• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ไซนัสอักเสบ โรคดังติดอันดับของไทย

ไซนัสอักเสบ โรคดังติดอันดับของไทย


โรคน่ารู้ฉบับนี้ เราจะว่ากันด้วยเรื่อง โรคไซนัสอักเสบ

⇒ ทำไมเรียกว่าไซนัส
ไซนัสเป็นภาษาอังกฤษ เขียนโก้ ๆ ว่า Paranasal Sinus แปลว่า โพรงอากาศรอบ ๆ จมูก แต่ละโพรงมีท่อออกมาที่รูจมูกด้วย (ดูภาพที่ 1) 

                                      
                                                                                                                

 
                                                                                                                        
⇒ ฉันเป็นไซนัสคะ ผมเป็นไซนัสครับ
คำพูดนี้พูดกันติดปาก ที่จริงไม่ถูกต้องนักเพราะ ฉันเป็นไซนัส ก็คือ ฉันเป็นโพรงจมูก ที่จริงต้องบอกว่า ผมเป็นโรคไซนัสอักเสบ

 

⇒ ไซนัสอักเสบหรือโพรงจมูกอักเสบเป็นกันมากจริงหรือ จึงได้เป็นโรคติดอันดับ
ครับ คนเป็นโรคนี้กันมาก คนไข้ขาจรที่มาหาหมอหรือคนไข้นอกที่โรงพยาบาล อย่างของโรงพยาบาลรามานี่ หนึ่งในสามหรือ 33.33 % จะต้องเป็นโรคนี้ ก็มากพอดูเชียวละ
และดูเหมือนว่า โรคนี้เป็นกันไม่เลือกหญิง เลือกชาย เด็ก ผู้ใหญ่ ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน จึงต้องระวังกันทุกคน แม้แต่เด็กเล็ก ๆ ก็เป็นโรคโพรงจมูกอักเสบได้ เด็กบางคน เป็นไซนัสอักเสบ และลามเข้าไปที่ลูกตา (ดูภาพที่ 2) 

              
               เด็กก็สามารถเป็นไซนัสอักเสบได้ รูปนี้แสดงถึงเด็กที่เป็นไซนัสอักเสบแล้ว
                ลุกลามมาที่ลูกตา      
            
⇒คนเราเป็นไซนัสยากง่ายแค่ไหน
ที่จริง การที่แต่ละคนจะมีอาการไซนัสอักเสบนั้นไม่ใช่ของง่าย ทั้งนี้เพราะว่าเนื้อเยื่อของไซนัสมันเคลื่อนไหวตลอดเวลา เมื่อมีสิ่งที่ทำให้เกิดการอักเสบ หรือเชื้อโรคเข้าไป มันจะถูกขับออกมาผ่านทางจมูกหรือลงคอ
ในวันหนึ่ง ๆ จะมีน้ำถูกขับออกมาจากไซนัส ประมาณ 475 ซีซี.

 

⇒ ทำไมจึงว่าไซนัสอักเสบเป็นแล้วทรมานนัก มันมีอาการอย่างไร
ใครที่ได้เป็นโรคนี้ จะบ่นเช้าบ่นเย็น ว่ามันทรมานจริงๆ ทรมานแค่ไหนก็สรุปได้ว่า
ถ้ามีอาการตอนระยะเฉียบพลัน คือหมายถึงเพิ่งจะเป็น จะมีอาการเจ็บปวดมากกว่าธรรมดาที่บริเวณเหนือคิ้ว ระหว่างลูกตา แก้ม จะพบว่ามีน้ำมูกลักษณะคล้ายหนองออกมามีอาการคัดจมูกมาก ปวดตุบ ๆ ตามจังหวะที่หัวใจเต้น หรือตามจังหวะชีพจร บางรายปวดกระบอกตาและพาลไปถึงท้ายทอย อันนี้ขึ้นอยู่กับบริเวณที่เป็นของไซนัสเช่น ถ้าเป็นไซนัสตรงกลาง จะปวดที่ท้ายทอย ถ้าเป็นทีแก้มจะปวดที่หัวหรือขมับ อาการพวกนี้ ถ้าก้มศีรษะจะปวดมากขึ้น เพราะทำให้เลือดคั่งมากขึ้น จะทำให้รูที่เปิดของไซนัสอุดตันมากขึ้น จึงปวดมากขึ้น บางรายมีคลื่นไส้อาเจียนด้วย ส่วนคนที่เป็นเรื้อรัง จะมีอาการเป็นครั้งคราว แต่ความเจ็บปวดจะลดลงน้อยกว่าระยะเฉียบพลัน และอาจมีน้ำมูกที่ออกมาจากไซนัสตกลงไปในท่อหายใจสู่ปอดได้ ถ้าหมอเอกซเรย์ไซนัสดูจะพบว่าไซนัสมีความผิดปกติเปลี่ยนแปลงไปมาก

