• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ข้าวกล้องวิตามิน ....เพียบ

 

 

มากินข้าวให้ได้คุณค่ากันเถิด

ประเทศไทยส่งข้าวออกขายมากที่สุดในโลกและเมืองไทยได้ชื่อว่าอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรต่างๆ มากมาย ในน้ำมีปลาในนามีข้าว ในสวนในไร่มีพืชผักผลไม้ ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ส่งสินค้าเกษตรกรรมไปขายต่างประเทศมากทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก แต่ประเทศไทยก็ยังมีประชาชนเป็นโรคขาดสารอาหารอยู่อีกมาก จากสถิติ เด็กไทยเป็นโรคขาดอาหารประมาณร้อยละห้าสิบซึ่งมาจากสาเหตุ 2 ประการคือ กินอาหารไม่เป็น และมีอาหารไม่พอกิน

ถ้ามองตามสภาพที่เห็นน่าจะมีสาเหตุมาจากประการแรกมากกว่า คือ กินไม่เป็น คนส่วนใหญ่มักจะมอง
ข้ามความสำคัญของการกินอาหารให้ถูกหลัก อาหารที่ดีและมีคุณค่านั้นไม่ใช่ของหายากหรือของแพงแต่อย่างใด โดยเฉพาะคนในเมืองที่คิดว่าตนเองกินดีอยู่ดีนั้นมักกินไม่ค่อยถูกโภชนาการ ทำให้เจ็บป่วยกันมากมายด้วยโรคนานาชนิด ซึ่งสมัยก่อนมีน้อยกว่ามาก เช่น โรคเบาหวาน  โรคหัวใจวาย โรคมะเร็ง ฯลฯ จึงทำให้มีการตื่นตัวหันกลับมากินเพื่อสุขภาพกันเพิ่มขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงจากโรคร้ายต่าง ๆ
 

อาหารดีว่ายา เพราะนอกจากจะช่วยรักษาโรคแล้วก็ยังป้องกันมิให้เกิดโรคอีกด้วย ดังนั้นการกินอาหารที่ดีมีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าต้องการให้มีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ข้าวเป็นอันดับแรกที่เราควรจะให้ความสนใจ ทำไมเราจึงต้องสนใจเรื่องข้าว ก็เพราะว่าข้าวเป็นอาหารหลักของคนไทย ทุกคนต้องกินข้าวทุกวัน วันละ 2 มื้อบ้าง 3 มื้อบ้าง ก็แล้วแต่บุคคลแล้วท่านทราบหรือไม่ว่า ข้าวที่ท่านกินเข้าไปนั้นมีประโยชน์หรือคุณค่าอะไรแก่ร่างกายบ้างเมื่อเราเอาเปลือกข้าวออก ในเมล็ดข้าวจะมีวิตามิน เกลือแร่ และสารอาหารต่าง ๆ ที่สำคัญต่อร่างกายรวม 20 กว่าชนิด เช่นวิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบีรวม ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส แคลเซียม ทองแดง ไขมัน โปรตีน แป้ง และอื่น ๆ ข้าวที่จะมีคุณค่าดังกล่าวข้างต้นก็คือ ข้าวกล้อง

 

 

 

 

 

 

 

 

 


 

ข้าวกล้องคืออะไร คือข้าวที่สีเอาเปลือก (แกลบ) ออก โดยที่ยังมีจมูกข้าว และเยื่อหุ้มเมล็ดข้าว (รำ)
อยู่ ข้าวกล้องจะมีสีน้ำตาลอ่อน ซึ่งจมูกข้าวและเยื่อหุ้มเมล็ดข้าวนี้มีคุณค่าอาหารที่มีประโยชน์มาก
สำหรับข้าวขาวที่เรากิน ๆ กันอยู่นั้นเป็นข้าวที่เกิดจากขัดสีหลาย ๆ ครั้ง จนเยื่อหุ้มเมล็ดข้าวและจมูก
ข้าวหลุดออกไปหมด จนเหลือแต่เนื้อในของข้าว

