• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

โรคที่มากับ...มือ

โรคที่มากับ...มือ


ถาม : นฤมล/กรุงเทพฯ
ดิฉันอยากทราบว่าโรคติดเชื้อที่ติดต่อผ่านทางมือมีอะไรบ้าง และสามารถป้องกันหรือหลีกเลี่ยงได้อย่างไร
ขอความกรุณาคุณหมอช่วยตอบและอธิบายด้วยนะคะ
 
ตอบ : นพ.นพวัชร์ สมานคติวัฒน์
นอกจาก "สมอง" แล้ว "มือ"  นับเป็นอวัยวะที่ทำให้มนุษย์เหนือกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นบนโลกใบนี้ เนื่องจากมนุษย์ใช้สมองคิดค้นสิ่งต่างๆ ในขณะที่ใช้มือในการประดิษฐ์ และทำงานที่สัตว์อื่นทำไม่ได้ เราใช้มือของเรานี้ในการจับต้องสิ่งต่างๆ ตั้งแต่ลืมตาขึ้นมาตอนเช้า ล้างหน้า แปรงฟัน อาบน้ำ สัมผัสผู้อื่น รวมทั้งหยิบอาหารเข้าปาก แคะจมูก ป้ายตา มือจึงอาจนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ด้วย และหากใครสักคนเป็นโรคติดเชื้อ มือนี้ก็สามารถกระจายเชื้อไปสู่ผู้อื่นจากการสัมผัสกันโดยตรงหรือแม้กระทั่งสัมผัสผ่านตัวกลางซึ่งตัวกลางที่พบบ่อยและผู้คนมักมองข้าม ได้แก่ ลูกบิดประตู ราวโหนรถเมล์ และราวบันไดเลื่อน
 
เชื้อโรคบนมือ
สิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่อยู่บนมือของคนโดยทั่วไป แบ่งได้ ๒ ประเภท คือ พวกที่พบได้ในภาวะปกติซึ่งมีอยู่นับสิบชนิด (แม้ว่ามือนั้นจะยังดูสะอาด ไม่เปรอะเปื้อนก็ตาม) กับพวกที่พบได้ชั่วคราว ซึ่งได้รับมาจากการสัมผัส ซึ่งจะติดอยู่ที่ผิวหนังอย่างหลวมๆ และล้างออกได้ง่ายๆ พวกแรกนี้โดยทั่วไปไม่ก่อโรค เว้นเสียแต่มีการเหนี่ยวนำเชื้อโรคเหล่านี้เข้าสู่กระแสเลือดหรืออวัยวะภายใน เช่น ในทางการแพทย์ การใส่สายให้น้ำเกลือเข้าไปในหลอดเลือดโดยตรงอาจมีเชื้อที่ผิวหนังปนเปื้อนเข้าไปและก่อให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดตามมาได้ ส่วนพวกหลังอาจเป็นเชื้อก่อโรคที่ทำให้เกิดโรคติดต่อได้มากมาย บางอย่างรุนแรงถึงชีวิต

โรคติดเชื้อที่ติดต่อผ่านทางมือ 
โรคติดเชื้อมากมายสามารถติดต่อผ่านจากการสัมผัส ตัวอย่างโรคที่พบบ่อย มีดังนี้

โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ เช่น หวัด วัณโรค ไข้หวัดใหญ่ โรคหัด หัดเยอรมัน นอกจากจะติดต่อผ่านการหายใจเอาเชื้อเข้าไปแล้ว การที่มือไปสัมผัสกับสิ่งของเครื่องใช้ที่ใช้ร่วมกับบุคคลอื่นหรือเครื่องใช้ในที่สาธารณะ เช่น ลูกบิดประตู ราวโหนรถเมล์ หรือราวบันได แล้วมาแคะจมูก เชื้อโรคก็จะเข้าสู่โพรงจมูกส่วนหน้า เมื่อหายใจเข้าไปก็ทำให้เกิดโรคได้

โรคติดเชื้อทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสีย โรคตับอักเสบชนิดเอ โรคบิด อหิวาตกโรค โรคพยาธิชนิดต่าง ๆ ซึ่งติดต่อได้จากการที่มือปนเปื้อนเชื้อเหล่านี้ แล้วหยิบจับอาหารกินเข้าไป

โรคติดต่อทางการสัมผัสโดยตรง เช่น โรคตาแดง โรคเชื้อรา แผลอักเสบที่ผิวหนัง หิด เหา โรคเริม

โรคที่ติดต่อได้หลายทาง เช่น โรคอีสุกอีใส อาจติดต่อได้จากการหายใจและการสัมผัส

โรคติดเชื้อเหล่านี้ เป็นโรคที่พบบ่อย และบางครั้งอาจมีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงตามมาได้

