• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

เวียกรา ยามหัศจรรย์?

ในยุคนี้และ ณ วันนี้ ใครที่ไม่รู้จักยายอดฮิตนาม เวียกรา (Viagra) ซึ่งผลิตโดยบริษัทไฟเซอร์ คงจะค่อนข้างเชย หรือเป็นผู้ที่ไม่ติดตามข่าวสารกันทีเดียว เพราะตั้งแต่ยาตัวนี้ได้รับการรับรองโดยองค์การอาหารและยาแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๔๑ ที่ผ่านมาแล้ว ยอดจำหน่ายที่ประเทศสหรัฐอเมริกาก็พุ่งขึ้นอย่างมหาศาล จนแพทย์ผู้เชี่ยาญการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศชายเขียนใบสั่งยามือเป็นระวิง จนแพทย์บางท่านต้องทำตรายางไว้ประทับแทนการเขียนก็มี

จึงเป็นที่น่าสงสัยว่าทำไมปัญหาเรื่องการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศจึงเริ่มมาฮิตติดปากและเป็นข่าวกันไปทั่วโลก ในทุกๆสื่อ ทั้งๆที่ปัญหาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศชายนั้นก็มีกันมานานนักหนาแล้ว
ถ้าจะตอบคำถามนี้ให้ตรงประเด็น คงจะต้องเกริ่นไปถึงยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ใหม่ๆซึ่งต้องนั้นพลโลกมีจำนวนน้อยลง เนื่องจากเสียชีวิตไปในสงครามทั้งทางตรงและทางอ้อม ประชากรที่เหลือในขณะนั้นจึงมีการผลิตลูกออกมามากโดยไม่มีการคุมกำเนิด เพราะกลัวชาติตระกูลสูญพันธ์ ขณะนี้ประชากรเด็กซึ่งได้รับการกำเนิดมาในยุคนั้นเริ่มเข้าสู่วัยกลางคนแล้ว

ประมาณกันว่า ทุก ๘ วินาทีที่ผ่านไปจะมีประชากรวัย ๕๐ ปี เพิ่มขึ้นอีก ๑ คน ในขณะนี้ การศึกษาวิจัยของสถาบันทางการแพทย์ที่มีชื่อเสียงแห่งมหาวิทยาลัยบอสตัน แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับชายที่เริ่มสูงวัย หรือ The Massachusetts Male Aging Study ยืนยันว่า ระดับของฮอร์โมนเพศชายลดลงปีละ ๑ เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่อายุ ๔๐ ปี และเชื่อกันว่าภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศชายนั้นมีผลมาจากการลดระดับของฮอร์โมนเพศชายนี้ ซึ่งทำให้อวัยวะสืบพันธุ์และอวัยวะอื่นๆที่ควบคุมโดยฮอร์โมนเพศชายทำงานลดลง รวมทั้งสภาวะทางจิตใจและอารมณ์ที่เป็นผลมาจากระดับฮอร์โมนเพศชายลดลงด้วยเช่นกัน

มีรายงานผลเครือข่ายอินเตอร์เน็ตประมาณว่า ในขณะนี้มีผู้ชายที่ประสบปัญหาเสื่อมสมรถภาพทางเพศอย่างน้อย ๑๔๐ ล้านคน โดยค่าประมาณการนี้เชื่อว่าต่ำกว่าตัวเลขที่แท้จริงมาก เปรียบได้กับบยอดภูเขาน้ำแข็งที่โผล่พ้นน้ำมาทีเดียว เนื่องจากรายงานการศึกษาวิจัยส่วนใหญ่จะได้ค่าเฉลี่ยขององผู้ชายที่มีปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทาวเพศคือ เมื่อผู้ชายอายุย่างเข้า ๔๐ ปี มีโอกาสที่จะเกิดการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศร้อยละ ๕ และเมื่ออายุ ๖๕ ปีขึ้นไป โอกาสดังกล่าวพุ่งขึ้นไปสูงถึงร้อยละ ๒๕

ภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศชายเป็นอย่างไร
เป็นภาวะที่อวัยวะเพศของผู้ชายไม่สามารถที่จะแข็งตัวเพื่อที่จะมีเพศสัมพันธ์ได้ หรือถึงแม้ว่าจะแข็งตัวได้ก็ไม่สามารถที่จะประกอบกิจกรรมทางเพศได้จนเสร็จสิ้นกระบวนความคือไปไม่ถึงดวงดาว ถ้าจะพูดภาษาชาวบ้านคงจะหมายถึงว่า นกเขาไม่ยอมขัน หรือพอจะขันได้แต่ไม่จบเพลงนั่นเอง
ภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศชายนั้นมีผลกระทบโดยตรงต่อผู้ที่ประสบภาวะนี้ ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์และการปรับตัวเข้ากับสังคม เพราะผู้ชายส่วนหนึ่งนั้นเมื่อสมรรถภาพทางเพศลดลงหรือสูญไปย่อมรู้สึกคล้ายกับสูญเสียความเป็นชายไป ในคนกลุ่มนี้บางครั้งทำให้หน้าที่การงานและชีวิตครอบครัวล่มสลายไปก็มี หรือไม่อย่างนั้นก็อาจมีชีวิต อยู่อย่างซังกะตายไปวันๆ เพราะขาดความเชื่อมั่นในตนเอง และไม่ยอมรับความจริงที่ว่า เมื่อถึงวัยร่ายกายก็เปลี่ยนแปลง

สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศชาย
ดังได้กล่าวเกริ่นไว้ในตอนต้นแล้วว่า เมื่อผู้ชายย่างเข้าสู่วัยกลางคน ถึงแม้ว่าจะไม่มีการหยุดสร้างฮอร์โมนเพศชายเหมือนกับผู้หญิงวัยเดียวกันที่รังไข่หยุดทำการสร้างฮอร์โมนเพศหญิง แล้วเกิดภาวะหมดประจำเดือนก็ตาม แต่ลูกอัณฑะของผู้ชายจะเริ่มสร้างฮอร์โมนเพศชายลดลงตั้งแต่อายุย่างเข้า ๔๐ ปี ทำให้ระดับฮอร์โมนเพศชายลดต่ำลงกว่าที่ควรจะเป็น ถึงแม้ว่าจะยังอาจอยู่ในระดับมาตรฐานก็ตาม แต่การลดระดับต่ำลงของฮอร์โมนเพศชายนั้นย่อมส่งผลกระทบต่ออวัยวะต่างๆ ที่ควบคุมโดยฮอร์โมนเพศชายดังกล่าว ภาวะนี้เรียกว่า พาดาม : PADAM หรือ Partial Androgen Deficiency of the Aging Male ในภาวะการของการขาดฮอร์โมนเพศชายนี้ ย่อมส่งผลกระทบต่อจิตใจด้วย ทำให้เกิดอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย สมาธิสั้น อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยโดยไม่มีสาเหตุ นอนไม่หลับ ฯลฯ ผลตามมาคือเกิดความเครียด ซึ่งจะไปมีผลต่อกามารมณ์คือ ทำให้ความรู้สึกและความต้องการทางเพศลดลง และเกิดปัญหาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศตามมา

ถ้าจะจับรวมกลุ่มสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศชายชายคงจะพอสรุปเป็นสาเหตุใหญ่ได้ดังต่อไปนี้
๑. การเสื่อมของระบบหลอดเลือดและการคั่งของเลือด
อวัยวะเพศของผู้ชายจะสามารถประกอบกิจกรรมทางเพศได้จะต้องมีการคั่งของเลือดบริเวณอวัยวะเพศ โดยกระบวนการในการแข็งตัวของอวัยวะเพศชายจะเกิดขึ้นเมื่อเจ้าของมีอารมณ์และความต้องการทางเพศ ซึ่งจะไปกระตุ้นให้กล้ามเนื้อเรียบที่เป็นส่วนผนังของหลอดเลือดที่บริเวณอวัยวะเพศมีการคลายตัว หลอดเลือดจะเกิดการขยายตัวทำให้มีเลือดไปเลี้ยงบริเวณอวัยวะเพศมากขึ้น ขณะเดียวกันวาล์วที่ทำหน้าที่เปิด-ปิด ในหลอดเลือดดำ เพื่อให้เลือดไหลกลับจะปิดกั้น ไม่ให้เลือดไหลย้อนกลับจากอวัยวะเพศ จึวเกิดการคั่งของเลือดบริเวณอวัยวะเพศชาย จึงสามารถที่จะประกอบกิจกรรมทางเพศได้
เมื่ออายุมากขึ้น หลอดเลือดจะไม่ค่อยยืดหยุ่น โดยเฉพาะผู้ที่นิยมบริโภคอาหารที่มีไขมันสัตว์มาก เลสเตอรอลจะไปเกาะผนังของหลอดเลือด ทำให้เส้นผ่าศูนย์กลางของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะเพศชายลดลง ดง่ายๆว่าเกิดหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงตีบขึ้น ขณะเดียวกันวาล์วที่ทำหน้าที่ปิดกั้นเลือดไหลย้อนกลับก็อาจเสื่อมกำลังลงตามอายุที่เปลี่ยนไป จึงอาจทำให้เกิดเลือดไหลย้อนกลับได้เป็นบางส่วน เลือดจึงคั่งน้อยลง อวัยวะเพศจึงไม่สามารถที่จะมีกิจกรรมทางเพศได้ตลอดรอดฝั่ง
๒. ระบบประสาทเสื่อมลง
การที่อวัยวะเพศชายจะตอบสนองต่อการกระตุ้นจากความต้องการทางเพศนั้น จะต้องมีการส่งผ่านของคำสั่งทางระบบประสาทอัตโนมัติจึงจะสามารถปฏิบัติงานได้ แต่เมื่ออายุมากขึ้น หรือมีโรคบางชนิด เช่น เบาหวาน จะทำให้การตอบสนองต่ออารมณ์เพศลดลงได้
๓. ระบบฮอร์โมน
เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่าฮอร์โทนเพศชายหรือเทศโทสเตอโรน มีคุณสมบัติในการกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ทางเพศ ดังนั้นการที่มีการลดระดับการสร้างฮอร์โมนเพศชายลดลง ไม่ว่าจะเกิดจากวัยที่สูงขึ้น หรือเป็นผลจากความเครียดเรื้อรังที่ทำให้การกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนเพศชายลดลง ก็ย่อมทำให้อารมณ์ ความรู้สึก และความต้อกงารทางเพศลดลงเป็นเงาตามตัว
๔. ผลกระทบจากสภาพจิตใจ
ในอดีตนั้นเชื่อกันว่า ภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศชายนั้นเกิดจากภาวะทางจิตใจที่ไม่พร้อมจะมีเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นผลมาจากการที่มีภาวะเครียดเรื้อรังจากหน้าที่การงาน สภาพครอบครัว เศรษฐกิจหรือการพักผ่อนไม่พอเพียง แต่ในปัจจุบันนั้นผลจากจิตใจเป็นเพียงสาเหตุหนึ่งในหลายๆสาเหตุที่รวมกันแล้วทำให้เกิดภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศชาย
๕. สาเหตุอื่นๆ
ยังมีสาเหตุอื่นๆที่อาจทำให้เกิดการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศชายได้อีก เช่น การผ่าตัดต่อมลูกหมาก รักษาโรคต่อมลูกหมากโตหรือมะเร็งของต่อมลูกหมาก การกินยาบางชนิดที่มีผลทำให้สมรรถภาพทางเพศลดลง เช่น ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร จำพวกไซเมทิดีน หรือยาลดความดันเลือดสูงในกลุ่มของเมทิลโดพา รวมทั้งการกินยาในกลุ่มระงับประสาท คลายกังวลหรือยานอนหลับเป็นเวลานานๆ นอกจากนี้การได้รับอุบัติเหตุบริเวณกระดูกสันหลังจนเกิดการฉีกขาดของระบบประสาทก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

