ผักป๋วยเล้ง ธาตุเหล็กจากพืช
ผักป๋วยเล้งมีถิ่นกำเนิดที่ประเทศอาหรับ ชาวอาหรับให้สมญาผักป๋วยเล้งว่า “ราชาแห่งผัก” มีบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ถัง สมัยพระเจ้าถังไท่จง กษัตริย์เนปาลได้ถวายเครื่องราชบรรณาการ โดยมีผักป๋วยเล้งอยู่ด้วย
⇒ ชื่อวิทยาศาสตร์ Spinacia oleraceae วงศ์ Channopodiaceae
⇒ สรรพคุณ
ผักป๋วยเล้งมีคุณสมบัติเย็น รสหวาน สรรพคุณบำรุงเลือด ห้ามเลือด รักษาอาการเลือดกำเดาออก อุจจาระเป็นเลือด ท้องผูก
⇒ ตำรับยา
1. ตามองไม่เห็นในตอนกลางคืน (Nyctalopia) ใช้ผักป๋วยเล้ง 300 กรัม ตำให้แหลกคั้นเอาน้ำ ดื่มทุกเช้าและเย็นติดต่อกันระยะหนึ่ง
2. ท้องผูกไม่ถ่าย ใช้ผักป๋วยเล้ง 300 กรัม ลวกในน้ำเดือดแล้วคลุกกับน้ำมันงา กินเช้าและเย็น
3. โลหิตจาง ผัดผักป๋วยเล้งกับตับหมูกินเป็นประจำ
ในผักป๋วยเล้ง 600 กรัม มีโปรตีน 12 กรัม ซึ่งเท่ากับไข่ 2 ฟอง สูงกว่าโปรตีนในผักกาดขาว 2 เท่า และมีคาโรทีน (Carotene) 17.76 ม.ก. ซึ่งมากกว่าในหัวผักกาดขาว
ผลการทดลองพบว่า คาโรทีนในผักป๋วยเล้งสามารถนำไปใช้ในอัตราสูง ผักป๋วยเล้ง 600 กรัม มีวิตามินซี 174 ม.ก. ซึ่งมากกว่าในหัวผักกาดขาว 2 เท่า สูงกว่าผักกาดขาว 1 เท่า นักวิชาการเชื่อว่าผักป๋วยเล้งเป็นผักที่เหมาะสำหรับเด็กและผู้ป่วย เพราะมีโปรตีนและแร่ธาตุต่างๆ มากมายในผักป๋วยเล้ง 100 กรัม มีปริมาณวิตามินซีที่พอเพียงกับความต้องการของร่างกายใน 1 วัน และมีปริมาณคาโรทีนที่พอเพียงใน 2 วัน
ผักป๋วยเล้งมีธาตุเหล็กและแคลเซียมจำนวนมาก โดยทั่วไปร่างกายจะดูดซึมไปใช้ประมาณ 50% แคลเซียมในผักป๋วยเล้งก็เช่นกัน นักโภชนาการได้ทำการศึกษาวิจัยพบว่า กรดออกซาลิก (Oxalic acid) ไม่เพียงแต่มีรสฝาดแล้ว ยังมีปฏิกิริยากับแคลเซียม ทำให้เกิดเป็นตะกอน
ดังนั้นในการผัดผักป๋วยเล้งควรจะลวกผักป๋วยเล้งในหม้อหรือกระทะที่ต้มน้ำจนเดือด วิธีนี้จะเป็นการขจัดกรดออกซาลิกได้ถึง 80% หลังจากนั้นก็นำไปผัดหรือปรุงตามอัธยาศัย จะได้กับข้าวที่อร่อย และไม่ทำให้สูญเสียคุณค่าทางอาหารอีกด้วย นอกจากนี้แล้ว ป๋วยเล้งยังมีวิตามินเอสูง คนที่ชอบกินป๋วยเล้งจะเป็นผู้ที่มีสายตาดี ผิวผุดผ่อง และมีวิตามินซีในปริมาณสูงอีกด้วย แต่ผักป๋วยเล้งจะให้พลังงานต่ำ เอาป๋วยเล้งหั่นละเอียดจำนวน 1 ถ้วยตวง จะให้พลังงานเพียง 14 แคลอรี
ผักป๋วยเล้งปลูกได้ตลอดปี แต่จะงอกงามอวบอิ่มในหน้าหนาวดีกว่าช่วงฤดูอื่น เวลาเลือกซื้อควรเลือกใบใหญ่ๆ ถ้าตัดมาใหม่ๆ ใบจะกรอบและสด สีของใบเขียวจัด ถ้าเห็นใบมีรอยช้ำ เน่า เหี่ยวเฉา หรือแมลงกัดพรุนก็ไม่ควรซื้อ เมื่อซื้อมาแล้วตัดส่วนรากทิ้งแต่ให้ผักอยู่รวมเป็นต้น อย่าปลิดใบออก ตัดใบแก่ แล้วล้างน้ำหลายๆครั้ง เอาพวกดินที่ติดมาด้วยออกให้หมด ระวังอย่าให้หนักมือ ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ แล้วเก็บใส่ถุงพลาสติกหรือใส่กล่องที่ปิดได้สนิท นำเข้าเก็บในตู้เย็นจะเก็บได้นานประมาณ 3-5 วัน
ผักป๋วยเล้งนี้ใช้ทำอาหารได้หลายอย่าง จะลวกใส่ก๋วยเตี๋ยว ผัดกับหมูแบบผักบุ้งไฟแดง แกงเลียง แกงส้ม แกงจืดหมูสับ ผัดกับน้ำมันหอย หรือจะทำเป็นผักสลัด ผักจิ้มน้ำพริกกินดิบๆก็ได้ทั้งนั้นแล้วแต่ความชอบ
- อ่าน 17,951 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้