• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

อีกด้านหนึ่งของโออาร์เอส

ในปัจจุบัน โลกทั้งโลกได้หมุนไปตามทิศทางแห่ง “สุขภาพดีถ้วนหน้าภายในปี 2543”ได้เกิดการตื่นตัวและการเคลื่อนไหวในวงการแพทย์และสาธารณสุขใหม่ๆ มากมาย ผู้เขียนขอทำหน้าที่คอยนำเอาเรื่องราวเหล่านี้มาเล่าสู่กันฟัง และยินดีรับฟังความคิดเห็นและข้อเท็จจริงจากผู้อ่าน มีข้อเสนอแนะประการใด โปรดจดหมายมาได้

อีกด้านหนึ่งของโออาร์เอส

ครั้งที่แล้ว คุณหมอไพบูลย์ สุริยะวงศ์ไพศาล ได้เล่าถึงการรณรงค์การใช้โออาร์เอสในการรักษาโรคท้องเดินในประเทศไฮติ

ความจริงในบ้านเราก็ได้ทำการเผยแพร่เรื่องนี้มาหลายปี “หมอชาวบ้าน” เองก็ได้กล่าวถึงเรื่องนี้อยู่บ่อยๆ จนในเวลานี้ชาวบ้านในหมู่บ้านต่างๆ เริ่มรู้จักโอออาร์อสกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น (ชื่อ “โออาร์เอส” ซึ่งทับศัพท์จากคำว่า ORS ได้กลับเป็นศัพท์ที่คุ้นหูคุ้นปากของชาวบ้านในหลายพื้นที่) และก็ได้เห็นอานิสงส์ของสิ่งนี้ในเวลาอันรวดเร็ว

นั่นคือ ในเวลานี้เด็กที่มีอากรท้องเดินรุนแรงจนถึงขั้นต้องหามเข้ารักษาในโรงพยาบาล เริ่มลดน้อยลงไปอย่างชัดเจน เพราะพ่อแม่ผู้ปกครองรู้จักใช้โออาร์เอสรักษาเด็กเมื่อเริ่มมีอาการท้องเดินอย่างได้ผล ไม่เหมือนก่อนที่ปล่อยให้เด็กที่ท้องเดินอดข้าวอดน้ำ จนร่างกายแห้งเหี่ยว (เกิดภาวะขาดน้ำรุนแรง) จนบางครั้งมาถึงโรงพยาบาลก็สายเกินแก้เสียแล้ว

นี่คือ ประโยชน์อันมหาศาลของโออาร์เอส แต่มันก็เหมือนกันสรรพสิ่งในโลกนี้ที่มีลักษณะสองด้าน (ทวิลักษณ์) คือ เมื่อมีด้านที่ดี ก็ย่อมมีอีกด้านที่ไม่ดี

เมื่อเร็วๆ นี้ผู้เขียนได้รับฟังจากเภสัชกรที่เปิดร้านขายยากลุ่มหนึ่ง ซึ่งเข้ามารับการอบรมฟื้นฟูความรู้เรื่อง “อาการบวม” ที่คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหดิล (27-28 เมษายน2528) ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เวลานี้โออาร์เอส หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “น้ำเกลือแห้ง” กำลังเป็นยาที่ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ผู้เขียนฟังแล้วก็รู้สึกดีใจ ที่ชาวบ้านรู้จักใช้โออาร์เอสกันอย่างกว้างขวางแล้ว

“แต่ที่เขาซื้อกินกันนั้น ส่วนน้อยที่ซื้อไปรักษาอาการท้องเดินหรืออาเจียนตามที่หมอแนะนำกัน แต่กว่าร้อยละ 80 จะซื้อน้ำเกลือแห้งกินเป็นยาบำรุงร่างกายแก้อ่อนเพลียเป็นประจำ ไม่ว่าเด็กเล็ก คนแก่คนเฒ่า เด็กขายพวงมาลัย กรรมกร คนขับรถ หรือชาวไร่ชาวนา จะกินนี้เป็นยาบำรุง พ่อแม่บางคนซื้อให้ลูกกินแทนข้าวเพราะเด็กเบื่ออาหาร บางคนซื้อทั้งกล่องใหญ่ๆ ใช้กันทั้งครอบครัวเลยก็มี...” นี้คือภาพสะท้อนจากคำบอกเล่าของเภสัชกรกลุ่มดังกล่าว

เวลานี้มีบริษัทเอกชนจำนวนมากผลิตน้ำเกลือแห้งยี่ห้อต่างๆ แข่งขันกันจนกลายเป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้งาม มีทั้งชนิดซองและชนิดน้ำ

ตามต่างจังหวัดมีการโฆษณาผ่านทางวิทยุในท้องถิ่น จนชาวบ้านมีความเข้าใจว่า น้ำเกลือแห้งคือ ยาบำรุงอันวิเศษ บางยี่ห้อก็ปรุงแต่รสชาติให้มีรสผลไม้ชนิดต่างๆ เพื่อให้เด็กนิยม

“ผมเคยพบเด็กเล็กที่กินน้ำเกลือแห้งเป็นประจำจนตัวบวม” เภสัชกรคนหนึ่งเล่าให้ฟัง

ที่บวมเพราะน้ำเกลือแห้งมีเกลือกับน้ำตาล เมื่อกินเกลือเข้าไปมากๆ ร่างกายก็จะบวมน้ำเพราะเกลือเป็นตัวอมน้ำ (คนที่มีอาการบวม หมอจะห้ามไม่ให้กินเค็มก็เพราะเหตุนี้)

เป็นที่น่าแปลกว่า ทำไมชาวบ้านจึงนิยมใช้น้ำเกลือแห้งกันอย่างผิดๆ ถึงขนาดนี้?