ข้าวกล้องบางคนเรียกกันติดปากว่า ข้าวซ้อมมือ หรือข้าวแดง เนื่องจากในสมัยโบราณชาวบ้านใช้
วิธีตำข้าวกินกันเอง จึงเรียกว่า ข้าวซ้อมมือ แต่ปัจจุบันเราใช้เครื่องจักรสีข้าวแทนจึงเรียกข้าวที่สีเอาเปลือกออกนี้ว่า ข้าวกล้อง

ท่านทราบไหมว่า ข้าวกล้องมีโปรตีนประมาณ 7-12 % (แล้วแต่พันธุ์ข้าว) นักค้นคว้าชื่อ โรสเดล
(Rosedale) ได้วิเคราะห์ว่าการขัดสีข้าวกล้องจนมีสีขาวจะทำให้โปรตีนสูญหายไปประมาณ 30%ถ้า
ดูอย่างผิวเผินการสูญเสียเพียงแค่นี้ไม่มากนัก แต่อย่าลืมว่าเราต้องกินข้าววันละ 3 มื้อ และข้าวเป็น
อาหารที่เรากินมากที่สุด

คุณค่ามหาศาลในข้าวกล้อง

การกินอาหารของคนเรา เปรียบเสมือนกับการเติมน้ำมันสำหรับรถ ซึ่งเรายังต้องการน้ำมันคุณภาพดี ๆ แต่ทำไมเวลาเรากินอาหารเราจึงไม่สนใจที่จะได้อาหารที่มีคุณภาพดี ๆ ถึงเวลาแล้วที่เราควรต้องคำนึงถึงคุณค่าในสิ่งที่กินเข้าไปด้วย เพียงแต่ท่านกินข้าวกล้องเพียงอย่างเดียวท่านก็จะได้รับแร่ธาตุอาหารต่าง ๆ มากมายหลายชนิด อาทิ เช่น

วิตามินบีรวม ป้องกันและบรรเทาอาการอ่อนเพลีย แขน ขาไม่มีแรง ปวดกล้ามเนื้อ โรคผิวหนังบาง
ชนิด บำรุงสมอง ทำให้เจริญอาหาร

วิตามินบี 1 ซึ่งถ้ากินเป็นประจำจะช่วยป้องกันโรคเหน็บชาได้

วิตามินบี 2 ป้องกันโรคปากนกกระจอก

ฟอสฟอรัส ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูก และฟัน

แคลเซี่ยม ทำให้กระดูกแข็งแรงช่วยป้องกันไม่ให้เป็นตะคริว

ทองแดง สร้างเม็ดโลหิต และเฮโมโกลบิน

ธาตุเหล็ก ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง

โปรตีน ช่วยเสริมสร้างส่วนที่สึกหรอ

ไขมัน ให้พลังงานแก่ร่างกาย ไขมันในข้าวกล้องเป็นไขมันที่ดีไม่มีโฆเลสเตอรอล

ไนอะซิน ช่วยระบบผิวหนังและเส้นประสาทและป้องกันโรค เพลลากรา(โรคที่เกิดจากการขาดไนอะซีน มีอาการท้องเสีย ประสาทไหว โรคผิวหนัง)

คาร์โบไฮเดรท ให้พลังงานแก่ร่างกาย

กากอาหาร ข้าวกล้องมีกากอาหารมาก ซึ่งจะทำให้ท้องไม่ผูก และยังช่วยป้องกันมะเร็งในลำไส้อีกด้วย

โอ้โฮ...ใครเลยจะคาดคิดว่าข้าวจะมีคุณค่ามหาศาลเช่นนี้

บางคนคิดว่าข้าวไม่มีประโยชน์อะไรด้วยซ้ำไป กินกันตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ บ้างก็คิดว่าในข้าวมีเพียงแป้งหรือคาร์โบไฮเดรทเพียงอย่างเดียว ซึ่งนั่นก็เกือบจะถูกสำหรับข้าวที่ถูกขัดสีจนขาว ข้าวขาวก็ยังพอมีคุณค่าอาหารหลงเหลืออยู่บ้างแต่ก็น้อยเต็มทีเมื่อเทียบกับข้าวกล้องวิตามินและเกลือแร่ต่างๆ ในข้าวจะช่วยให้ส่วนต่าง ๆของร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพก็ไม่น่าจะสงสัยกันอีกแล้วว่าทำไมปัจจุบันคนถึงเจ็บไข้ได้ป่วยกันมาก เพราะต่างก็พากันละเลยในคุณค่าของอาหารและโภชนาการเสียสิ้น

