• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ยาผสมภัยพิษที่คิดไม่ถึง


ขณะนี้ท่านคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า ยาแผนโบราณ ยาสมุนไพร กำลังเป็นที่สนใจของประชาชนทั่วไปอย่างกว้างขวาง รวมทั้งแพทย์ เภสัชกร และนักวิทยาศาสตร์ ก็เริ่มตื่นตัวหันมาทดลองค้นคว้าเกี่ยวกับยาสมุนไพรมากขึ้น เนื่องจากพบว่ามีตัวยาบางชนิดสามารถรักษาโรคได้ผลดีเกือบเท่ายาแผนปัจจุบัน จึงพยายามศึกษาค้นคว้าทดลองเพื่อที่จะได้นำมาใช้เป็นประโยชน์โดยไม่ต้องอาศัยยาจากต่างประเทศเสียทุกชนิด พร้อมกับมีการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรมากขึ้นและกว้างขวางยิ่งขึ้น ทำให้ประชาชนรู้จักและเริ่มใช้ยาแผนโบราณกันมากขึ้นกว่าเดิม โดยที่ไม่ได้คาดคิดว่าจะมีนักฉวยโอกาสนำเอายาแผนปัจจุบันชนิดที่เป็นอันตรายผสมเข้าไปด้วย โดยหวังผลเฉพาะหน้าที่ผู้นั้นคิดเองว่าดีโดยไม่มีความรู้ว่าจะเกิดอันตรายต่อผู้ใช้ได้มากมาย โดยมาผสมทำเป็นยาในรูปสมุนไพรแปรรูป เช่น ยาลูกกลอน และนำไปโฆษณาชวนเชื่อรักษาคนไข้


ก่อนที่จะเรียนท่านผู้อ่านว่ายาตัวนั้นคืออะไร มีผลร้ายต่อร่างกายและชีวิตของท่านมากมายเพียงไร จะขอยกตัวอย่างเรื่องจริงของผู้ป่วยเด็กชายไทย อายุ 6 ปี เป็นโรคหอบหืดตั้งแต่เล็ก เป็นๆ หายๆ ตลอดมา เวลาหอบก็ไปรักษาตามคลีนิค อาการก็ดีขึ้น แต่เนื่องจากโรคนี้เป็นโรคที่เกิดจากปฏิกิริยาผิดปกติของร่างกาย และเกิดจากการแพ้สารบางอย่าง เพราะฉะนั้นเมื่อค้นหาสารที่แพ้ไม่ได้ อาการก็จะไม่หายขาด เป็นๆ หายๆ ตลอดมา พ่อแม่ของเด็กก็เกิดความทุกข์ยากทรมานใจเมื่อลูกหอบแต่ละครั้ง ทำให้ต้องพยายามเสาะแสวงหาการรักษาโดยวิธีต่างๆ ที่มีคนแนะนำว่าดี ว่าจะหายขาด เพื่อลูกของตน จนกระทั่งมีเพื่อนของพ่อเด็กได้แนะนำยาโบราณชนิดหนึ่งซึ่งเคยเห็นคนอื่นท้วนสมบูรณ์ขึ้นหลายคนในระยะที่กินใหม่ๆ แต่เพื่อนคนนั้นไม่เคยติดตามผลในระยะต่อมา แม่เด็กจึงฝากคนรู้จักไปซื้อยานี้ การซื้อยานี้ผู้ขายจะขายเฉพาะคนที่รู้จัก หรือได้รับการแนะนำจากคนที่รู้จักและต้องบอกล่วงหน้า 1 วัน คือต้องบอกวันเสาร์และเปิดขายวันอาทิตย์ในระยะเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น รูปของยาเป็นลูกกลอนขายเป็นกิโล ๆละ 250 บาท เวลากินก็กินครั้งละ 1 ก้อน เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้วฟุต โดยแบ่งปั้นเป็นเม็ดเล็กๆ กินวันละ 2 เวลา เช้า-เย็น เด็กลดลงเหลือครึ่ง หรือหนึ่งในสาม หลังจากที่ผู้ป่วยเด็กนี้กินยา อาการหอบก็ดีขึ้น ไม่ค่อยหอบอีกเพราะกินยาประจำกลับกินอาหารได้มาก อ้วนท้วนขึ้นมากผิดหูผิดตา เคราะห์ดีที่ผลของยาทราบไปถึงแพทย์ที่เคยรักษาเด็กคนนี้มาก่อน แพทย์ผู้นั้นก็สามารถเดาได้ว่าเด็กได้กินยาชนิดใดไป ส่งไปกองวิเคราะห์ยา กรมวิทยาศาสตร์ทางแพทย์ เพื่อตรวจค้นยาชนิดที่สงสัยว่าปนอยู่ในยาไทยโบราณนั้น ก็พบว่ามีจริง


ยาที่คนขายได้นำไปผสมในยาไทยโบราณนี้ เรียกว่า เพร็ดนิโซโลน (Prednisolone) เป็นยาในกลุ่มสเตียรอยด์ จัดว่าเป็นยาที่มีฤทธิ์กว้างขวางมาก แต่จะได้ผลดีต่อเมื่อรู้คุณและโทษของยาและใช้ให้ถูกวิธี เพราะร้ายจากยานี้มีมากมายนักและผลร้ายที่เกิดขึ้นสามารถสร้างความทุกข์ทรมานแก่ผู้ป่วยมาก จนอาจถึงชีวิตได้ มีผู้นำไปผสมในยารักษาโรคหอบหืดดังกล่าว รวมทั้งยาบำรุงให้อ้วน ยาแก้ปวดเมื่อย ซึ่งมักจะเห็นผลทันตา แต่ทว่าเพียงระยะแรกเท่านั้น


เมื่อกินยานี้ต่อไปในขนาดมากและไม่จำกัดเวลา ผู้ป่วยจะมีกระดูกเปราะหักง่าย เพียงหกล้มเล็กน้อยกระดูกก็หัก บางรายกระดูกสันหลังยุบไปกดเส้นประสาทเกิดอัมพาตครึ่งท่อนตัว บางรายกระดูกต้นขาผุจนหลุดจากข้อสะโพก โดยการกระแทกหรอหกล้มเล็กน้อย ผิวหนังจะบางใสเห็นเส้นเลือดแรกๆ ก็ดูดีแต่ต่อไปผิวจะแตกง่ายปริเป็นรอย เจ็บแสบมาก ผนังเส้นเลือดเปราะ เลือดออกง่าย กล้ามเนื้อตามแขนขาลีบเล็กทำให้อ่อนแรง หกล้มง่าย กระดูกก็เปราะอยู่แล้วทำให้โอกาสที่กระดูกแขนขาหักเกิดได้มากขึ้น ส่วนลำตัว และหน้าก็จะมีไขมันมาพอกสะสม ทำให้ตัวอ้วน หน้าอ้วน แต่แขนขาลีบเล็กรูปร่างอัปลักษณ์ผิดรูปไป ถ้าคนกินยาเป็นเด็ก ก็จะทำให้ไม่โต ตัวเตี้ยแกร็น อ้วนในรูปลักษณะที่กล่าวแล้ว ถ้ามีการติดเชื้อโรคแม้เพียงเล็กน้อยก็จะทำให้เชื้อลุกลามใหญ่โตทั่วร่างกายจนเป็นอันตรายถึงตายก็มี เพราะเม็ดเลือดขาวที่ใช้ต่อสู้เชื้อโรคผิดปกติไป ไม่อาจเข้าไปต่อสู้เชื้อโรคได้


ทั้งหมดที่กล่าวนี้เป็นผลจากการใช้ยานี้โดยไม่ถูกวิธี ซึ่งโดยทั่วไปแพทย์จะใช้ยานี้เมื่อจำเป็น และใช้โดยจำกัดขนาด และระยะเวลาที่ใช้ ที่จะไม่เกิดผลร้ายดังที่กล่าวแล้ว ฤทธิ์ของยานี้ใช้ได้ผลกว้างขวาง และมีประโยชน์ในการรักษาโรคมากมาย แต่คุ้มแล้วหรือที่จะไปใช้รักษาโรคที่มียาอื่นที่ปลอดภัยกว่ามากมาย และรักษาได้เหมือนกัน ยานี้แพทย์ก็ใช้ไนการรักษาโรคหอบหืด แต่ต้องใช้โดยความระมัดระวังรู้ถึงวิธีการใช้ยาอย่างถูกต้อง และใช้เฉพาะบางรายเท่านั้น โดยอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด มิใช่ว่าใช้ได้ผลก็ใช้ไปเรื่อยๆ โดยไม่คิดว่าจะเกิดผลร้ายแรงต่อคนไข้ยิ่งกว่าโรคที่เป็นอยู่หลายร้อยเท่า


อนึ่ง สำหรับสมุนไพรที่ใช้รักษาโรคได้ผลดี ขณะนี้แพทย์เภสัชกร และนักวิทยาศาสตร์ ก็กำลังศึกษาค้นคว้าทดลองกันอย่างมาก เพื่อที่จะได้นำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อการรักษาโรคเพื่อเป็นการประหยัดเงินของประเทศได้จำนวนมหาศาล จากที่ต้องใช้ไปในการสั่งยามาจากต่างประเทศ ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนติดตามฟังผลการวิจัยเกี่ยวกับสมุนไพร ถ้าใช้ยาสมุนไพร ยาแผนโบราณ ก็ควรติดตามดูอาการของผู้ใช้ ถ้าสงสัยควรปรึกษาแพทย์ เพื่อที่จะได้ตรวจวิเคราะห์หาสารเจือปนที่อันตราย

 

ข้อมูลสื่อ

33-007
นิตยสารหมอชาวบ้าน 33
มกราคม 2525
พญ.สุธีรา จันทร์รัฐิติกาล