เหตุผลคงมีอยู่หลายประการด้วยกัน

หนึ่ง คงเป็นเพราะหมอได้เผยแพร่ประโยชน์ของโออาร์เอสกันอย่างกว้างขวาง (ในแง่ที่รักษาโรคท้องเดินหรืออาเจียน ไม่ใช่แง่ของการเป็นยาบำรุง)

สอง การโฆษณาของบริษัทที่ผลิตน้ำเกลือแห้ง (ออกมาในรูปเครื่องดื่มบำรุงร่างกายแก้อ่อนเพลีย)

สาม คงจะสอดคล้องกับความเชื่อเรื่องน้ำเกลือที่มีอยู่เดิมของประชาชนทั่วไป คือมีอุปาทานยึดมั่นกันอย่างผิดมาตลอดว่า น้ำเกลือที่ให้ทางเส้นเลือดเป็นยาบำรุงวิเศษ ทีนี้ก็เลยนึกเอาว่าน้ำเกลือแห้งมีสรรพคุณเช่นเดียวกับน้ำเกลือที่ให้ทางเส้นเลือดได้ จึงใช้แทนกันได้ อีกทั้งถูกและสะดวก จึงหันมานิยมน้ำเกลือแห้ง แทนน้ำเกลืออย่างฉีด

ข้อสามนี่ล่ะที่หนักเอาการ ไม่เพียงแต่เรื่องน้ำเกลือเท่านั้น คนจำนวนไม่น้อยยังมีอุปาทานเกี่ยวกับยาฉีด ยาชุด ยาซอง ยาชูกำลัง เลือดเทียม เอกซเรย์ (รวมทั้งเอกซเรย์คอมพิวเตอร์) และอื่นๆ ซึ่งเป็นตัวกำหนดพฤติกรรมของพวกเขา ในการบริการทางการแพทย์และสาธารณสุข ผลก็คือ พวกเขาต้องตกเป็นเหยื่อของการเอรัดเอาเปรียบ ทั้งเสียเงินและเสียสุขภาพหนักยิ่งขึ้นไปอีก (เช่น เกิดอาการแพ้ยาหรือยาเป็นพิษ) ทั้งนี้คงเป็นเพราะคนส่วนใหญ่ยังมีความรู้ตามไม่ทันเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ประกอบกับการแพทย์ได้กลายเป็นเรื่องของธุรกิจการค้า จึงเกิดสภาพของการเอารัดเอาเปรียบผู้ที่ด้อยความรู้

เรื่องของโออาร์เอสหรือน้ำเกลือแห้งก็เช่นเดียวกัน มันมีประโยชน์ในการรักษาภาวะขาดน้ำและเกลือแร่ในคนที่เจ็บป่วยด้วยโรคท้องเดินหรืออาเจียน (ซึ่งแน่ละ ต้องใช้ในสัดส่วนที่เหมาะสมจึงจะปลอดภัย ถ้าใช้ผิดๆ ก็เกิดโทษได้เช่นกัน) แต่ขณะนี้ โออาร์เอสกำลังกลายเป็นสินค้าสนองความเชื่อและความต้องการอันผิดๆ ของคนจำนวนไม่น้อย ทำให้พวกเขาเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ มิหนำซ้ำยังอาจเสี่ยงอันตรายจากการใช้อย่างผิดๆ อีกด้วย เช่น อาจทำให้บวม หรืออาจเกิดโทษต่อผู้ที่เป็นโรคหัวใจ โรคไต หรือโรคความดันเลือดสูงอยู่ก่อน

ในเวลานี้ก็มีโรคที่เกิดจากยาเป็นเหตุ (โรคยาทำ) กันยู่มากมาย อย่าให้ต้องเกิด “โรคโออาร์เอสทำ” เพิ่มขึ้นเกิดโรคหนึ่ง เลยครับ ขอฝากผู้อ่านช่วยบอกต่อๆ กันไปด้วยว่า น้ำเกลือแห้งไม่ใช่ยาบำรุงอันวิเศษแต่อย่างใด ถ้ารู้สึกอ่อนเพลียต่อการทำงาน กินน้ำหวาน หรือน้ำผลไม้สักแก้ว ยังจะมีประโยชน์กว่าและทุ่นสตางค์กว่าเป็นไหนๆ เก็บเงินไว้ซื้ออาหารำรุงร่างกายดีกว่าครับ!

ข้อมูลสื่อ

74-011
นิตยสารหมอชาวบ้าน 74
มิถุนายน 2528
รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