ดูรูม่านตาพาให้รู้โรค
รูม่านตาโต โดยเฉพาะข้างขวา
คุณผู้อ่านครับ ลองหาไฟฉายสว่าง ๆ สักกระบอกหนึ่ง และมองหาญาติสนิมมิตรสหายสักคนหนึ่ง บอกให้เขาลืมตาขึ้น แล้วลองฉายไฟเข้าไปตรงกลางตาดำทีละข้าง สังเกตให้ดีๆ ซิว่า เจ้ารูม่านตา
(รูปที่ 2) ซึ่งอยู่ตรงกลางตาดำนั้น มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง ถ้ายังไม่เห็นลองฉายซ้ำอีกทีซิครับ จะเห็นว่ารูม่านตาเมื่อถูกแสงไฟจะหดเล็กลงทันทีใช่ไหมครับ
โดยธรรมชาติ ร่างกายของคนเรานี้ มีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงอัตโนมัติยิ่งกว่าเครื่องจักรเสียอีก
รูม่านตาของคนเราจะเปิดกว้างเมื่ออยู่ในที่มืดเพื่อให้แสงเข้ามาก ๆ และจะหดเล็กเมื่ออยู่ในที่สว่างเพื่อให้แสงเข้าน้อยเหมือนกับชัตเตอร์ (ที่ปิดเปิดให้แสงเข้า) ของกล้องถ่ายรูปนั่นแหละ
คนปกติธรรมดา รูม่านตาทั้ง 2 ข้างจะมีขนาดเท่า ๆ กัน ก็ในราวเส้นผ่าศูนย์กลาง 4-5 มิลลิเมตร และจะหดตัวเล็กลงทันทีเมื่อถูกแสงไฟ
⇒การตรวจดูรูม่านตามีประโยชน์อะไรหรือครับ
คนที่มีอาการปวดหัวรุนแรงและปวดตา ตามัว ตาพร่าซีกเดียว โดยเฉพาะในคนที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป ขอให้ใช้ไฟฉายส่องที่ตาดำทั้ง 2 ข้างดู ถ้าตาข้างที่ปวดมีลักษณะแดง รูม่านตาโตกว่าข้างที่ไม่ปวด และถูกแสงแล้วไม่หดเล็กลง ก็พึงนึกไว้เถิดว่า โรคต้อหิน กำลังถามหา ควรแนะนำให้คนไข้ไปโรงพยาบาลโดยด่วน เพราะถ้าส่งถึงมือแพทย์เร็วเท่าไหร่ โอกาสที่จะรักษาให้หายก็มีมากขึ้นเท่านั้น แต่ถ้าชักช้าตาก็มักบอดได้ง่าย ๆ
คนที่มีอาการปวดตา ตาแดง ตาพร่าข้างเดียว ถ้ารูม่านตาเล็กกว่าอีกข้างหนึ่ง ก็มักเป็นโรคม่านตาดำอักเสบ ควรหาหมอโดยเร็วเช่นเดียวกัน
คนที่ถูกรถชน ตกจากที่สูงหรือได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ มีอาการปวดหัว อาเจียน เพ้อ ซึม หรือหมดสติ ให้ใช้ไฟส่องที่ตาดำทั้งสองข้าง ถ้ารูม่านตาข้างหนึ่งโตและถูกแสงแล้วไม่หดเล็กลง ก็แสดงว่ามีเลือดคั่งในสมอง ควรส่งคนไข้ไปโรงพยาบาลทันที หากได้รับการผ่าตัดช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ก็มีทางรอดได้
คนที่กินยาฆ่าแมลงฆ่าตัวตาย หรือคนที่ได้รับยามอร์ฟีนเกินขนาด รูม่านตาทั้งสองข้างจะหรี่เล็ก บางคนเท่ารูเข็ม (รูปที่ 3) ซึ่งจะเยียวยารักษาไม่ทันก็ตายได้ง่าย ๆ
คนที่เป็นโรคความดันเลือดสูง อยู่ดี ๆ มีอาการปวดหัวมากแล้วหมดสติไป และมือเท้าเกร็งหรือกระตุก ตรวจพบว่ารูม่านตาหรี่เล็กเท่ารูเข็มทั้ง 2 ข้าง ก็แสดงว่าโอกาสรอดมีน้อยเหลือเกิน ,
คนที่หมดสติเข้าขั้นตรีทูต (ใกล้ตาย) รูม่านตามักจะโตทั้ง 2 ข้าง ใช้ไฟส่องดูก็ไม่หดเล็กลงเช่นปกติ คนที่ตายแล้วก็มีลักษณะของรูม่านตาแบบเดียวกันนี้
สรุปแล้ว ขอให้เราหมั่นส่องไฟสังเกตดูขนาดของรูม่านตาทั้ง 2 ข้างของคนไข้ โดยเฉพาะในคนที่มีอาการปวดหัวรุนแรง คนที่ปวดตาหรือตามัว ตาพร่าข้างเดียว คนที่หมดสติ คนที่ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ คนที่กินยาพิษ ถ้าพบว่ารูม่านตามีขนาดไม่เท่ากันทั้ง 2 ข้าง รูม่านตาเล็กเท่ารูเข็ม หรือรูม่านตาโตและถูกแสงไม่ยอมหดเล็กลง ก็พึงคิดไว้เสมอว่า คนไข้กำลังมีอาการรุนแรง และควรไปโรงพยาบาลโดยด่วน
แต่ถ้าบังเอิญมีคนมาบ่นว่า หลังหยอดยาหยอดตาแล้วรู้สึกตาพร่า ตามัวอย่างไรชอบกล เอาไฟส่องตาดูพบว่ารูม่านตาโต แต่ยังหดเล็กลงเมื่อถูกแสง โดยที่คนไข้ไม่มีอาการผิดปกติอย่างอื่นเลย ก็อย่าได้ตกอกตกใจ เพราะอาการดังกล่าวเกิดจากฤทธิ์ของยาหยอดตาที่เข้าตัวยาอะโทรปีน
เมื่อหมดฤทธิ์ยา ก็หายได้เองครับ
รูปที่ 1
คนที่เป็นต้อหิน จะมีอาการปวดตารุนแรง ตาแดง รูม่านตาโต และถูกแสงไม่หรื่เล็ก
รูปทึ่ 2
รูม่านตาในคนปกติ มีขนาด 3-5 มม.เท่ากันทั้ง 2 ข้างและเมื่อถูกแสงจะหรี่เล็กลงโดยอัตโนมัติ
รูปที่ 3
รูม่านตาหดเล็กเท่ารูเข็ม พบในคนที่ได้รับพิษจากยาฆ่าแมลง มอร์ฟีน
- อ่าน 56,341 ครั้ง
พิมพ์หน้านี้