สำหรับคนยากจนในชนบทซึ่งมักจะกล่าวว่าไม่ค่อยจะมีกินอยู่แล้วนั้น ยิ่งกินของที่ไม่มีคุณค่าทาง
โภชนาการก็ทำให้เขาเหล่านั้นเป็นโรคขาดอาหารกันมากขึ้น อันที่จริงคนยากจนในประเทศของเรา ส่วนมากจะมีพอกิน และมีสุขภาพแข็งแรงได้ ถ้ารู้จักเปลี่ยนนิสัยการกินให้ถูกหลัก เช่น รู้จักคุณค่าของข้าวกล้องหรือถั่วเมล็ดแห้งต่าง ๆ (ถั่วมีโปรตีนสูงเท่ากับเนื้อสัตว์) ซึ่งเป็นอาหารที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น และไม่แพงด้วย เราควรรู้จักปลูกพืชผักไว้กินในครอบครัว และเลือกซื้ออาหารที่ดีมีประโยชน์ ไม่ใช่ซื้อเหล้า ซื้อบุหรี่ ซื้อหวย หรือลูกกวาด ทอฟฟี่หรืออาหารไร้ประโยชน์ต่าง ๆ

จากข้าวกล้องสู่ข้าวขาว

ย้อนหลังไปในสมัยที่คุณปู่คุณย่ายังสาว ตามชนบทซึ่งความเจริญยังไปไม่ถึง ชาวบ้านนิยมตำข้าว
เอาไว้กินเอง ถึงแม้อาจจะไม่รู้ว่าข้าวซ้อมมือนั้นมีประโยชน์มากมายแค่ไหน ก็กินอยู่กันตามวิถีชีวิต
อย่างที่เป็น ๆ กันมา และหลายท่านก็คงจะนึกออกว่าสมัยก่อนนั้นคนเราอายุยืนและแข็งแรงกว่ามาก ไม่ค่อยจะมีโรคเหน็บชา โรคปากนกกระจอก และโรคขาดสารอาหาร (ประหลาดๆ ) มาเบียดเบียนกินอยู่อย่างเรียบง่ายและเป็นธรรมชาติมาก

เมื่อเทคโนโลยีเจริญก้าวหน้า โรงสีก็เริ่มมีบทบาทมากขึ้น เพราะสามารถสีข้าวได้มากกว่า เร็วกว่าและ
ระบบธุรกิจการค้าก็เข้ามาช่วยกระจายผลผลิตออกไปได้กว้างมากขึ้น ชาวนาก็มาใช้บริการโรงสีกันมากขึ้น เพราะสะดวกและสีข้าวได้มากกว่าต่ำด้วยมือขณะเดียวกันคนที่มีเงินก็หันมากินข้าวขาวจากโรงสีกัน อาจนึกว่ามีประโยชน์มากกว่าข้าวกล้องกระมัง

เมื่อปัจจัยหลาย ๆอย่างสอดคล้องกัน จึงทำให้พฤติกรรมในการกินข้าวทั้งของคนกรุงและชนบทเปลี่ยน
ไป เราคงได้ยินบ่อย ๆ ว่าชาวนาต้องไปซื้อข้าว (ขาว) จากโรงสีมากิน(เลิกตำกินเอง) ยิ่งค่านิยมของชาวตะวันตกและวิถีชีวิตที่ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือยระบาดทำให้คนเมืองคนชนบทต่างก็ดิ้นรน แก่งแย่ง ช่วงชิง เร่งรีบในการทำมาหาวัตถุมาสนองความสะดวกสบายทำให้ยิ่งไม่สนใจเรื่องคุณค่าของอาหารการกิน บางคนถึงกับบอกว่า “ผมไม่มีเวลาแม้แต่กินข้าว” น่าสงสารไหมครับ ในที่สุดข้าวกล้องจึงถูกจัดให้เป็นข้าวของคนยากจน หรือข้าวแดงเป็นข้าวที่คนชั้นต่ำเท่านั้นกินกันซึ่งเป็นค่านิยมที่ผิด เราควรจะคำนึงคุณค่าอาหารมากกว่า

