• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี

พงษ์/กรุงเทพฯ : ผู้ถาม

ผมมีปัญหาจะเรียนถามคุณหมอเกี่ยวกับโรคไวรัสตับอักเสบชนิดบีครับ คือ ผมไปบริจาคเลือดที่โรงพยาบาล ผลเลือดบอกว่าผมมีเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี เมื่อปีก่อนผมก็บริจาคเลือด แต่ไม่พบเชื้อดังกล่าว แล้วอยู่ดีๆ ผมได้รับเชื้อนี้มาได้อย่างไร เพราะพ่อแม่ผมก็ไม่มีเชื้อนี้ ผมเองก็ไม่เคยรับเลือด จากใครหรือมีเพศสัมพันธ์กับใคร
ผมอยากเรียนถามว่า
๑. ผมติดเชื้อนี้ได้อย่างไรครับ
๒. เชื้อนี้มันจะอยู่ในร่างกาย ผมไปถึงไหน หากผมต้องแต่งงาน หรือมีลูก ภรรยาและลูกผมจะได้รับเชื้อนี้ไปด้วยหรือไม่ครับ
๓. อยากให้คุณหมอแนะนำการปฏิบัติตนว่านอกจากไม่ดื่มสุราหรือของมึนเมาแล้วควรทำอย่างไรบ้าง

 

นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ : ผู้ตอบ


๑. เชื้อไวรัสตับอักเสบบีติดต่อ ได้ ๔ ทาง ได้แก่ ทางเลือด ทางเข็มฉีดยา ทางเพศสัมพันธ์ และทางแม่สู่ทารกในครรภ์ (แบบเดียว กับเชื้อเอชไอวี)
ตามที่เล่ามา บอกไม่ได้ชัดเจนว่าคุณติดเชื้อนี้มาจากทางไหนโดยที่ก่อนหน้านี้เคยบริจาคเลือดก็ตรวจไม่พบเชื้อ
เป็นไปได้ไหมที่คุณอาจติดทางเลือดหรือเข็มฉีดยาโดยไม่รู้ตัว เช่น อาจไปเปื้อนเลือดของคนที่มีบาดแผล หรือเข็มฉีดยาที่ใช้รักษาโรค หรือจากอุปกรณ์ถอนฟันก็ได้
อย่างไรก็ตามขอให้ตรวจเลือดซ้ำ เพื่อให้แน่ใจอีกสักครั้ง
๒. เชื้อนี้มักจะอยู่ในร่างกายนานนับสิบๆ ปีหากจะแต่งงาน ควรให้คู่ครองตรวจเลือดดูว่ามีภูมิต้านทานต่อโรคนี้หรือยัง ถ้ายังก็ควรฉีดวัคซีนป้องกันเสียก่อน
หลังแต่งงาน หากภรรยาตั้งครรภ์ขณะฝากครรภ์ควรตรวจ เลือดภรรยาซ้ำว่ามีเชื้อไวรัสตับอักเสบบีในร่างกายหรือไม่ (แพทย์ที่รับฝากครรภ์มักจะตรวจให้เป็นกิจวัตรอยู่แล้ว) ถ้ามีเชื้อตัวนี้ ลูกที่เกิดมาแพทย์จะฉีดเซรุ่ม (ภูมิต้าน ทาน) และวัคซีนให้ซึ่งสามารถป้องกันการติดเชื้อได้
๓. นอกจากงดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกประเภทแล้ว ควรเสริมสร้างสุขภาพด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
ข้อสำคัญควรพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กเลือดทุก ๓-๖ เดือน เพื่อตรวจดูว่าเชื้อหายไปหรือยัง หรือร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร จะได้หาทางแก้ไขแต่เนิ่นๆ