกิดกับตาชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมที่ยื่นจากขอบตาดำเข้าไปบนตาดำ (ดังรูปที่ 1) ตำแหน่งที่พบมากคือด้านในหรือด้านหัวตา ทั้งนี้เชื่อว่าต้นเหตุที่จะทำให้เกิด (ซึ่งจะกล่าวต่อไป) กระทบบริเวณหัวตาได้มากกว่าส่วนหางตาอีกทั้งบริเวณหัวตามีเส้นเลือดมาหล่อเลี้ยงมาก เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง
 

 

 

โรคต้อเนื้อ : "ต้อเนื้อ " เป็นโรคที่เกิดกับตาชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม ที่ยื่นจากขอบตาดำเข้าไปบนตาดำ

 

 

 

 


ต้อเนื้อ จะพบหรือเกิดกับคนที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป พบมากในช่วงอายุ 30 ถึง 55 ปี
ไม่ค่อยพบในผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี พบเหมือนกันน้อยมาก
ไม่พบโรคนี้เลยในเด็กต่ำกว่า 14 ขวบ
อัตราการเกิดในเพศชาย พอ ๆ กับเพศหญิง
ในประเทศแถบเส้นศูนย์สูตรหรือที่เรียกว่าท๊อปปิคอนโซน พบมากที่สุด กล่าวง่าย ๆว่า ในประเทศเขตร้อนมีโรคนี้มาก ประเทศหรือดินแดนค่อนข้างแห้งแล้ง กันดาร ฝุ่นลมจัด (ประเทศที่กำลังพัฒนาทั้งหลายนั่นแหละครับ) ประเทศที่มีอาการหนาว ได้แก่ แถบใกล้ขั้วโลกไปทั้งเหนือและใต้พบน้อย ชาติฝรั่งจึงไม่ค่อยพบโรคต้อเนื้อ
ประเทศไทย สถิติที่พอจะค้นมาคุยกันได้บ้าง พบมากแถวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดบุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ฯลฯ เป็นต้น บางหมู่บ้านเป็นกันแทบทุกคน ใครไม่มีต้อเนื้อประดับอยู่ในตาราวกับคน ๆนั้นมีลักษณะลูกตาผิดปกติไม่เหมือนคนอื่น เพียงแต่ว่าของใครจะยาวกว่ากัน หรือของใครจะมีสองตาหรือไม่เท่านั้น

ไหน ๆ ก็กล่าวถึงต้อเนื้อแล้ว ผมขอเลยไปอีกโรคหนึ่งซึ่งถือเสมือนโรคพี่โรคน้องกันเลยก็ได้ นั่นคือ“โรคต้อลม”


“โรคต้อลม”
เป็นก้อนเหลือง ๆ นูนขึ้นมาบริเวณขอบตาดำด้านหัวตาหรือหางตา ตำแหน่งเดียวกับต้อเนื้อนี่แหละ เพียงแต่ว่าต้อลมยังไม่ลุกลามเข้าไปบนตาดำเท่านั้นเอง อีกประการหนึ่งต้อล้มเป็นเพียงก้อนนูน ไม่ได้มีรูปสามเหลี่ยมแหลมเหมือนต้อเนื้อชอบเป็นด้านหัวตาเหมือนกัน เพราะสาเหตุมาจาก
อย่างเดียวกัน (ดังรูป 2)

 

   

โรคต้อลม " ต้อลม" เป็นโรคที่เกิดกับตาชนิดหนึ่งมีก้อนเหลืองๆนูนขึ้นมาบริเวณขอบตาดำด้านหัวตาหรือหางตา

 

 

 



สาเหตุของต้อเนื้อคือ

1.ลม

2.แสงแดด (แสงอัตราไวโอเลต)