ของดี ๆจากข้าวกล้องไปไหนกัน

กว่าที่จะมาเป็นข้าวขาวนั้น ส่วนที่มีประโยชน์ได้ถูกขัดออกไปเกือบหมดสิ้นซึ่งได้แก่ รำ ซึ่งจะนำไปเป็นอาหารของเป็ด ไก่ และหมู ไม่ต้องบอกก็นึกภาพออกว่าหมูอ้วนขนาดรับน้ำหนักตัวเองแทบไม่ไหว เพราะกินแต่หัวอาหาร กินแล้วนอน นอนแล้วก็ตื่นมากิน ไม่ได้ทำอะไรจึงอุ้ยอ้าย น่าเสียดายแท้ ๆ ที่เอาของดีไปให้หมู เป็ด ไก่ กินเสียหมด แล้วคนกลับมาต้องเที่ยวกินอาหารเสริมวิตามินกันขนาดใหญ่ ซึ่งดูเป็นเรื่องที่ตลกที่สุด (ช่วยหัวเราะด้วย)

ในรายที่เป็นโรงสีขนาดใหญ่ ก็จะมีโรงงานผลิตน้ำมันพืชมารับซื้อรำละเอียดเพื่อไปสกัดทำเป็นน้ำมันพืช ให้เราได้บริโภคอีกทีหนึ่ง (ซึ่งถ้าเรากินข้าวกล้องเสีย ก็เท่ากับกินน้ำมันรำเข้าไปด้วย ไม่ต้องไปเสียเวลาและเสียเงินในการผลิต แล้วนำกลับมาบริโภคในรูปของน้ำมันพืชอีกครั้งหนึ่ง)

ในต่างประเทศ  จะมีขนมปังชนิดหนึ่งซึ่งทำจากข้าวสาลีที่ยังไม่ได้ขัดสี ที่คนไทยเรียกกันว่า“ขนมปังโฮล
วีท”
(wholewhet bread) มีสีน้ำตาล ซึ่งมีคุณค่าอาหารมากกว่าขนมปังขาว ถ้าจะพูดกันถึงเรื่องความอร่อยแล้ว ขนมปังโฮลวีทจะหยาบและแข็งในความรู้สึกของผู้ที่ไม่เคยกิน และถ้าจะกินเพื่ออร่อยแล้ว หลายคนคงไม่ชอบแน่ในระยะแรก เพราะเคยชินกับรสชาติเก่า ๆ ส่วนที่ถูกขัดออกไปของข้าวสาลีเรียกว่า วีทเจิร์ม (wheat germ) หรือบางทีก็เรียกว่าจมูกข้าวสาลี ซึ่งพ่อค้านำกลับมาขายผู้บริโภคอีกครั้งในรูปของอาหารเสริมที่มีราคาค่อนข้างแพง

สำหรับคนไทยคงจะเป็นเรื่องฮือฮาแน่ ๆ ถ้าจะบอกว่าให้กินรำกันสำหรับคนที่ไม่นิยมกินข้าวกล้องและถ้าเช่นนั้นเราก็กินข้าวกล้องเสียเลยไม่ดีกว่าหรือ

ทำไมจึงไม่นิยมกินข้าวกล้อง

คำตอบก็คงจะมีมากมาย

ไม่อร่อย”

“หุงยากจังเลย”

“แข็งเกินไป”

“หาซื้อยาก”

ทั้งหมดนี้จะเป็นเหตุผลหรือข้ออ้างก็ตามที ยังไม่สายเกินไปสำหรับการเริ่มต้นฝึกนิสัยการกินเสียใหม่
ความอร่อยขึ้นอยู่กับความเคยชิน ถ้าลองพยายามดูสักระยะหนึ่งจะกลับมีความรู้สึกว่าข้าวกล้องนั้นจะ
อร่อยกว่าข้าวขาวเสียอีก ในกรณีที่หุงยากและข้าวกล้องแข็งเกินไปนั้น ครั้งแรกก็อาจจะลองหุงผสมกับข้าวขาวก่อนและค่อยๆ เปลี่ยนมาหุงเป็นข้าวกล้องล้วน ๆ