 

⇒ จะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองมีอาการเป็นไซนัสอักเสบ เฉียบพลันเข้าให้แล้ว
อย่างนี้ต้องสังเกตดูว่า หลังเป็นหวัด (ประมาณ 7 วัน) แล้วจะมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นไหม คือ ปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา เสลดมาก ก็น่าจะสงสัยได้ว่า จะเป็นไซนัสอักเสบเฉียบพลัน ส่วนที่ไม่เป็นเฉียบพลันก็เป็น ๆ หาย ๆ กินยาทีก็หายไปที

 

⇒ บางคนบอกว่ากินของคาว เนื้อ นม ไข่ จะทำให้แสลงและปวดมาก เท็จจริงเป็นอย่างไร
ของแสลงนี้ตอบได้ทันทีว่าขึ้นอยู่กับคนนั้น ว่าถูกกับอาหารนั้นหรือไม่ เช่น ถ้ากินอาหารนั้นแล้วกลับเป็นมาก แสดงว่าแพ้อาหารนั้น บางคนกินแล้วไม่เป็นอะไรเลย ก็ไม่เป็นไรก็กินได้ ไม่เกี่ยวกับว่าจะเป็นมาก ปวดมากหรือไม่ กลับจะเป็นประโยชน์ต่อร่างกายเสียอีก

 

⇒ ความเย็นทำให้เป็นมากขึ้นจริงไหม
ความเย็นนี้ อาจมีส่วนจริงบ้าง เพราะ ตามปกติความเย็นนั้น ทำให้ร่างกายของเรามีความต้านทานโรคลดลง คนที่ไซนัสอักเสบจากอะไรก็ตามจึงอาจทำให้เป็นมากขึ้นได้ จึงควรงดของเย็นจัดหรือของเย็น ๆ ก่อน

 

ถ้าสงสัยว่าตัวเองจะมีอาการเป็นไซนัสอักเสบแล้วจะต้องไปหาหมอที่เก่งเฉพาะทาง หู คอ จมูก หรือหมอทั่วไป
จะไปหาหมอทั่วไปก็ได้ ไม่จำเป็นต้องไปพบหมอที่เก่งเฉพาะทาง แต่ถ้าอาการไม่หายภายใน 1-2 สัปดาห์ ควรพบหมอเฉพาะทาง

 

⇒ จะรักษาหายหรือถ้าไปหาหมอทั่วไป
โดยทั่วไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหมอที่เก่งเฉพาะทางนี้หรือหมอทั่วไป ก็จะต้องหาสาเหตุเสียก่อนว่า ไซนัสอักเสบที่กำลังเป็นนั้น มีสาเหตุเกิดจากอะไร เนื่องจากสาเหตุมีได้หลายอย่างด้วยกัน เช่น เป็นเพราะแพ้ฝุ่นละอองในอากาศ เป็นเพราะการอักเสบของเยื่อจมูกและลามเข้าไปที่ไซนัสหรือเป็นเพราะทั้งสองอย่าง หรือเป็นร่วมกับอารมณ์ หมายถึงว่า อารมณ์ของคนมีส่วนทำให้ไซนัสอักเสบเป็นได้มากขึ้น (สังเกตตอนร้องไห้จะมีน้ำมูกออกมา แสดงว่าไซนัสนั้นเป็นแหล่งรวมของอารมณ์ด้วย) การที่จะบอกว่าหายหรือไม่หายไม่ใช่อยู่ที่หมอทั่วไปหรือหมอเฉพาะโรค แต่อยู่ที่การรักษาว่าตรงสาเหตุของโรคหรือไม่