3.ฝุ่น

4.ความร้อนจากแสงอาทิตย์ เตาไฟ ฯลฯ

คนที่เป็นโรคนี้ ถ้าโดนสี่ข้อข้างบนเสมอ ๆ ทำให้เกิดต้อลม หรือต้อเนื้อได้มากกว่าคนอื่นๆ จึงพบว่าบุคคลพวกนี้จะโดนลม ฝุ่น แดด หรือความร้อนเสมอ ๆ ได้แก่ ชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน คนงานก่อสร้าง ผู้ที่ต้องรับเหมากลางแจ้ง วิศวรกรสร้างทางหรือกรรมกรสร้างทาง ฯลฯ เป็นต้น
แต่บางคนไม่โดนสิ่งดังกล่าวเลยแม้จะทำงานภายในห้องแอร์ และอยู่ในระดับนักบริหารก็ยังเป็น ทั้งนี้เชื่อว่าโรคนี้มีส่วนในทาง “กรรมพันธุ์” เหมือนกัน คือ ถ้าพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย เป็นคนที่มีต้อเนื้อประดับที่ลูกตา ลูกหลานออกมามีความโน้มเอียงที่จะเป็นโรคนี้ค่อนข้างสูง ทั้งนี้สังเกตได้เลย บางคนอายุ 17 หรือ 18 ก็เป็นโรคนี้แล้ว ซึ่งตามหลักสี่ข้อที่กล่าวข้างตันไม่น่าจะเกิดได้เร็วขนาดนี้ แสดงว่ามีส่วนที่เป็นโรคนี้มาตั้งแต่เกิดสืบถามไปทางพ่อแม่ญาติพี่น้อง ปรากฏว่ามีโรคนี้เช่นกัน

 

อาการของโรค
ปกติโรคนี้แทบไม่มีอาการอะไรเป็นเพียงเนื้อเยื่อที่ค่อย ๆ ยื่นเข้าไปบนตาดำเท่านั้น ยกเว้นในกรณีที่มีการอักเสบ จะแดง บวม เคือง น้ำตาไหล บางครั้งมีอาการปวดเล็กน้อย อีกประการหนึ่ง ถ้าปล่อยให้ยื่นเข้าไปยาวๆ ถึงกลางตากดำอาจจะบังสายตาให้มัวลงได้

บางคนมีโรคนี้อยู่ ยังไม่ทราบเลยว่า ตัวเองมีต้อเนื้อประดับอยู่ขอบตาดำ เพราะความที่ไม่มีอาการและไม่ทันสังเกต ไม่ค่อยส่องกระจกดูตาตัวเอง พวกนี้มักเป็นผู้ชายที่ไม่ค่อยเอาใจใส่ใบหน้าตัวเอง ผิดกับพวกผู้หญิงพวกนี้ส่องกระจก เขียนตา แต่งตาทุกเช้า มีอะไรเป็นก้อนชนิดเดียว บริเวณขอบตาดำก็ตกใจแล้ว ที่จริงเป็นเพียงต้อลมเท่านั้น

บางคนเป็นจนยาวยื่นเข้าตาดำทั้งด้านหัวตาและหางตาเข้ามากลางตาดำ เกือบจะชนกันอยู่แล้ว ยังเฉย เพราะความที่ไม่มีอาการอะไรนั่นเอง

 

การป้องกัน
เลี่ยงจากการโดนลมโกรกเสมอ ๆ หรือมิให้ฝุ่นเข้าตาเป็นประจำ เลี่ยงมิให้โดนแดดจัด ๆ โดยเฉพาะเวลาตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึงบ่าย 3 โมงเย็น เป็นช่วงที่แสงแดดจัดมาก อัลตราไวโอเลต ค่อนข้างสูง มีโอกาสเป็นต้อลมมาก เลี่ยงการโดนกระทบไอร้อน ๆ บริเวณใบหน้า ได้แก่ พวกพ่อครัว แม่ครัว ที่ทำอาหารเกือบทั้งวัน ออกนอกบ้าน พยายามสวมแว่นกันแดด จะช่วยได้มาก

 

การรักษา
ถ้าไม่อักเสบ และเริ่มเป็นใหม่ ๆ ไม่ต้องทำอะไร เก็บไว้ก่อน รอจนกว่าจะยาวเข้าไปเลยขอบตาดำสักสามหรือสี่มิลลิเมตร ค่อยไปปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อผ่าตัดลอกออก