หุงข้าวเพื่อสงวนคุณค่า

เก็บกากและสิ่งสกปรกออกก่อนซาวข้าว
ซาวข้าวเพียงครั้งเดียว
การซาวข้าวควรใช้น้ำน้อย ๆ ซาวเบาๆ และเร็ว ๆ เพราะวิตามินบีละลายน้ำได้
การหุงต้องหุงแบบไม่เช็ดน้ำหรือเทน้ำทิ้ง และควรจะใส่น้ำให้มากกว่าการหุงข้าวขาวธรรมดา จึงจะไม่แข็งกระด้างหรือจะหุงเป็นข้าวต้มก็ยิ่งอร่อยมาก

หาซื้อได้ที่ไหน

 

หลายคนบ่นว่าข้าวกล้องหาซื้อยาก เพราะประชาชนยังไม่นิยมกินกัน ร้านขายข้าวสารไม่ค่อยสั่งมาขาย แต่ถ้ามีคนนิยมกินมากขึ้น แน่นอนร้านค้าต่างๆ ก็จะรีบหามาขายกันมากขึ้น เพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภค ปัจจุบันพอจะหาซื้อได้จาก

1.ร้านสหกรณ์ และซุปเปอร์มาเก็ตบางแห่ง

2.ร้านขายข้าวสารใกล้ ๆ สถานีตำรวจพลับพลาไชย

3.ตลาดกลางเกษตรกร ย่านการค้าพหลโยธิน

4.สั่งพิเศษจากร้านขายข้าวหรือโรงสีข้าว

สุขภาพแข็งแรงและยืนยาว เป็นสุดยอดปรารถนาของทุกคน แต่ความหวังและความฝันนี้จะเป็นจริงได้
ก็ต่อเมื่อเราได้สร้างนิสัยที่ดีในการกินให้กับตนเอง กินในสิ่งที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย มิใช่กินในสิ่งที่ใจอยากจะกินเพียงเพื่อความอร่อย การกินถูกหลัก มีประโยชน์ จะทำให้สุขภาพดี เมื่อสุขภาพกายดี สุขภาพจิตและสติปัญญาก็จะดีตามไปด้วย เมื่อเราไม่เจ็บป่วย ก็ไม่ต้องเสียเงิน เสียเวลาไปหาหมด

“อโรคยา ปรมา ลาภา” ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ

ก่อนจากฝากสักนิด

ข้าวกล้องจะสีจากข้าวพันธุ์อะไรก็ได้ มีชื่อเรียกต่าง ๆกัน แล้วแต่พันธุ์ข้าว แต่หลักใหญ่ที่ควรจำคือ ควร
กินข้าวที่มีจมูกข้าว (เอ็มบริโอ) ติดอยู่และรำข้าวไม่ได้ถูกขัดสีทิ้งมากนัก วิธีสังเกตง่ายๆ ดังนี้คือ

1.เมล็ดข้าวกล้องที่ดีเป็นรูปยาวรีไม่มีรอยแหว่ง แสดงว่า จมูกข้าว (เอ็มบริโอ) ซึ่งเป็นส่วนที่มีประโยชน์มากไม่ได้ถูกขัดสีทิ้งไป

2.เมล็ดข้าวมีสีน้ำตาลหรือสีแดงติดอยู่มากน้อยแล้วแต่พันธุ์ของข้าวเพราะยังไม่ได้ถูกขัดสีจนขาว

ฟังเขาว่าเรื่องข้าวกล้อง




คุณสุวรรณ พรประสิทธิ์ อายุ 35 ปี
จ.สิงห์บุรี อาชีพค้าขาย
(รับซื้อขาว)




“เริ่มกินข้าวกล้องมาเดือนกว่าๆ สาเหตุที่กินเพราะคุณหมอแนะนำ คือว่าตัวดิฉันเองเป็นเหน็บชามาหลายปี ปวดหลัง ปวดข้อ ปวดกระดูก แต่ไม่เคยรักษา”

