Hartmann K, et al. Outcomes of routine episitomy a systematic review. JAMA 2005;293:2141-8.
การตัดฝีเย็บขณะคลอดนับเป็นเวชปฏิบัติอย่างหนึ่งที่มีการถือปฏิบัติกันสืบต่อมานาน โดยที่ก่อนหน้านี้ยังไม่มีการพิสูจน์ด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์ว่ามีประโยชน์จริงหรือไม่. ปัจจุบันในประเทศสหรัฐอเมริการ้อยละ 30-35 ของการคลอดยังมีการตัดฝีเย็บ แต่ในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมามีแนวโน้มลดลง. การ ศึกษาหลายชิ้นพยายามเปรียบเทียบระหว่างผลของการตัดฝีเย็บเป็นประจำกับการเลือกตัดฝีเย็บเฉพาะเพียงบางราย พบว่ากลุ่มที่มีการตัดฝีเย็บเป็นประจำนั้น มีผลแทรกซ้อนคือ การฉีกขาดของหูรูดทวารหนัก หรือเร็กตัมมากกว่า, มีผลต่อการฉีกขาดมากขึ้นเมื่อคลอดครั้งต่อไป. ปัจจุบันการตัดฝีเย็บยังคงมีอยู่ซึ่งทำตามประสบการณ์และความถนัดของแพทย์/ผดุงครรภ์และยังไม่มีมติเอกฉันท์เกี่ยวกับเรื่องนี้.
การศึกษาโดย Hartman ได้ทบทวนงานวิจัยที่เข้าเกณฑ์คุณภาพที่กำหนด 26 รายงาน ผลการทบทวนงานวิจัยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2493-2547 มีงานวิจัย 7 ชิ้นที่เป็น randomized controlled trial เปรียบเทียบระหว่างกลุ่มที่มีแนวทางปฏิบัติให้ตัดฝีเย็บทุกราย กับกลุ่มที่มีการตัดเฉพาะบางราย เช่น เฉพาะรายที่ทารกขาดออกซิเจนหรือว่าถ้าไม่ตัดฝีเย็บจะมีโอกาส ฉีกขาดมาก. สำหรับตัวชี้วัดผลคือ ผลระยะสั้น ได้แก่ การฉีกขาดของฝีเย็บ และความเจ็บปวดขณะคลอด. ส่วนผลกระทบระยะยาวคือ การกลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่อยู่, การผิดรูปของฐานเชิงกรานและทำให้เกิดผลเสียต่อการมีเพศสัมพันธ์.
ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มตัดฝีเย็บทุกรายมีความรุนแรงของการฉีกขาดของฝีเย็บ และความเจ็บปวดไม่น้อยกว่ากลุ่มที่เลือกตัดเฉพาะราย. ระยะยาวก็เช่นกัน การวิจัย 16 รายงานที่มีการติดตามคุณแม่เหล่านี้ต่อไประยะยาว พบว่าการตัดฝีเย็บไม่ได้ช่วยป้องกันการเกิดผลแทรกซ้อนเรื่องกลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระ. นอกจากนี้ก็ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าการตัดฝีเย็บทำให้ลดปัญหาเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ลงได้ มีเพียงการศึกษาเดียวที่เปรียบเทียบระหว่างการตัดฝีเย็บแนวตรงกับการตัดแนวเฉียง ผลเป็นที่คาดเดาได้ว่ากลุ่มที่ตัดแนวตรงมีผลแทรกซ้อนการฉีกขาดถึงหูรูดทวารหนักมากกว่า แต่ว่ากลุ่มตัดแนวตรงนี้ แผลเย็บสวยงามกว่า และสามารถกลับไปปฏิบัติเพศสัมพันธ์ได้เร็วกว่า. นอกจากนี้ยังพบว่าในเรื่องการเจ็บปวดช่องคลอดขณะมีเพศสัมพันธ์ หรือระยะเวลาหลังคลอดที่สามารถกลับไปมีเพศสัมพันธ์ตามปกตินั้นก็ไม่แตกต่างกัน.
โดยสรุปของผลการศึกษานี้คือ ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะสรุปได้ว่าการตัดฝีเย็บขณะคลอดทุกรายได้ประโยชน์จริงชัดเจน บางรายถ้าไม่ตัดฝีเย็บ มีการฉีกขาดน้อยกว่า จึงควรเลือกตัดเฉพาะรายที่มีข้อบ่งชี้เพื่อความปลอดภัยของทารกเท่านั้น. และน่าจะถึงเวลาแล้วที่ควรจะมีการพิจารณากันอย่างจริงจังเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติและข้อบ่งชี้ของการตัดฝีเย็บว่าจำเป็นหรือไม่อย่างไร.
เอกสารอ้างอิง
1. Matsuzaki M, et al. Large scale cohort study of the relationship between serum cholesterol concentration and coronary events with low-dose simvastatin therapy in Japanese patients with hypercholesterolemia. Primary prevention cohort study in Japan Lipid Intervention. Cir J 2002;66:1087-95.
วิชัย เอกพลากร พ.บ.; Ph.D.รองศาสตราจารย์,ศูนย์เวชศาสตร์ชุมชน,คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี,มหาวิทยาลัยมหิดล
- อ่าน 4,734 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้