• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

เป็นสิว เพราะเหงื่อออกมาก

- วันทนา/นครราชสีมา : ผู้ถาม
หนูอายุ 15 ปี ปัญหาของหนู คือ หนูเป็นคนที่มีผิวหน้ามัน เหงื่อออกมาก และมีจุดด่างดำบนใบหน้า ซึ่งเกิดจากการมีสิวมาก จึงอยากทราบวิธีรักษาความสะอาดผิวหน้าและวิธีรักษาผิวหน้าให้มีสุขภาพดี
 
- นพ.ประวิตร พิศาลบุตร : ผู้ตอบ
สำหรับคำถามของน้องวันทนา ลักษณะผิวหน้ามันและเหงื่อออกมาก ในวัยรุ่นน่าจะจัดเป็นลักษณะปกติ คงไม่ต้องกังวลมาก อาจล้างหน้าด้วย สบู่อ่อนตอนเช้า-เย็น วันละ 2 ครั้ง ก็พอแล้วครับ ถ้าช่วงกลางวันหน้ามันมาก อาจล้างหน้าอีกครั้งก็ได้ หรือใช้กระดาษซับมันซับหน้าเบาๆ (อย่าเช็ด) ในช่วงเวลาที่มีใบหน้ามัน

จุดด่างดำบนใบหน้าที่เล่ามานั้น คาดว่าน่าจะเป็นสิวหัวดำ (black heads) หรืออีกทีก็เป็นภาวะที่มีเส้น ขนขนาดเล็กๆ อุดเป็นกระจุกในรูขุมขน (trichostasis spinuloginosa) ถ้าเป็นสิวเสี้ยนจาก 2 ลักษณะนี้จริง มียาทา 2 ตัวที่จะลดสิวเสี้ยนแบบนี้ได้ ตัวแรกคือ เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์(benzoyl peroxide) หรือที่เรียกย่อกันว่า บีพี (BP) มีทั้งในรูปเจล ครีม และโลชั่น ตัวยาบีพีนี้ความเข้มข้นยิ่ง สูงเพียงใดก็ยิ่งทำให้ผิวหนังแห้ง และระคายเคืองมาก ยาตัวนี้มีความเข้มข้น ตั้งแต่ร้อยละ 2.5 ร้อยละ 5 และมากถึงร้อยละ 10 ในกรณีที่ไม่เคยใช้ยามาก่อน หรือเริ่มใช้ที่ขนาดความเข้มข้นต่ำสุดคือ ร้อยละ 2.5 แรกทีเดียวอาจทาผิวหน้าทิ้งไว้ 2 ถึง 3 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า (ไม่ต้องล้างหน้าก่อนทายา) ถ้าไม่มีการระคายเคืองและผิวแห้งลอกแดง อาจค่อยๆเพิ่มเวลาและความเข้มข้นก็ได้ ควรอ่านฉลากยาและข้อควรระวังให้ เข้าใจก่อนใช้ยาด้วย
 
ยาทาอีกตัวคือ กรดวิตามินเอซึ่งเป็นยาทาที่จะออกฤทธิ์ให้เห็นผล ต่อเมื่อทายาไปช่วงหนึ่งคือ 3 ถึง 6 สัปดาห์ เหมาะสำหรับสิวอุดตัน ไม่ใช้กับสิวอักเสบเพราะสิวจะยิ่งอักเสบ มากขึ้น ยาทากรดวิตามินเอมีอยู่ 3 แบบ คือ เจล น้ำ หรือครีม ยาทาตัว นี้ทำให้ผิวหนังระคายเคือง แสบแดง แห้ง และลอกได้ ยาในรูปของเจลจะ ทำให้หน้าแห้งและลอกได้มากที่สุด ส่วนยาในรูปของครีมทำให้หน้าแห้งน้อยที่สุด การทายากลุ่มกรดวิตามินเอนั้น ให้ทาบางๆ วันละครั้งก่อนนอน ไม่ต้องล้างหน้าก่อนทา เพราะจะทำ ให้ผิวแห้งและระคายเคืองได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้น ในตอนเช้าควรทายากันแดดด้วย เพราะแสงแดดยิ่งทำให้ฤทธิ์การระคายเคืองของกรดวิตามินเอต่อผิวหนังสูงขึ้น ยากรดวิตามินเอในรูปยาทานั้นต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ ส่วนยากรดวิตามินเอชนิดกินนั้น ต้องให้แพทย์ผิวหนังเป็นผู้สั่งจ่าย เพราะยาจะทำให้ทารกในครรภ์พิการ
 
วิธีรักษาผิวหน้าและผิวพรรณของร่างกายให้มีสุขภาพดีนั้น คือการล้างหน้าด้วยสบู่อ่อน ไม่ล้างหน้า เช็ดหน้า ขัดหน้าบ่อยเกินไป ใช้ผ้าขนหนูสะอาดซับน้ำให้แห้งก็พอ ไม่ควรใช้เครื่องสำอางที่เหนียวเหนอะหนะ เพราะจะกระตุ้นให้สิวกำเริบ ต้องไม่บีบไม่แกะสิวเพราะจะทำให้เกิดแผลเป็น หลบเลี่ยงการโดนแสงแดดจัด ถ้าต้องถูกแดดจัดควรใช้ยากันแดด SPF 15 ขึ้นไป งดการสูบบุหรี่ เพราะสารนิโคตินในบุหรี่ทำให้หลอดเลือดหดตัว สารอาหารมาหล่อเลี้ยงผิวหนังน้อย ทำให้ผิวเหี่ยว แก่เร็ว งดการดื่มแอลกอฮอล์และงดยาเสพย์ติดทุกชนิด ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6 ถึง 8 ชั่วโมง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการออกกำลังกายแบบแอโรบิก เช่น การเดินเร็ว กินอาหารให้ครบหมู่ ซึ่งรวมถึงผักและผลไม้ด้วย พยายามมีอารมณ์ดี ทำจิตใจให้แจ่มใส ไม่เครียด

ไม่ควรหลงเป็นเหยื่อโฆษณาง่ายเกินไป เพราะวัยรุ่นน่าจะมีผิวสวยตามธรรมชาติอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องระวังเรื่องการดูแลรักษาสิวเท่านั้นครับ ไม่ควรใช้เครื่องสำอางหรือครีมบำรุงมากเกินไป เพราะจะกระตุ้นให้เกิดสิว และผิววัยรุ่นมักมีไขมันหล่อเลี้ยงเพียงพออยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องใช้ครีมบำรุงอีกหรอกนะครับ