ที่กินมานี่เห็นผลหรือยัง
“อันนี้พูดยากเพราะเพิ่งเริ่มกินแต่ในความรู้สึกก็ว่าดีกว่าข้าวขาวเพราะข้าวกล้องมีรสมัน หวาน”

ซื้อที่ไหนค่ะ
“เวลาไปที่โรงสีก็จะไปขอซื้อเขาตอนที่สีออกมาเป็นข้าวกล้อง เพราะว่าโรงสีทั่วไปไม่ได้สีขาย นอกจากจะมีคนมาสั่ง หรือเราไปขอซื้อ ก่อนที่เขาจะสีออกมาเป็นข้าวขาว”




คุณรัชนิ สิทธิพันธุ์ อายุ 30 ปี
อาชีพรับราชการ
สำนักงานสาธารณสุข
จังหวัดสิงห์บุรี



“เริ่มกินข้าวกล้องมาประมาณ 2 ปีแล้ว”

มีเหตุผลอะไรคะ
“เพราะรู้ว่ามีประโยชน์ กินแล้วหายปวดหลังหายเหนื่อย หายเพลีย เมื่อก่อนนี้รู้สึกเพลีย ๆ เป็นประจำ”

รู้ว่ามีประโยชน์แล้วทำไม่เพิ่งมากินล่ะค่ะ
“หาซื้อยากค่ะ ไม่มีขายทั่วไปนอกจากรู้จักกับโรงสีแล้วสั่งเขาพิเศษ พูดถึงความอร่อย ข้าวขาวอร่อย
กว่า แต่ข้าวกล้องมีประโยชน์มาก อันนี้อยู่ที่ความเคยชินและการฝึก กินไปทุกวันก็ชินไปเอง กลับรู้สึกว่าอร่อยกว่าข้าวขาวด้วยซ้ำ ”

 



คุณยายก้าน เกิดเหมาะ
อายุ 60 ปี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี
อาชีพทำนา

 

 



คุณยายทำนาได้ข้าวเหลือขายหรือเปล่าค่ะ

“ทำกินเอง เหลือก็ขายบ้างแต่ไม่มาก”

คุณยายเคยกินข้าวกล้องหรือเปล่าค่ะ

“ไม่เคยหรอก”

ข้าวซ้อมมือน่ะคะ ที่ตำกินเอง

“อ๋อ !...เดี๋ยวนี้ไม่ได้กินแล้ว ไม่มีเวลาตำหรอกหนู เพราะต้องไปทำมาหากินอย่างอื่น ปลูกผัก หาปลา ฯลฯ สมัยก่อนว่าง ๆ ก็ตำข้าวกินเอง นี่มาสีข้าวก็ยังไม่ได้รดน้ำผักเลย ”

ว่าแล้วคุณยายก็ขอตัวไปดูข้าวที่สีว่าเสร็จหรือยัง (นี่ก็เป็นเพราะเทคโนโลยี และวิธีชีวิตสมัยใหม่ ทำให้ค่านิยมและวัฒนธรรมที่ดีต้องเปลี่ยนไปด้วยตามกาลเวลา แม้แต่การกิน การอยู่)

ข้าวกล้องมีอะไรดีกว่าข้าวขาว
1.ข้าวกล้องมีวิตามินบีหนึ่ง มากกว่าข้าวขาวประมาณ 4 เท่า ถ้ากินเป็นประจำจะป้องกันโรคเหน็บชา (Beri-beri)

2.วิตามินบีสองมีมากจะป้องกันโรคปากนกกระจอก(Angular Stomatitis)

3.วิตามินบีรวม มีมากกว่าจะป้องกันและบรรเทาอาการอ่อนเพลีย และขาไม่มีแรงอาการปวดแสบและเสียวในขา ปวดน่อง ปวดกล้ามเนื้อ ลิ้นแตกหรือมีแผล ริมฝีปากเจ็บหรือมีแผล โรคผิวหนังบางชนิด โรคปลายประสาทอักเสบ และโรคเกี่ยวกับระบบประสาทบางชนิด