การผ่าตัดต้อเนื้อไม่ยุ่งยาก ผ่าตัดที่คลินิกก็ได้ ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 15 นาทีก็เสร็จ ฉีดยาชาเฉพาะที่เข้าไปบริเวณใต้ต้อเนื้อ ไม่เจ็บไม่ปวดเลย ราคาค่างวดการผ่าตัดและค่ายา แล้วแต่แพทย์ผู้ผ่าตัดจะคิดเป็นรายๆ ไป โรคนี้ไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล เว้นแต่ว่าท่านอยากจะนอนพักในโรงพยาบาลเอง ผ่าตัดเสร็จลงจากเตียงเดินได้ปกติ กินยาแก้ปวดสักครึ่งชั่วโมงก็ทุเลา

 

ปัญหามีอยู่ว่า
1.ถ้าไม่ลอก จะใช้ยาหยอดไปกัดต้อให้หลุดได้ไหม ขอตอบว่าไม่มีถ้ามีคงกัดเยื่อตาส่วนอื่นพังพินาศไปด้วย

2.ผ่าตัดแล้วจะมีโอกาสเป็นอีกหรือไม่ ขอตอบว่าโอกาสต้อเนื้อคืนตัวมีอยู่ค่อนข้างสูงถึง 30% หมายความว่าลอกต้อพร้อมกัน 10 คน โอกาสที่จะมีคนที่ต้อคืนตัวใหม่ถึง 3 คน บางครั้งอาจถึง 4 คนด้วยซ้ำ ถ้าเป็นต้อเนื้อในคนหนุ่มสาวและต้อใหม่ หนา แต่ถ้าในคนแก่ ต้อค่อนข้างบาง แบนใส การคืนตัวน้อยกว่าสมัยใหม่มีวิธีลดอัตราการคืนตัวลง โดยที่หลังผ่าตัดเราใช้รังสีเบต้า ไปช่วยทำลายหรือยาหยอดบางชนิดหยอดหลังผ่าตัดกันต้อคืนตัว ได้ผลดีมากอัตราคืนตัวไม่ถึง 1%

3.อีกประการที่มีความสำคัญหลังผ่าตัดลอกแล้ว ควรเลี่ยงต่อการโดนสิ่งที่จะเป็นสาเหตุสี่ประการดังกล่าวไว้ด้วย โดยการสวมแว่นกันแดด มิฉะนั้นแม้จะใช้ยาป้องกันการคืนต้อหยอด การคืนต้อก็มีอยู่เสมอ

4.ถ้าต้อคืนตัวออกมาอีก ต้องผ่าตัดซ้ำหรือไม่ ? ขอตอบว่าควรผ่าตัดซ้ำ การผ่าตัดลอกต้อเนื้อสามารถทำได้เรื่อย ๆ ส่วนมากเท่าที่ผู้เขียนมีประสบการณ์เรื่องนี้ จะผ่าตัดอย่างมากเพียง 2 ครั้ง ก็หายขาด เฉพาะบางคนเท่านั้นที่อาจต้องผ่าตัดครั้งที่ 3

 

อันตรายที่เกิดจากโรคนี้
โดยทั่วไป โรคนี้ไม่ถึงกับทำให้เกิดอันตรายต่อตา เพราะก่อนจะถึงขั้นเป็นมากจนปิดตาดำ ผู้นั้นจะไปให้แพทย์ตรวจพบเสียก่อน เว้นในคนแก่ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ปล่อยละเลยจนปิดตามิดทั้ง 2 ข้าง ทำให้ตาบอดได้ การผ่าตัดลอกออกทำได้ค่อนข้างยากและคืนตัวง่าย
อันตรายจากการผ่าตัดโรคต้อเนื้อไม่มี ถ้าผู้นั้นไม่แพ้ยาชาเฉพาะที่มาก่อน

อ่านเรื่องนี้จบ กรุณาส่องกระจกมองดูตาของคุณในกระจกซิครับว่า มีก้อนเนื้อหรือเนื้อเยื่อสามเหลี่ยมหรือยังก่อนที่มันจะยื่นเข้าไปจนน่าเกลียด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ข้อมูลสื่อ

66-005
นิตยสารหมอชาวบ้าน 66
ตุลาคม 2527
โรคน่ารู้
นพ.สุรพงษ์ ดวงรัตน์