แนวทางรักษา
วิธีการง่ายๆ ที่ลงทุนน้อยและได้ผลตอบแทนมาก ในการควบคุมและป้องกันโรคติดเชื้อที่ผ่านทางมือ ก็คือ "การล้างมือ" จากการวิจัยทางการแพทย์ค้นพบมานานกว่า ๑๕๐ ปีแล้วว่า การล้างมือของแพทย์จะช่วยลดอัตราการเกิดโรคติดเชื้อในโรงพยาบาล นอกจากนี้การล้างมือบ่อยๆ ในผู้ป่วยที่เป็นโรคตาแดง ก็เป็นวิธีป้องกันการระบาดของโรคได้ หรือการล้างมือของผู้ประกอบอาหาร ก็ป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อทางเดินอาหารเช่นกัน แต่ปัญหาก็คือ คนทั่วไปไม่ค่อยได้สนใจและไม่ระวัง เนื่องจากเชื้อก่อโรคดังกล่าวข้างต้นแม้จะมีอันตรายแต่ก็มีขนาดเล็กมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น นอกจากการไม่แคะจมูกและขยี้ตาบ่อยๆ แล้ว การล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
 
การล้างมือที่ถูกวิธี
การล้างมือที่ถูกต้อง ต้องทำให้มือสะอาดทั้งมือ โดยมีทั้งสิ้น ๖ ขั้นตอน คือ
๑. ถูฝ่ามือกับฝ่ามือ
๒. ฝ่ามือถูบริเวณหลังมือสลับกันทั้งสองข้าง
๓. ซอกนิ้วมือด้านฝ่ามือถูกัน
๔. ถูซอกนิ้วมือด้านหลังมือ ด้วยฝ่ามือทั้งสองข้างสลับกัน
๕. ล้างนิ้วหัวแม่มือให้สะอาดโดยรอบทั้ง ๒ ข้าง 
๖. เอาปลายนิ้วมือ ถูฝ่ามือ สลับกันทั้งสองข้าง รวมเวลาที่ใช้ล้างมือนี้ประมาณ ๑๕-๓๐ วินาที (อย่างน้อย ๑๐ วินาที) นอกจากนี้ควรล้างมือด้วยน้ำที่กำลังไหล รินจากก๊อกน้ำ และควรใช้ผ้าหรือกระดาษสะอาดเช็ดมือให้แห้ง หรือทำให้แห้งด้วยเครื่องเป่าลมหลังล้างเสร็จ

การล้างมือนี้ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรค เพียงแค่ใช้สบู่กับน้ำสะอาด ล้างอย่างถูกวิธีก็จะสามารถลดการติดเชื้อได้อย่างดีมากแล้ว

เมื่อไรที่ควรล้างมือ
ควรล้างมือในกรณีต่างๆ ดังนี้

  • ล้างมือ หลังเสร็จกิจกรรมที่ทำให้มือสกปรก เช่น ทำงาน ยกของ พรวนดิน กวาดบ้าน ล้างห้องน้ำ เป็นต้น
  • ล้างมือ เมื่อจะประกอบอาหาร หรือหยิบจับอาหารเข้าปาก
  • ล้างมือ ก่อนล้างหน้า แปรงฟัน หรือหลังเข้าห้องน้ำ
  • ล้างมือ เมื่อจะสัมผัสจมูก ปาก หรือตา
  • ล้างมือ ก่อนและหลังสัมผัสผู้ป่วย รวมทั้งในกรณีที่ป่วยเองก็ยิ่งต้องล้างมือให้บ่อยๆ หลังเช็ดน้ำมูก ไอ จาม
  • ล้างมือ ก่อนสัมผัสบุตรหลาน
  • ล้างมือ หลังจากกลับจากที่ทำงานมาถึงบ้าน
  • การล้างมือควรกระทำบ่อยๆ ให้เป็นนิสัย เนื่องจากการสัมผัสบริเวณตา จมูก ปาก หยิบจับอาหาร สามารถนำเชื้อโรคบนมือเข้าสู่ร่างกายได้ นอกจากนี้การเลี้ยงดูบุตรหลาน โอบกอด ป้อนอาหาร ก็สามารถนำโรคสู่เด็กเหล่านั้นได้ด้วย

รณรงค์ให้ล้างมืออย่างไร
แม้โรคติดเชื้อจำนวนมากสามารถแพร่กระจายได้ง่ายๆ ด้วยการสัมผัส การล้างมือก็เป็นวิธีการง่ายๆที่จะป้องกันการแพร่กระจายของโรคเหล่านี้ แต่ประชาชนโดยทั่วไปอาจมองข้ามว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่และละเลยสิ่งที่ควรปฏิบัติ เห็นได้จากการระบาดของโรคติดต่อ เช่น ตาแดง ซึ่งมีให้เห็นอยู่เนืองๆ การรณรงค์ในเรื่องนี้ จึงมีความสำคัญ โดยต้องเริ่มต้นตั้งแต่ระดับบุคคลและครอบครัว การที่ผู้ใหญ่ล้างมือให้เด็กเห็นเป็นตัวอย่างจะสามารถสร้างอุปนิสัยที่ดีให้แก่เยาวชนซึ่งจะเป็นอนาคตของชาติต่อไป

จะเห็นว่าการให้ความรู้กับประชาชน แม้จะสามารถเพิ่มความตระหนักในหน้าที่การดูแลสุขภาพของตนได้ แต่จะคงการปฏิบัติและพฤติกรรมของการดูแลสุขภาพที่ถูกต้องได้นานสักเท่าไร เป็นสิ่งที่ต้องช่วยกันคนละไม้คนละมืออย่างจริงจัง

"ถึงเวลาหรือยัง ที่ท่านจะสละเวลาที่มีค่าของท่านสักนิด ล้างมือของท่านให้สะอาดเพื่อตัวท่าน บุตรหลานของท่าน และสังคมส่วนรวม"