4.วิตามินบีรวม ยังบำรุงสมอง ทำให้เรียนเก่งขึ้น และเจริญอาหาร

5.ธาตุเหล็ก มีมากเป็น 2 เท่า ช่วยป้องกันโลหิตจาง

6.ฟอสฟอรัส มีมากกว่า ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน

7.แคลเซียม มีมากกว่าจะทำให้กระดูกแข็งแรง ช่วยป้องกันไม่ให้เป็นตะคริว

8.ไขมัน มีมากกว่า ให้พลังงานแก่ร่างกาย

9.กากอาหาร มีมากกว่าจะช่วยป้องกันท้องผูกและมะเร็งในลำไส้ใหญ่

10.เกลือแร่และวิตามินต่าง ๆ (Trace elements) ในข้าวกล้องมีรวมกัน 20 กว่าชนิด มีหน้าที่ทำให้การทำงานของส่วนต่าง ๆ ของร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและเสริมสร้างร่างกายให้สมบูรณ์

11.โปรตีน มีมากกว่า ช่วยเสริมสร้างส่วนที่สึกหรอ

12.แป้ง (คาร์โบไฮเดรท) มีน้อยกว่าข้าวขาว ช่วยลดความอ้วน ส่วนคนที่ผอมก็จะสมบูรณ์ขึ้นเนื่องจากได้รับสารอาหารต่าง ๆที่มีประโยชน์เพิ่มขึ้น

13.ประหยัดเงินทอง เพราะเจ็บป่วยน้อยกว่า ข้าวกล้องจะมีราคาถูกกว่า เพราะต้นทุนในการผลิตต่ำกว่า

14.มีผลทำให้สุขภาพจิตและสติปัญญาดีขึ้น เพราะสุขภาพกายดีขึ้น

 

จะหัดกินข้าวกล้องอย่างไร
1.ความอร่อย ขึ้นอยู่กับนิสัยความเคยชิน ถ้าคุณลองพยายามกินดูสัก 3-6 เดือนคุณอาจจะรู้สึกว่าข้าวกล้องนั้นอร่อยกว่าข้าวขาว

2.ซื้อข้าวกล้องที่สีหลายครั้งก็ได้ แต่ต้องเป็นชนิดที่ยังไม่สีจนขาวเพราะว่าถ้าเป็นข้าวกล้องที่ยังไม่ขัดสีรำออกจริงๆ คุณอาจจะไม่ชินและอาจจะรู้สึกว่า “หยาบ” ข้าวกล้องแบ่งออกได้หลายระดับคือ สีรำออกมากน้อยไม่เท่ากัน ถ้าสีรำออกบ้างแต่ไม่หมดทีเดียวก็จะนุ่มกว่า (เช่น ข้าวมันปูและข้าวอนามัยสวนจิตรลดา และข้าวกล้องพันธุ์ข้าวหอมมะลิ) แม้วิตามินจะน้อยลงบ้าง แต่ก็อร่อยและยังดีกว่าข้าวขาว เหมาะสำหรับคนที่จะเริ่มกินข้าวกล้องจะลองกินชนิดนี้ก่อนก็ได้แล้วค่อยๆเปลี่ยนเป็นข้าวกล้องชนิดที่ไม่ได้ขัดสีรำออกเลย

3.ตอนแรกหัดกินอาทิตย์ละ 3 หรือ 4 ครั้ง แล้วก็เพิ่มเป็นวันละมื้อและอีกสองมื้อกินข้าวขาว และต่อไปเพิ่มเป็นข้าวกล้องวันละสองมื้อ และค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

4.ผสมข้าวขาวกับข้าวกล้องก็ได้ อย่างน้อยมีข้าวที่มีคุณภาพบ้างก็ดีกว่า จะผสมครึ่งต่อครึ่งหรือกี่ส่วนก็ได้ แล้วคุณก็จะค่อย ๆ คุ้นกับรสชาติของข้าวกล้องเอง

5.ซื้อรำละเอียดจากโรงสีมาหุงกับข้าวก็ได้

6.ถ้าคุณลองอย่างไรก็ยังกินไม่ได้ อย่างน้อยก็สอนให้ลูก ๆกิน เพราะไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก (ถ้าเป็นเด็กทารกให้แป้งข้าวกล้องเป็นอาหารเสริมเมื่ออายุ 4-6 เดือนขึ้นไป อย่าให้ลูกของคุณติดนิสัยกินข้าวขาวตั้งแต่เริ่มหัดกินและอย่าลืมว่า ข้าวกล้องเป็นอาหารเสริมในเด็กทารก ส่วนนมเป็นอาหารหลัก) 

