• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

เลือด

เลือด

 


 

อาจกล่าวได้ว่า เลือดดุจเป็นพลังงานแห่งชีวิต เป็นของเหลวที่หล่อเลี้ยงให้ทุกชีวิตดำรงสภาพความเป็นอยู่อย่าง ‘สิ่งมีชีวิต’ ได้ เลือดจัดเป็นเนื้อเยื่อสัมพันธ์ชนิดหนึ่งซึ่งมีสารระหว่างเซลล์เป็นของเหลว สำหรับสีของเลือดนั้น เลือดที่อยู่ในหลอดเลือดดำ จะมีสีแดงเข้มมากกว่าเลือดที่อยู่ในหลอดเลือดแดง ส่วนรส เลือดจะมีรสเค็มคล้ายกับรสที่มีโลหะผสม

จำนวนเลือดในร่างกายคนเรามีประมาณร้อยละ 7.8 หรือ ของน้ำหนักของร่างกาย หรือประมาณ 5-6 ลิตร ในจำนวนนี้มีเม็ดเลือดประมาณร้อยละ 45 และน้ำเลือดประมาณร้อยละ 55 จะเห็นว่า เลือดประกอบด้วย 2 ส่วนที่สำคัญ แต่ในเนื้อที่จำกัดนี้ ขอกล่าวถึงเฉพาะส่วนเม็ดเลือด (blood cells) ในที่นี้ก่อน เม็ดเลือดที่มีอยู่ในร่างกายแบ่งได้เป็น 3 ชนิด คือ เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกร็ดเลือด

เม็ดเลือดแดง (red blood cell) มีลักษณะกลมแบน ทางพื้นด้านหน้ามีลักษณะเว้าเข้าหากันทั้งสองข้าง จึงทำให้มองเห็นว่ามีลักษณะบางมาก ความหนาประมาณ 2.2 ไมครอน (1 ไมครอน = 1 ในล้านของเมตร) เส้นผ่าศูนย์กลางโตประมาณ 7.5 ไมครอน เม็ดเลือดแดงประกอบด้วยสารประกอบโปรตีนชนิดหนึ่ง เรียกว่า ฮีโมโกลบิน ซึ่งมีธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบอันสำคัญที่ทำให้เกิดสีแดงขึ้น การไหลเวียนของเม็ดเลือดแดง อาจเปรียบได้กับรถเสบียงที่แวะส่งสารอาหารไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย เม็ดเลือดแดงจะเกิดและตายทุกๆ วัน เป็นจำนวนล้านๆ เซลล์ ซึ่งจะมีจำนวนคงที่เสมอ
ในคนปกติซึ่งมีสุขภาพสมบูรณ์ จะมีประมาณ 4.5-5.5 ล้านเซลล์ ต่อเลือด 1 ลูกบาศก์เซนติเมตร

เม็ดเลือดขาว (leukocytes) มีขนาดใหญ่กว่าเม็ดเลือดแดง มีนิวเคลียส แต่ไม่มีฮีโมโกลบิน ส่วนใหญ่เม็ดเลือดขาวจะสามารถเคลื่อนไหวจากที่หนึ่งไปสู่อีที่หนึ่งได้ด้วยตัวเองเสมอ หน้าที่สำคัญของเม็ดเลือดขาว คือ เป็นตัวที่ต่อต้านและทำลายเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย เม็ดเลือดขาว สามารถไปได้ทุกหนทุกแห่งโดยไปกับกระแสเลือดทั่วร่างกาย ในเลือด 1 ลูกบาศก์เซนติเมตร จะมีเม็ดเลือดขาวประมาณ 5,000-9,000 เซลล์ การมีจำนวนเม็ดเลือดขาวมากขึ้นหรือน้อยลงนับว่าเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาและวินิจฉัยโรคด้วย เช่น ถ้าจำนวนเม็ดเลือดขาวมีน้อยกว่าปกติ แสดงว่า ร่างกายเราอ่อนแอ มีแนวโน้มว่าจะแพ้โรคที่บุกเข้ามาล่ะ

เกร็ดเลือด (blood platelets) เป็นส่วนเล็กๆ ของเซลล์ เป็นเม็ดเลือดที่ค่อนข้างเปราะ และมักยึดเกาะกับพื้นผิวของสิ่งต่างๆ รวมกันเป็นกลุ่ม เกร็ดเลือดมีความสำคัญต่อการแข็งตัวของเลือดมาก จะเห็นได้ว่าเวลาที่เกิดบาดแผล เกร็ดเลือดจะทำหน้าที่เป็นตัวประสานให้รอยแผลติดกันได้เร็วขึ้น โดยปกติอายุของเกร็ดเลือดโดยเฉลี่ยจะประมาณ 2-3 วัน และในแต่ละลูกบาศก์เซนติเมตรมักจะพบจำนวนเกร็ดเลือดประมาณ 250,000 เซลล์

คำว่า ‘เลือดฝาดดี’ ในความหมายของคนโบราณนั้น หมายถึง คนที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง โดยเฉพาะคุณผู้หญิงจะเห็นได้ชัดจากผิวพรรณที่ดูมีน้ำมีนวล อิ่มเอิบ เนื่องเพราะมีระบบการไหลเวียนของเลือดที่ดี แต่มีบางคนอยากมีเลือดฝาดดีโดยวิธีลัด จึงพยายามเสาะแสวงหายามากินมาทา ผลที่ได้บางครั้งก็อาจตรงข้ามกับที่หวังไว้ก็ได้ ดังนั้น ถ้าใครอยากมีผิวพรรณผุดผ่อง ควรบำรุงด้วยอาหารที่ครบถ้วนทุกหมู่จะดีกว่า

ข้อมูลสื่อ

176-006
นิตยสารหมอชาวบ้าน 176
ธันวาคม 2536
สุกาญจน์ เลิศบุศย์