การรักษา
เนื่องจากปัญหาของการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศชายเป็นปัญหาที่ทำให้คุณภาพชีวิตเสื่อมลง ดังนั้นจึงได้มีวิธีการรักษาต่างๆ มากมาย เพื่อที่จะแก้ไขปัญหานี้
๑. การใช้สารเสริมพลังเพศ
สารเสริมพลังเพศ (aphrodisiac) นั้น มีการนำมาใช้ในการแก้ปัญหาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศชายมาตั้งแต่โบราณแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการใช้อวัยวะสัตว์บางส่วน แมลงวันสเปนและสมุนไพรนานาชนิด แต่ผลที่ได้รับนั้นไม่แน่นอน ไม่มีผลการรักษายืนยันทางการแพทย์และอาจเกิดภาวะข้างเคียงและอันตรายได้ ในปัจจุบันนี้ที่นิยมใช้และมีการวิจัยสนับสนุนบ้าง คือ การใช้เปลือกต้นไม้ (oryanthe Yohimbe หรือที่รู้จักกันว่า โยฮิมบีน : Yohimbine) มาให้ช่วยกระตุ้นอารมณ์เพศ
๒. การให้ฮอร์โมนเพศชายทดแทน
มีประโยชน์ในรายที่เกิดการขาดฮอร์โมนเพศชาย แล้วทำให้อารมณ์เพศน้อยลง และยังอาจมีประโยชน์ในการช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อกระดูก ป้องกันภาวะกระดูกพรุน รวมทั้งมีการวิจัยพบว่า ช่วยลดอาการเจ็บหน้าอกในคนที่ป่วยเป็นโรคหัวใจขาดหลอดเลือดไปเลี้ยง ปัจจุบันยังเป็นที่ถกเถียงกันว่า ควรจะให้มีการเสริมหรือทดแทนฮอร์โมนเพศชายในผู้ชายวัยทองเหมือนผู้หญิงหรือไม่
๓. การผ่าตัดใส่แกน (penile implant)
การผ่าตัดใส่แกนที่ทำด้วยท่อซิลิโคนฝังเข้าไปในอวัยวะเพศชายแล้วต่อกับถุงน้ำเกลือ พร้อมระบบควบคุม เป็นวิธีที่ได้ผลในรายที่รักษาโดยวิธีอื่นๆแล้วไม่ได้ผล ในเวลาที่ต้องการใช้งานเมื่อกดปุ่มที่ฝังอยู่แล้วน้ำจากถุงน้ำเกลือจะไหลเข้าไปในแกนซิลิโคนบริเวณอวัยวะเพศ ทำให้เกิดการแข็งตัว เมื่อเสร็จกิจกรรมทางเพศแล้วก็กดปล่อยให้น้ำเกลือไหลกลับเข้าถุงตามเดิม
วิธีการนี้มีข้อดีคือ สามารถใช้ได้ในทุกสาเหตุของการเกิดการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ แต่มีข้อเสียคือ ต้องโดนผ่าตัดและการใช้งานไม่ค่อยเป็นไปตามธรรมชาติ รวมทั้งค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
๔.การใช้กระบอดสูญญากาศ (vacuum pump)
เป็นการใช้แรงดูดสูญญากาศ เพื่อให้เกิดการคั่งของเลือดบริเวณอวัยวะเพศชาย ซึ่งเมื่อเลือดคั่งได้ที่แล้วก็ใช้ยางรัดโคนอวัยวะเพศไว้เพื่อป้องกันเลือดไหลย้อนหลับ เมื่อมีเพศสัมพันธ์เสร็จสิ้นไปแล้ว ก็เอายางที่รัดออก เลือก็จะไหลกลับตามปกติ ข้อเสียก็คือ ถ้าเลือดคั่งมากไปอาจเกิดการบวมช้ำของงเนื้อเยื่อบริเวณอวัยวะเพศได้
๕. การใช้ยาชนิดต่างๆ
อัลพรอสทาดิล (Alprostadil) เป็นสารพลอสตาแกลนดินที่มีคุณสมบัติทำให้กล้ามเนื้อเรียบของหลอดเลือดคลายตัว จึงเกิดการขยายตัวของหลอดเลือด เมื่อนำมาฉีดบริเวณอวัยวะเพศชายสามารถที่จะแข็งตัวและมีกิจกรรมทางเพศได้โดยไม่ต้องสนใจว่าสาเหตุของการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศเกิดจากอะไร ได้ผลร้อยละ ๗๐-๘๐ แต่มีข้อเสียคือ เวลาจะใช้ต้องฉัดยาเข้าที่อวัยวะเพศทุกครั้ง ผู้ที่มีความจำเป็นต้องใช้แต่กลัวเจ็บจึงไม่ค่อยสะดวก ต่อมาเมื่อมีการพัฒนาเป็นชนิดเม็ดยาเล็กๆ ใช้สอดผ่านปลายเปิดของท่อปัสสาวะเข้าไปก็ได้ผลเช่นกัน เพียงแต่เมื่อใช้บ่อยๆ จะเกิดการระคายเคืองท่อปัสสาวะได้ และในบางรายอวัยวะเพศอาจไม่ยอมอ่อนตัว

ซิลเดนาฟิล ซิเทรต (Sildenafil citrate) หรือที่ร็จักกันดีในนามเวียกรา (Viagra) เป็นยาที่มีคุณสมบัติขยายหลอดเลือด ค้นพบโดยบังเอิญในปี พ.ศ. ๒๕๓๕ ขณะนำมาทดลองรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือดไปเลี้ยงเพราะหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจตีบ แต่ปรากฎว่ายาดังกล่าวมีผลไปขยายหลอดเลือดในอวัยวะเพศชายได้ดีกว่า จึงหันเหนำมารักษาภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศชายในรายที่ยังคงมีอารมณ์และความต้องการทางเพศอยู่หรือถ้าจะพูดง่ายๆก็คือ ไม่ใช่ยาปลุกเซ็กซ์แต่เป็นยาที่ไปเพิ่มการตอบสนองต่อการกระตุ้นทางเพศ จึงไม่ออกฤทธิ์ถ้าไม่มีอารมณ์เพศ โดยกลไกการออกฤทธิ์ของยาตัวนี้จะไปช่วยเสริมฤทธิ์ของสารที่เรียกว่า ไนตริกออกไซด์ ซึ่งเกิดขึ้นเวลาเกิดความต้องการทางเพศ ยาเวียกราจะไปยับยั้งสารเอนไซม์ฟอสโฟไดเอสเตอเรส-๕ (Phosphodiesterase-5) ไม่ให้ไปย่อยสลายไซคลิกจีเอ็มพี (cyclic GMP) ซึ่งมีปริมาณน้อยในผู้ชายที่มีปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ดังนั้นเมื่อไซคลิกจีเอ็มพีไม่โดนย่อยสลาย จึงเสมือนมีปริมาณมากขึ้น ทำให้เกิดการขยายตัวของหลอดเลือดบริเวณอวัยวะเพศชายและสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ การกินยาตัวนี้ ถ้าจะให้ได้ผลดีจะต้องกิน ๑ ชั่วโมง ก่อนมีกิจกรรมทางเพศ และไม่ควรกินพร้อมกับอาหารที่มีไขมันเพราะจะไปรบกวนการดูดซึมของตัวยาทำให้เข้าสู่ร่างกายได้น้อยลง

การศึกษาวิจัยพบว่า ยาเวียกรามีผลทำให้อวัยวะเพศชายแข็งตัวได้สำเร็จถึงร้อยละ ๖๐-๘๐ ทีเดียว โดยความสำเร็จขึ้นอยู่กับปริมาณยาที่ใช้ในแต่ละครั้ง ค่าเฉลี่ยของการใช้ยาเวียกราในขนาด ๒๕, ๕๐ และ ๑๐๐ มิลิกรัม สามารถทำให้อวัยวะเพศชายแข็งตัวได้ ร้อยละ ๖๕, ๗๙, ๘๘ ตามลำดับ เปรียบเทียบกับยาหลอก ซึ่งให้ผลเพียงร้อยละ ๓๙ อย่างไรก็ตาม ยาดังกล่าวก็ทำให้เกิดอาการข้างเคียงจำพวกปวดศีรษะ, ร้อนวูบวาบที่ใบหน้า, ท้องอืด อาหารไม่ย่อย, ปวดกล้ามเนื้อ และในการใช้ยาปริมาณสูง อาจทำให้ตาเก็นเป็นสีฟ้าเหมือนสีเม็ดยาไปชั่วคราว