คำอธิบาย

ข้าวเปลือก (PADDY RICE) - ข้าวที่ยังไม่สี ยังมีแกลบ (เปลือก)อยู่

ข้าวกล้อง (BROW RICE) - ข้าวที่สีเอาแกลบ (เปลือก) ออก แต่ไม่ได้ขัดรำออก ยังมีเยื่อ
อยู่ ซึ่งเป็นส่วนที่มีประโยชน์มาก (ข้าวกล้องก็คือข้าวที่ไม่ได้ขัดสีจนขาวนั่นเอง)

ข้าวขาว (POLISHED RICE) - ข้าวที่ขัดสีเอารำออกจนมีสีขาว

รำข้าว (RICE BRAN) - ส่วนที่สีออกมาจากเมล็ดข้าวกล้องเป็นส่วนที่มีประโยชน์มาก

เอ็มบริโอ (EMBRYO) - จมูกข้าว คือ ส่วนที่จะเจริญเป็นยอดและรากเป็นส่วนที่มีประโยชน์มาก (ในข้าวขาว เอ็มบริโอ จะหลุดออกเป็นรอยแหว่งเพราะการขัดสีและจะปนอยู่ในรำข้าว)

เอ็นโดสเปิร์ม - ส่วนประกอบที่มากที่สุด 80% ของเมล็ดข้าวมีแต่คาร์โบไฮเดรท (แป้ง) ข้าวขาว คือ ส่วนที่เป็นเอ็นโดสเปิร์มซึ่งเป็นส่วนที่ไม่ค่อยมีวิตามินและเกลือแร่

ข้าวซ้อมมือ - ข้าวกล้อง (แต่ปัจจุบันใช้เครื่องสีแทน)

ข้าวแดง - ข้าวกล้อง (นักโทษน่าจะขอบคุณทางการที่จัดหาข้าวแดงหรือข้าวที่มีคุณภาพให้เขากิน)

ข้าวอนามัยสวนจิตรลดาและข้าวมันปู - เท่าที่สังเกต เป็นข้าวกล้องที่ขัดสีรำออกบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีคุณภาพดีกว่าข้าวขาว (ข้าวมันปูเป็นพันธุ์สีแดง)(โปรดดูวิธีสังเกตข้าวกล้องที่ดี)

แป้งข้าวกล้อง - ทำจากข้าวกล้อง เหมาะสำหรับใช้เป็นอาหารเสริมแก่ทารกเมื่อมีอายุตั้งแต่ 4-6 เดือนขึ้นไป

ข้าวกระยาทิพย์หริอข้าววิตามิน - ข้าวขาวที่เคลือบด้วย 1.วิตามินบีหนึ่ง 2.วิตามินบีสอง 3.ไนอาซิน 4.เหล็ก เพื่อให้มีคุณค่าทางอาหารสูงขึ้นกว่าข้าวขาว แต่อย่าลืมว่าตอนที่เราขัดสีข้าวจนขาวนั้น เราเสียวิตามินและสารอาหารต่าง ๆ ไปถึง 20 กว่าชนิด แต่เราเสริมได้เพียง 4 ชนิดเท่านั้น และการซื้อข้าวเสริมวิตามินเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น

ข้าวอนามัย -  บางครั้งคนขายเรียกข้าวกล้องว่าข้าวอนามัยเนื่องจากฟังแล้วชวนซื้อและชวนกิน คำว่า “อนามัย” จึงใช้กันแพร่หลายกับอาหาร อนามัยจริงหรือไม่ต้องพิจารณากันเอง (โปรดดูวิธีสังเกตข้าว
กล้องที่ดี)

 

 

 

 

ข้อมูลสื่อ

62-006
นิตยสารหมอชาวบ้าน 62
มิถุนายน 2527
เรื่องน่ารู้
นพ.โชติช่วง ชุตินธร