 

⇒ รักษาแล้วหายขาดหรือไม่
ถ้าเกิดการติดเชื้อส่วนใหญ่หายได้เกือบ 100% แต่ถ้าเกิดจากโรคภูมิแพ้ ตอบไม่ได้ว่าหายขาดหรือไม่ ถ้ารักษาโดยฉีดสารเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกาย อาจหายได้ 60-70%

 

⇒ รักษากันอย่างไร
ถ้ามีอาการปวด หมอจะใช้ยาแอสไพรินหรือพาราเซตามอล ครั้งละ 1-2 เม็ด
แต่มักไม่ค่อยหาย อาจต้องให้ยาเม็ด คลอร์เฟนิรามีน ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2-3 ครั้ง พร้อมกับยาลดอาการคั่งของเลือดในจมูก พวก เอฟีดรีน ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2-3 ครั้งอีกด้วย หรือถ้าติดเชื้ออาจให้ แอมพิซิลลิน โดยให้กินครั้งละ 1-2 เม็ด วันละ 4 ครั้ง นาน 7-10 วัน

 

⇒ ถ้าหมอให้กินยาแล้ว 10 วัน ไม่ดีขึ้น หมอที่เก่งเฉพาะโรคนี้จะช่วยอะไรได้บ้าง
ถ้ากินยาแล้วไม่ดีขึ้น หมออาจต้องเจาะล้างเอาหนองออก โดยใช้เข็มแทงเข้าไปดูดออก ซึ่งก็จำเป็นต้องเอ็กซ์เรย์เสียก่อนเพื่อดูว่าโพรงจมูกอากาศอักเสบมากน้อยแค่ไหน เนื้อเยื่อจมูกบวมหรือไม่ ถ้าเห็นว่ามีหนองไหลออกมา ก็จะพยายามให้หนองออกให้มากที่สุดเท่าที่จะออกมาได้

 

⇒ คุยกันว่า เวลาหมอเอาเข็มเจาะเพื่อดูดเอาหนองออกเจ็บนัก จริงหรือ
ที่จริงไม่เจ็บมาก เพราะหมอจะใช้ยาชาเข้าช่วยด้วย แต่กลับจะคุ้มเสียอีกเพราะถ้าเอาหนองออกได้ก็จะทำให้เสลดในลำคอลดลงทันที ทำให้โล่งจมูก อาการไอน้อยลง ซึ่งแสดงว่าดีขึ้น จะว่าไปตอนที่เจาะเอาหนองออกมันแลดูน่ากลัวเท่านั้นเอง ปวดฟันนั้น เจ็บปวดมากกว่าด้วยซ้ำ

 

⇒ กลัวกันว่าพอเจาะเอาหนองออกแล้ว ทำให้จมูกยุบจริงไหม
ไม่จริง เพราะการที่จมูกยุบหรือไม่ยุบขึ้นกับดั้งจมูก การเจาะดูดเอาหนองออกไม่เกี่ยวกับดั้งจมูกเพราะฉะนั้นจึงไม่ทำให้จมูกยุบ

 

⇒รู้ได้อย่างไรว่าอาการดีขึ้นหรือเริ่มทุเลาแล้ว
ส่วนใหญ่ผู้ที่มีอาการดีขึ้นนี้จะรู้สึกว่าเสมหะในคอลดลง จมูกโล่งขึ้น ไอน้อยลงแสดงว่าอาการเริ่มดีขึ้นแล้ว

