• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ยารักษาสิว


ถ้าคุณเป็นสิว อย่ากังวลใจหรืออย่าเสียอกเสียใจไปเลย เพราะความกังวลจะยิ่งทำให้เป็นมากขึ้น เรายังพอมีทางรักษาให้หายได้ ลองอ่านต่อดูซิครับ


ยารักษาสิวที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ ใช้สำหรับสิวที่เกิดตามธรรมชาติ ซึ่งมักเกิดในคนที่เริ่มเข้าวัยหนุ่มสาว ยารักษาสิวแบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ ชนิดใช้ทาภายนอก และชนิดรับประทานในระยะแรกเริ่ม ถ้ายังเป็นน้อยๆ หรือปานกลาง ควรใช้ชนิดทาภายนอก ส่วนชนิดรับประทาน เราจะใช้เมื่อมีอาการรุนแรง


ยาที่ใช้ภายนอก
ก่อนใช้ยา ควรล้างหน้าอย่างนุ่มนวลด้วยน้ำและสบู่ แล้วเช็ดหน้าให้แห้ง อีก 2-3 นาทีต่อมาจึงค่อยทายา วิธีทา ควรทาบางๆ เพื่อป้องกันการระคายเคือง ถ้ามีการระคายเคืองเกิดขึ้น ให้ลดปริมาณหรือความเข้มข้นของยาลง ข้อสำคัญคือ อย่าพยายามบีบ เค้น หรือแคะเอาหัวสิวออกมา เพราะจะทำให้มันจมลึกลงไปในรูขุมขน เอาออกยากยิ่งขึ้น ทางที่ดีควรปล่อยให้ตัวยาค่อยๆ ซึมแทรกเข้าไปกำจัดหัวสิวออกมาเอง ตัวยาที่ใช้ทารักษาสิวที่รวบรวมได้ มีดังต่อไปนี้


1.กำมะถันหรือซัลเฟอร์ (Sulphur)
ตัวยานี้จะค่อยๆ ละลายลอกเอาผิวหนังชั้นนอกออกไป และมีฤทธิ์ทำลายเชื้ออย่างอ่อนๆ ด้วย ความเข้มข้นที่ใช้ 2-3% มีทั้งชนิดโลชั่นและชนิดครีม เช่น ไวท์โลชั่น (White Lotion) แต่มีเฉพาะในโรงพยาบาลเท่านั้น เพราะต้องเตรียมขึ้นมา แล้วใช้ภายใน 7 วัน ส่วนที่ทำออกมขายทั่วไป มีหลายยี่ห้อ เช่น เคลียราซิล (Clearasil), ฟอสตริล (Fostril) เป็นต้น ใช้ทาวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน


2.เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide)
ส่วนมากทำเป็นโลชั่น ความเข้มข้นที่ใช้ 5-10% ที่ทำอออกมาขายมีชื่อการค้า เช่น เบนซาเจล (Benzagel) มีทั้งชนิด 5% และ 10% โทเปกซ์ (Topex) และ อ๊อกซี่ (Oxy) 10% ยาตัวนี้อาจทำให้ผิวหนังแห้ง และเกิดการระคายเคือง จึงควรเริ่มต้นใช้ด้วยความระมัดระวัง โดยใช้ยาเพียงเล็กน้อย ทาบางๆ บริเวณที่เป็นสิว ใช้ทาวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน


3.กรดไวตามิน เอ (Retinoic acid หรือ Tretinoin)
ทำเป็นครีม เริ่มต้นควรใช้ความเข้มข้น 0.05% ถ้าไม่ได้ผล ค่อยใช้ความเข้มข้น 1% ชื่อการค้า เช่น ยูไดนา (Eudyna), แอรอล (Airol) กรดไวตามิน เอ อาจทำให้เกิดระคายเคือง แต่ไม่รุนแรงนัก ข้อควรระวังคือ ยานี้อาจทำให้ผิวหนังเกิดแพ้แสงแดดได้ง่ายขึ้น จึงไม่ควรถูกแสงแดดจัดๆ ในระหว่างการใช้ยา ใช้วันละครั้งก่อนนอน

ทั้งเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์และกรดไวตามิน เอ ใช้กำจักสิวเสี้ยนได้ผลดี แต่เยนโซอิลเปอร์ออกไซด์ใช้กำจัดตุ่มและตุ่มหนองได้ผลมากกว่า


4.ตัวยาอื่นๆ
นอกจากตัวยาที่กล่าวมาแล้ว ในบางตำรับอาจใช้ยาพวกสเตียรอยด์ผสมกับยาปฏิชีวนะบางอย่าง ยาที่มีส่วนผสมนี้ ควรใช้เฉพาะในรายที่มีการอักเสบรุนแรงเท่านั้น และไม่ควรใช้ติดต่อกันนานๆ เพราะมีอันตรายมาก ที่ทำออกมาขายมี แอคติแนค (Actinac), นีโอ-เมดรอล (Neo-medrol)

 


ยาที่ใช้รับประทาน
ยารักษาสิวชนิดรับประทาน เริ่มใช้ต่อเมื่อใช้ยาทาภายนอกมาระยะหนึ่ง (ประมาณ 3 เดือน) แล้วอาการไม่ดีขึ้นหรือใช้ในรายที่เป็นอย่างรุนแรง

ยาที่ควรเลือกใช้เป็นตัวแรก คือ เตตร้าซัยคลีน (tetracycline) 250 มก. กินครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารเช้า-กลางวัน- เย็น และก่อนนอน ประมาณ 5-7 วัน หลังจากนั้นอาจกินเพียงวันละ 2 ครั้งหลังอาหารเช้าและเย็น กินเช่นนี้ติดต่อกันไปทุกวัน จนกว่าอาการจะดีขึ้น
ถ้าใช้เตตร้าซัยคลีนแล้วไม่ได้ผลหรือในคนที่แพ้ยานี้ ให้เปลี่ยนไปใช้ อีรีโทรมัยซิน (Erythromycin) 250 มก. โดยใช้ขนาดของยาและวิธีกินเช่นเดียวกัน

ข้อควรระวัง สำหรับยา เตตร้าซัยคลีน ก่อนใช้ควรลอกแคปซูลออกดูทุกครั้ง ถ้าเป็นสีเหลือง จึงใช้ ถ้าเป็นสีน้ำตาลอย่าใช้เป็นอันขาด, ห้ามกินพร้อมกับนม ยาลดกรด และยาบำรุงโลหิต, ห้ามใช้กับคนท้องและเด็ก, ห้ามใช้กับคนที่เป็นโรคตับและโรคไตรุนแรง

ถึงแม้ว่าเราจะมียามากมายหลายอย่างให้เลือกใช้ แต่การรักษาจะได้ผลดีหรือไม่นั้น ยังขึ้นกับปัจจัยอีกหลายอย่าง ที่สำคัญคือความเคร่งเครียดและอารมณ์ อย่าหมกมุ่น กังวลใจมากเกินไป จิตใจที่สดใสร่าเริงอยู่เสมอ จะมีส่วนช่วยในการรักษาได้มาก และที่สำคัญอีกอย่างก็คือ ถ้าจะเอามือไปถูกหน้า จะต้องล้างมือด้วยน้ำและสบู่ทุกครั้งให้สะอาดเสียก่อน


 

ข้อมูลสื่อ

32-006
นิตยสารหมอชาวบ้าน 32
ธันวาคม 2524
ยาน่าใช้
ภก.เกียรติศักดิ์ พลยะเดช