• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ป้องกันฟันสึก

ถาม : ชลดา/เลย

ต้นเหตุของฟันสึกคืออะไร แล้วมีวิธีป้องกันฟันสึกอย่างไรบ้างคะ

ตอบ : ทพญ.วิมลพรรณ สุระวดี

สาเหตุของฟันสึกมักเกิดจากแรงบดเคี้ยวที่ผิดปกติ เช่น ชอบกินอาหารแข็ง กัดน้ำแข็ง หรือนอนกัดฟันรุนแรง นอกจากนี้การกินอาหารที่มีฤทธิ์เป็นกรด จำพวกอาหารรสเปรี้ยว น้ำอัดลม ไวน์ และการแปรงฟันที่ผิดวิธี แปรงฟันแรงๆ หรือใช้แปรงสีฟันที่มีขนแข็งก็ทำให้เคลือบฟันสึกได้เช่นกัน

ลักษณะการสึกของฟันที่พบบ่อยๆ มี ๒ ด้านคือ ด้านบดเคี้ยว และด้านแก้มที่บริเวณคอฟัน การสึกของฟันด้านบดเคี้ยวมักจะพบในฟันกราม

ส่วนฟันสึกบริเวณคอฟันมักพบบ่อยที่ฟันกรามน้อยและฟันเขี้ยว เพราะเป็นตำแหน่งที่สัมผัสกับแปรงสีฟันได้ง่าย

โดยอาการเสียวฟันจะเริ่มขึ้นเมื่อผิวเคลือบฟันสึกหายไปจนถึงชั้นของเนื้อฟัน และหากปล่อยให้ฟันสึกต่อไปเรื่อยๆ จนถึงชั้นโพรงประสาทฟัน จะทำให้มีอาการปวดฟันตามมา

วิธีการป้องกันฟันสึกที่ดีที่สุด คือพยายามลดความถี่และปริมาณการกินของขบเคี้ยวที่มีผลต่อการสึกของฟัน  รวมถึงพยายามฝึกแปรงฟันให้ถูกวิธี โดยใช้ขนแปรงอ่อนนุ่ม เอียงแปรงสีฟันประมาณ ๔๕ องศากับตัวฟัน แล้วกดแปรงเบาๆ ลงที่แนวเหงือกโดยวิธีขยับ-ปัด ฟันบนปัดลงล่าง ฟันล่างปัดขึ้นบน ทำซี่ละ ๘-๑๐ ครั้ง ระวังการแปรงฟันตามขวางตัวฟันแรงๆ เพราะจะทำลายผิวเคลือบฟันและอาจทำให้เหงือกเป็นแผลได้

การแก้ไขกรณีที่ฟันสึกไม่มากและมีอาการเสียวฟัน แนะนำให้ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของสารลดการเสียวฟัน ซึ่งจะระงับอาการได้เป็นครั้งคราว เมื่อฟันสึกลึกขึ้นอาจต้องทำการอุดหรือครอบฟัน แต่หากการสึกลึกถึงชั้นของโพรงประสาทฟัน ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการรักษาคลองรากฟัน เพื่อระงับอาการปวดก่อนการบูรณะฟันต่อไป

สำหรับการป้องกันไม่ให้เกิดการสึกกร่อนจนลุกลามมาถึงการเสียวฟันเป็นวิธีที่ดีที่สุด และควรไปพบทันตแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพเหงือกและฟันทุก ๖ เดือน หลังการกินผลไม้ หรืออาหารและเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์เป็นกรด ควรบ้วนปากทันที แล้วรอ ๓๐ นาที ถึง ๑ ชั่วโมงก่อนแปรงฟัน โดยเลือกแปรงสีฟันที่มีขนแปรงอ่อนนุ่ม จะช่วยลดการสึกกร่อนของฟันได้