 

⇒ บางคนกลัวว่าตอนที่หมอเจาะล้างไซนัสโดยใช้เข็มแทงเข้าไปในจมูกนั้น จะไปแทงทะลุเอาสมองที่อยู่ข้างหลังหรือกลัวว่าจะเป็นอันตรายอย่างอื่นอีก ที่จริงแล้วมีโอกาสเป็นไปได้เหมือนที่เขากลัวกันหรือไม่
มีโอกาสเป็นไปได้ แต่น้อยมาก เพราะกระดูกด้านข้างตรงโหนกแก้มจะแข็งมากและหมอเองก็ชำนาญพอที่จะไม่ทำให้ทะลุแน่ ๆ

 

⇒ ถ้าถึงขนาดที่ต้องเจาะล้างเอาหนองออกและเอ็กซ์เรย์ด้วยนั้นจะเสียค่าใช้จ่ายครั้งละเท่าไร
ในโรงพยาบาลของรัฐ ค่าดูดเอาหนองออกครั้งละ 30 บาทและเอ็กซ์เรย์ครั้งละประมาณ 60-80 บาท

 

⇒ โรคนี้ถ้าปล่อยไว้โดนไม่รักษา จะมีอาการอะไรแทรกซ้อนบ้าง
อาจลามไปที่ตาทำให้ตาบวมตาอักเสบได้อาจทะลุเข้าสมองได้ไอเรื้อรัง ทำให้ปอดอักเสบได้

 

⇒ เป็นกรรมพันธุ์หรือไม่
ถ้าเป็นเกี่ยวกับแพ้ (ภูมิแพ้) เกี่ยวข้องกับกรรมพันธุ์ด้วย เช่น พ่อแม่เป็น ลูกก็อาจจะเป็นได้

 

⇒ โรคนี้เคยทำให้ตายบ้างหรือไม่ เพราะอะไร
โรคนี้เคยทำให้คนตายได้ เพราะเชื้อเข้าสมองหรือกระจายไปทั่วร่างกาย

 

⇒ คนที่เป็นไซนัสอักเสบจะทำให้เป็นริดสีดวงจมูกได้หรือไม่
การที่จะทราบว่าไซนัสอักเสบนั้นเป็นสาเหตุทำให้เป็นริดสีดวงจมูกหรือไม่ ก็ต้องทราบกันเสียก่อนว่า ริดสีดวงจมูกมันคืออะไร เกิดได้อย่างไร ริดสีดวงจมูกก็คือเนื้องอก เกิดจากการอักเสบหรือจากการแพ้ก็ได้ เนื้องอกนี้จะมีลักษณะใส คล้ายองุ่นขาว คนที่เป็นริดสีดวง หรือเนื้องอก อาจทำให้ช่วงระหว่างไซนัสกับจมูกอุดตัน จนเกิดไซนัสอักเสบตามมา ซึ่งถ้าเป็นไซนัสอักเสบเรื้อรังนาน ๆ ก็อาจทำให้เกิดเนื้องอกในจมูกได้

 

⇒ มีหมอพื้นบ้านบางคน ใช้น้ำยาหยอดจมูกคนไข้ที่ไซนัสอักเสบ จากนั้นสักครู่จะมีน้ำมูกออกมามากขึ้น คนที่ถูกหยอดจะบอกว่าแสบมาก แต่ยอมรับว่าอาการดีขึ้น การกระทำเช่นนี้ถูกหรือผิด หมอพื้นบ้านใช้น้ำยาอะไรหยอด ทำไมจึงแสบมาก จะมีอันตรายหรือไม่
เท่าที่รู้มาน้ำยานี้คือกรด เป็นกรดอะไรก็ได้ เมื่อใส่แล้วจะแสบและระคายเคืองต่อเยื่อจมูกเป็นอย่างมาก ไซนัสจึงขับน้ำมูกออกมาเพื่อลดความระคายเคือง ขนจมูกจะตายไปหมด เนื้อเยื่อบางส่วนจะตาย บางส่วนที่เหลืออยู่จะกรังและเมื่อมีเชื้อโรคเข้าไปจะติดอยู่เป็นอันตรายมาก รักษาไม่หายตลอดชีวิต

