• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ดอกไม้มีความสำคัญกับมนุษย์อย่างไร

ดอกไม้มีความสำคัญกับมนุษย์อย่างไร

 

ทุกวันนี้เกือบจะเรียกว่าดอกไม้มีความสำคัญกับมนุษย์ไม่น้อยทีเดียว ดอกไม้เป็นสินค้าประจำวันนับแต่ชาวสวนปลูกไม้ดอก นำไปเป็นสินค้า มีแม่ค้าพ่อค้ารับไปขายประดับแจกัน ร้อยพวงมาลัย มีผู้ซื้อไปบูชาพระ อวยพรวันเกิด พิธีมงคลทุกชนิด เยี่ยมผู้ป่วย ฯลฯ นับว่าดอกไม้มีความสำคัญกับมนุษย์จริง ๆ

นอกจากนั้นดอกไม้ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับหมอโบราณอีกด้วย ที่นำมาเขียนในที่นี้ก็คือพิกัดยาชื่อว่าเกสรทั้ง 5 (ดอกไม้ห้าอย่าง)มี
1.ดอกพิกุล
2.ดอกบุนนาก
3.ดอกสารภี
4.ดอกมะลิ
5.เกสรบัวหลวง
ล้วนแต่เป็นดอกไม้ทีมีกลิ่นหอม ทุกคนจะต้องชอบดอกไม้เหล่านี้ ดอกไม้นี้ผสมยาได้หลายอย่าง เช่น แก้ไข้ แก้ตัวร้อน บำรุงหัวใจ นี่เป็นสิ่งที่คนโบราณใช้กันมาเป็นประจำ และทุกวันนี้ก็ยังนิยมใช้เป็นยากันอยู่และใช้อยู่มากเสียด้วย

ท่านผู้อ่านนึกออกไหมครับ

ถ้านึกไม่ออก ก็คงว่าผู้เขียนว่าเอาเอง ที่ว่านี้ก็คือ โรคร้อนใน ไงครับ
ทางแพทย์แผนปัจจุบันบอกว่าโรคร้อนในไม่มี แต่หมอแผนโบราณว่ามีโรคร้อนใน
อาการของร้อนในที่ว่าก็คือปากแห้งแตก ลิ้นแตก คอแห้ง กระหาย(หิวน้ำบ่อย ๆ ) ท้องผูก เป็นเพราะธาตุไฟในร่างกายมีความร้อนจัด เกี่ยวกับท้องผูก ลมจึงดันขึ้นทางลำคอ ทำให้คอแห้ง ปากแห้ง ลิ้นแตกดังกล่าว

การที่ปากแห้งแตก ลิ้นแตกในแพทย์แผนปัจจุบันอาจถือว่าเป็นโรคขาดวิตามินบี 2 แต่คนทั่ว ๆ ไปส่วนมากถ้ามีอาการดังกล่าวแล้วมักจะบอกว่าร้อนใน คำว่าขาดวิตามินนั้น มักจะไม่มีใครพูดถึง แล้วบุคคลดังกล่าวนี้ก็จะหันไปดื่มน้ำขม น้ำเก็กฮวยต่าง ๆ ที่ตั้งขายกันอยู่ทั่ว ๆ ไป หรือไปซื้อยาขมต่าง ๆ มาต้มเอาน้ำดื่มหรืออย่างเม็ดก็มี

ผู้เขียนจึงอยากจะแนะนำว่าการดื่มน้ำที่เขาต้มขายนั้นประโยชน์ที่ได้รับมันมีน้อย เพราะมีดอกไม้ไม่กี่ดอกนำมาต้มเพื่อเอากลิ่นแล้วใส่น้ำตาลทรายหวาน ๆลงไปเท่านั้น สิ่งที่ได้ก็คือ แก้กระหายน้ำเท่านั้นเอง ผมอยากจะแนะนำให้ต้มกินเอง เมื่อมีอาการร้อนในดังกล่าว เพราะสมุนไพรที่กล่าวหาได้ง่ายและยังช่วยอาการเหล่านี้ได้คือ
ใช้ดอกมะลิ ดอกพิกุล ดอกบุนนาก ดอกสารภี เกสรบัวหลวง ประมาณอย่างละ 1 กำมือ ต้มเคี่ยวด้วยน้ำพอควร เคี่ยวให้งวดไม่ต้องใส่น้ำตาลดื่มต่างน้ำบ่อย ๆ
ครับ จะช่วยร้อนในได้

สำหรับผู้ที่ชอบรสขม ก็ใส่บอระเพ็ดหั่นให้ละเอียด 1 กำมือ ต้มรวมลงไปด้วย ถ้าไม่ชอบขมก็ไม่ต้องใส่ ถ้าจะให้น้ำหนักแน่นอนก็หนักสิ่งละ 15 กรัม การทำกินเองนั้น สะอาดและได้คุณค่ามากกว่า ดีกว่าจะไปซื้อน้ำขม น้ำหวานมาดื่ม เพราะที่วางขายตัวยาไม่ได้ขนาดที่เขียนมานี่ เพราะเขาแต่งรสสีและกลิ่นไม่เป็นยาแท้จริงอันที่จริงตัวยาเหล่านี้ก็หาได้ง่าย ดอกไม้ที่มีชื่อนี้ส่วนใหญ่ก็ใช้บูชาพระ เมื่อแห้งแล้วจะนำมาเก็บไว้ นำมาต้มกินเป็นยาร้อนในก็ได้ นอกจากจะแก้ร้อนในกระหายน้ำอย่างที่ว่าไว้ข้างต้น ยังเป็นยาแก้ไข้ครั่นเนื้อครั่นตัว ให้จิตใจชื่นบานและบำรุงครรภ์อีกด้วย.
 

ข้อมูลสื่อ

43-009
นิตยสารหมอชาวบ้าน 43
พฤศจิกายน 2525
ประเสริฐ พรหมณี