• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

สิวสามัญ สิววิสามัญ

ถาม : สนั่น/พิจิตร

ผมอายุ 20 ปี เรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี 2 กังวลใจมากเกี่ยวกับเรื่องสิวบนใบหน้า ทำไมเพื่อนๆ หลายคนไม่มีสิว หรือมีก็น้อย อยากทราบว่าสิวเกิดจากอะไร ผมต้องปฏิบัติตัวอย่างไรบ้าง

 

ตอบ : นพ.ประวิตร พิศาลบุตร
สิวจัดเป็นโรคชนิดหนึ่งที่พบบ่อยที่สุด ประมาณว่าคนร้อยละ 85-100 เคยเป็นสิว  ตำแหน่งที่พบสิวมากคือที่ใบหน้า หน้าอก และหลัง

สิวที่พบทั่วไปเรียกว่า สิวสามัญ (acne vulgaris) แต่ยังมีโรคสิวที่เกิดจากสาเหตุเฉพาะและมีลักษณะแตกต่างจากโรคสิวที่พบประจำ เรียกว่า สิววิสามัญ (uncommon acne) โรคสิวแบบแปลกๆ หรือสิววิสามัญได้แก่

สิวแกะเกา (acne excoriee) บางรายบีบและแกะสิวอย่างมากจนเมื่อตรวจดูผิวหนังแล้วไม่พบทั้งสิวอักเสบและสิวอุดตัน พบแต่รอยถลอก แผลและแผลเป็น อาจเป็นอาการแสดงของความเครียด

สิวเสียดสี (acne mechanica) ซึ่งถูกกระตุ้นให้กำเริบโดยความร้อน และแรงเสียดทานต่อผิวหนัง ผู้ที่ชอบนุ่งกางเกงยีนส์คับต้องระวังเพราะทำให้เป็นสิวเสียดสีได้

สิวจากเครื่องสำอาง (acne cosmetica) เดิมพบบ่อยในสตรีวัยทำงาน แต่ปัจจุบันพบได้ในวัยรุ่น เพราะเริ่มแต่งหน้ากันตั้งแต่เด็ก และยังพบว่าผู้ชายเป็นสิวจากเครื่องสำอางมากขึ้น เพราะปัจจุบันผู้ชายก็ใช้เครื่องสำอางกันมาก เรียกว่า metrosexual man
สิวจากเครื่องสำอางมักพบเป็นตุ่มแดงเล็กๆ เป็นผื่นที่แก้ม คาง และหน้าผาก มักพบหลังใช้เครื่องสำอาง 2-3 สัปดาห์หรือหลายเดือน

สิวจากน้ำมันใส่ผม พบในผู้ที่ใช้น้ำมันหรือเจลใส่ผมที่เหนียวเหนอะหนะทำให้เกิดรูขุมขนอุดตัน พบที่บริเวณหน้าผาก ขมับ และหนังศีรษะ

สิวแมคโดนัลด์ (McDonald's acne) พบในวัยรุ่นที่ทำงานร้านอาหารจานด่วน น้ำมันจากการทอดจะทำให้เป็นสิวได้

สิวเกิดจากยา ตำแหน่งของสิวจากยาแตกต่างจากสิวสามัญ คือสิวจากยามักพบตามลำตัวมากกว่าที่จะพบบริเวณใบหน้า หลัง หน้าอก ซึ่งเป็นบริเวณที่พบสิวมากในวัยรุ่น

สิวในเด็ก คือสิวในเด็กอายุ 1-8 ปี การพบสิวในวัยเด็กเป็นเรื่องผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจากภาวะเข้าสู่วัยรุ่นเร็วเกินไปจากการเป็นโรคบางอย่าง เช่น ความผิดปกติของระบบต่อมไร้ท่อ

สิวจากเชื้อแบคทีเรียกรัมลบ มีลักษณะเป็นตุ่มหนอง และซีสต์ เป็นผลแทรกซ้อนจากการใช้ยาปฏิชีวนะเป็นเวลานาน

สิวจากเชื้อเกลื้อน ลักษณะเป็นตุ่มแดงขนาดจิ๋วคือมีเส้นผ่าศูนย์กลางเพียง 2-4  มิลลิเมตร ตามรูขุมขน อาจพบตุ่มหนองขนาดเล็กบนตุ่มแดง พบที่บริเวณหน้าอก หลังช่วงบน ต้นแขน หนังศีรษะ และคอ ไม่ค่อยพบที่ใบหน้า มักมีอาการคันร่วมด้วย

สิวหน้าแดง เป็นปื้นแดงบวม มีตุ่มแดงและตุ่มหนองเล็กๆ ร่วมกัน พบหลอดเลือดฝอยขยายตัวที่แก้ม หน้าผาก คาง และจมูก ผู้ป่วยที่เป็นมากมักมีจมูกแดงและมีตุ่มสิวที่จมูก ซึ่งเมื่อเป็นเรื้อรังจะทำให้จมูกโต เรียกภาวะนี้ว่า ไรโนฟีมา (rhinophyma)  หรืออาจเรียกว่า จมูกของ ดับบลิวซีฟิลด์ส (W.C. Fields' nose) ตามชื่อนักแสดงตลกอเมริกันที่ล่วงลับไปแล้วที่มีจมูกโตเพราะเป็นโรคนี้ 

นอกจากนั้น มีสิววิสามัญที่พบในผู้ที่มีชื่อเสียง เช่น สิวจากสารพิษ มีลักษณะเป็นซีสต์สีเหลือง และซีสต์สีเหลืองที่มีจุกเทา ส่วนใหญ่พบที่หน้า เป็นที่ทราบกันดีว่าประธานาธิบดีวิคเตอร์ ยูชเชงโก (Victor Yushchenko) ของยูเครนมีใบหน้าที่เป็นโรคสิวชนิดนี้ เพราะเคยถูกลอบวางยาพิษด้วยสารไดอ็อกซิน และมีรายงานว่าอดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน แห่งสหรัฐอเมริกาเป็นสิวหน้าแดงและสิวจมูกโต 


สำหรับการปฏิบัติตัวนั้น กรณีที่ซื้อยามาใช้เองจำเป็นต้องอ่านฉลากยาให้ละเอียด และปฏิบัติให้ถูกต้องตามคำแนะนำก็สามารถรักษาตนเองได้ แต่สิวบางชนิดจำเป็นต้องไปพบแพทย์เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง 
โดยทั่วไปถือว่าถ้าเป็นสิวแล้วควรไปพบแพทย์เมื่อ...
- ใช้ยาทาเองแล้วอาการไม่ดีขึ้น

- สิวอักเสบมาก ปวดบวมแดง หรือสิวหายแล้วมักเป็นแผลเป็น

- ผู้หญิงที่เป็นสิวที่ขนขึ้นตามใบหน้า หรือประจำเดือนผิดปกติ จะต้องรีบไปพบแพทย์

- ถ้าสิวเลวลงมาก สิวอักเสบบวมแดงมาก และมีไข้ จะต้องไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจแสดงว่ามีการอักเสบและติดเชื้ออย่างรุนแรง

- รายที่รู้สึกอายเมื่อเป็นสิว หรือรู้สึกหดหู่ เป็นคนผิวคล้ำเมื่อสิวหายแล้วทิ้งรอยดำไว้นานมาก และกรณีของสิววิสามัญตามที่กล่าวไปแล้ว จะต้องไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง