วัณโรค
เป็นวัณโรค 2 ปีแล้ว กินยาสเตรปโตมัยซินตลอดมายังไม่หาย เวลาไอรู้สึกอ่อนเพลียมาก จะมีทางรักษาให้หายหรือไม่
ผู้ถาม ธเนศ/เพชรบูรณ์
ผู้ตอบ นพ.ประพาฬ ยงใจยุทธ
ถาม
ผมเป็นวัณโรคมาได้ 2 ปีแล้ว กินยาสเตรปโตมัยซินมาเรื่อยๆ ยังไม่หายเลย เวลาไอรู้สึกอ่อนเพลียมาก อยากให้ช่วยบอกชื่อยาที่รักษาวัณโรคให้ และจะมีทางรักษาหายหรือไม่
ตอบ
ในปัจจุบันยาที่ใช้ในการรักษาวัณโรคที่มีอยู่ในท้องตลาด ได้แก่
1. ไอโซไนอะซิด เป็นยากินขนาดที่ใช้ในผู้ใหญ่วันละ 300 มิลลิกรัม (3 เม็ด)
2. ริแฟมปิซิน เป็นยากินขนาดที่ใช้ในผู้ใหญ่วันละ 600 มิลลิกรัม (2 เม็ด)
3. พัยราซินะไมด์ เป็นยากินขนาดที่ใช้ในผู้ใหญ่วันละ 1,500 มิลลิกรัม (3 เม็ด)
4. สเตรปโตมัยซิน เป็นยาฉีดในผู้ใหญ่ใช้ขนาด 0.75-1 กรัมต่อวัน
5. อีแทมบิวตอล เป็นยากิน ใช้แทนสเตรปโตมัยซินได้ในบางโอกาส แต่ผลการรักษาจะด้อยกว่าสเตรปโตมัยซินมาก ขนาดที่ใช้ในผู้ใหญ่วันละ 800-1,000 มิลลิกรัม (2 เม็ด)
6. ทัยอาซิตะโซน เป็นยากินที่มีราคาถูกที่สุด ขนาดที่ใช้ในผู้ใหญ่วันละ 150 มิลลิกรัม
การใช้ยารักษาวัณโรคนี้มีวิธีการให้ยาแตกต่างไปจากการรักษาโรคติดเชื้อชนิดอื่นมาก ทั้งนี้เนื่องจากเชื้อวัณโรคมีลักษณะพิเศษแตกต่างไปจากเชื้อแบคทีเรียชนิดอื่น กล่าวคือ
1. ในเชื้อวัณโรคหนึ่งล้านตัวจะมีเชื้อหนึ่งตัว ที่ดื้อต่อยาไอโซไนอะซิด และอีกหนึ่งตัวจะดื้อต่อสเตรปโตมัยซิน
2. ยารักษาวัณโรคจะทำลายเชื้อวัณโรคได้เฉพาะที่อยู่นอกเซลล์และในเซลล์เท่านั้น เชื้อวัณโรคอีกส่วนหนึ่งที่อยู่นิ่งๆ จะไม่ถูกทำลายโดยยารักษาวัณโรคดังกล่าวข้างต้น
ดังนั้นการใช้ยารักษาวัณโรคจึงจำเป็นที่จะต้องให้ยาตั้งแต่ 2 ขนานขึ้นไปร่วมกัน และจะต้องให้ติดต่อกันเป็นเวลานาน เช่น 6 เดือน 9 เดือน 12 เดือน หรือ 18 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแพทย์ผู้รักษา และสูตรยาที่ผู้ป่วยได้รับ
จากคำถามข้างต้นที่ว่า กินยาสเตรปโตมัยซินมาเรื่อยๆ คงจะเป็นการใช้ยาที่ไม่ถูกวิธี รวมทั้งการใช้ยาเพียงขนานเดียวในการรักษาวัณโรคจึงไม่ได้ผล และทำให้มีอาการเพิ่มมากขึ้น ในกรณีเช่นนี้แนะนำว่า ควรรีบไปรับการตรวจรักษาจากแพทย์ที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด หรือศูนย์วัณโรคของจังหวัดนั้นๆ โดยเร็วเพื่อแพทย์จะได้ให้การตรวจรักษาต่อไป
- อ่าน 3,739 ครั้ง
พิมพ์หน้านี้