ที่สำคัญก็คือ ยาดังกล่าวนี้มีข้อห้ามใช้ร่วมกับ ยาในกลุ่มไนโตรกลีเซอรีน ซึ่งมีผลขยายหลอดเลือดหัวใจ เพราะการใช้ร่วมกันอาจทำให้ความดันเลือดต่ำมากจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ และก่อนใช้ต้องมีการตรวจร่างกายอย่างละเอียดหาสาเหตุของการที่อวัยวะเพศไม่แข็งตัวก่อน รวมทั้งผู้ที่เป็นโรคเลือดบางชนิด เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว หรือลิวคีเมีย multiple myeloma และความผิดปกติของเม็ดเลือดแดงชนิด sickle cell anemia เพราะอาจทำให้เกิดภาวะอวัยวะเพศแข็งตัวแบบไม่ยอมอ่อนได้ และในปัจจุบันยังไม่ได้มีการลองใช้ยาเวียกราร่วมกับการรักษาภาวะที่อวัยวะเพศชายไม่แข็งตัวแบบอื่นๆ จึงไม่ควรนำมาใช้ร่วมกัน นอกจากนี้ยังไม่ได้มีการทดลองใช้กับผู้หญิงอย่างเป็นทางการ ผู้หญิงจึงยังไม่ควรใช้ยาตัวนี้ในการกระตุ้นการตอบสนองทางเพศ

ในปีหน้าอาจจะมียาตัวใหม่ซึ่งออกฤทธิ์ มำให้หลอดเลือดบริเวณอวัยวะเพศชายขยายตัว แก้ปัญหาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศเพิ่มขึ้นอีก ที่มีข่าวก็คือ บริษัทโซนาเจนแห่งรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา จะออกยาที่มีชื่อว่า วาโซแมกซ์ (Vasomax) ซึ่งทางบริษัทอ้างว่า สามารถที่จะทำงานได้หลังจากกินยาไปเพียง ๑๕-๓๐ นาทีเท่านั้น ในขณะที่เวียกราต้องใช้เวลาประมาณ ๑ ชั่วโมง ขณะเดียวกันบริษัทไฟเซอร์ก็ซุ่มเงียบพัฒนายาเวียกราเป็นแบบแผ่นเจล ซึ่งเมื่อกินเข้าไปแล้วจะออกฤทธิ์ทันที และมีอาการข้างเคียงน้อยกว่า

ป้องกันดีกว่าแก้ไข
มีผู้กล่าวว่า การเตรียมตัวที่ดีนั้นมีชัยไปกว่าครึ่ง การรอให้เกิดภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศก่อนแล้วหาทางรักษานั้นนับเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง การเตีรยมตัวเข้าสู่วัยทองของชีวิตอย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยการหันมารักษาสุขภาพ กินอาหารมห้ครบทุกหมวดหมู่ งดอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ใหญ่และที่มีไขมันสัตว์ หันมากินผักผลไม้ให้มาก กินโปรตีนจากปลา ดื่มน้ำให้มาก งดสูบบุหรี่และงดดื่มแอลกอฮอลล์ อกกำกลังกายให้เหมาะสมและพอเพียงแก่วัย รวมทั้งละความเครียดจากชีวิตประจำวันบ้าง ก็จะทำให้สุขภาพในวัยทองดีขึ้น แล้วสมรรถภาพทางเพศก็จะดีขึ้นเป็นเงาตามตัว

ในท้ายที่สุดนี้ พึงระลึกเสมอว่าความเป็นชายของคนเรานั้นไม่ได้อยู่ที่สมรรถภาพทางเพศอย่างเดียว การที่คู้ครองหรือผู้หญิงเขาจะชื่นชมความเป็นชายนั้น เขาคำนึงถึงความรัก ความห่วงหาอาทร ความเข้าใจ และความผูกพันจากชายคนรักมากกว่า เพราะการที่คนเราจะครองคู่กันนานแสนนานนั้นเป็นเพราะความดีที่มีต่อกัน ไม่ใช่เพราะสมรรรถภาพทางเพศแต่เพียงอย่างเดียว

 

ข้อมูลสื่อ

231-002
นิตยสารหมอชาวบ้าน 231
กรกฎาคม 2541
บทความพิเศษ