การกระทำเช่นนี้มีอันตรายมากจริง ๆ การที่บอกว่าหลังจากหยอดแล้วสบายขึ้นนั้น สัก 3 เดือนต่อมา เนื้อเยื่อจมูกจะเชื่อมตัวเอง อาจติดกันเลย หายใจไม่ออก ถ้าน้ำยา (กรด) ที่หยอดนั้นบังเอิญหยดลงไปถึงข้างหลังของจมูกบริเวณหลอดคอ หลอดลม ก็อาจทำให้เป็นแผล และเมื่อแผลเชื่อมติดกัน หลอดลมจะตีบ หายใจไม่ออก อาจถึงตายได้

 

⇒ เคยมีคนเอาสมุนไพรมาขายและบอกว่า รักษาไซนัสอักเสบได้เป็นจริงหรือไม่
ดังที่รู้ตั้งแต่ตอนต้นแล้วว่า สาเหตุของไซนัสอักเสบนั้น มี 2 ลักษณะใหญ่ ๆ คือ
1) เกิดจากภูมิแพ้
2) เกิดจากการติดเชื้อ
สมุนไพรบางอย่างอาจมีสารสเตียรอยด์ ถ้าไซนัสอักเสบนั้นเกิดจากโรคภูมิแพ้ สมุนไพรนี้ก็อาจบรรเทาไปได้บ้าง แต่ไม่นานนักจะกลับเป็นอีก แต่ถ้าสาเหตุเกิดจากการติดเชื้อ อาจทำให้เป็นมากขึ้นก็ได้ ทางที่ดีควรไปพบแพทย์ดีกว่า

 

⇒ การเอ็กซ์เรย์คอมพิวเตอร์ จะช่วยทำให้การรักษาดีขึ้นจริงหรือไม่
ไม่จริง อาจเสียเงินเปล่า แถมแพงอีกด้วย เพราะเพียงเอ็กซ์เรย์ธรรมดาก็สามารถช่วยให้หมอวินิจฉัยได้แล้ว

 

⇒ บางคนแนะว่า ลองฝังเข็มดูอาจจะทำให้หายเร็วขึ้น
ไม่จริง การฝังเข็มช่วยได้แค่ลดความเจ็บปวด คงไม่ช่วยให้หายเร็วขึ้นตามที่เข้าใจ

 

⇒ คนที่เป็นโรคนี้จะช่วยป้องกันตัวเองอีกได้อย่างไร
พยายามอย่าอยู่ในที่ๆแออัด เช่น ในไนต์คลับ หรือในสถานที่ที่ชุมชนหนาแน่น โดยเฉพาะควันบุหรี่ช่วยกระตุ้นทำให้เป็นได้มากขึ้น
ห้ามว่ายน้ำ เพราะน้ำอาจเข้าไปที่ไซนัสพาเชื้อโรคเข้าไปได้
ถ้าเริ่มเป็นหวัดต้องทำให้ร่างกายอบอุ่น กินยาแอสไพริน และกินซุปหรือต้มจืด อาจช่วยทำให้หายเร็ว
ถ้าเด็กมีน้ำมูกนานเกิน 7 วันให้ระวังไว้อาจเกิดไซนัสอักเสบตามมาได้

 

⇒ สำหรับคนทั่วไปจะป้องกันไม่ให้เป็นโรคไซนัสอักเสบได้อย่างไร
ป้องกันได้โดยรักษาตัวเองอย่าให้เป็นหวัดบ่อย ให้ร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอ อย่าเข้าไปในสถานที่แอ-อัด และก็หมั่นรักษาสุขภาพร่างกายให้สมบูรณ์อยู่เสมอ