การรักษาไซนัสอักเสบเรื้อรัง
ถาม ผู้ป่วยเป็นไซนัสอักเสบเรื้องรังเต็มโพรงทั้ง 2 ข้าง กินยาปฏิชีวนะแล้วอาการก็ยังไม่ดีขึ้น ควรให้การรักษาต่ออย่างไร
สมาชิก
ตอบ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคไซนัสอักเสบเรื้อรังมักจะมีสาเหตุของการอุดกั้นของช่องระบายสารคัดหลั่งจากโพรงไซนัสเป็นส่วนใหญ่ เช่น มีริดสีดวงจมูก มีการบวมของเยื่อบุผิวบริเวณช่องระบายหรือที่ปุ่มเนื้อส่วนกลาง (middle turbinate) ของโพรงจมูกไปอุดกั้นหรือเกิดจากดั้งจมูกคดหรือมีโพรงอากาศบริเวณใกล้ชองเปิดหรือโพรงอากาศของกระดูกของปุ่มเนื้อส่วนกลาง จึงจำเป็นต้องหาสาเหตุแท้จริงของโรคด้วยการถ่ายภาพทางคอมพิวเตอร์ CT scan และผ่าตัดแก้ไขสาเหตุดังกล่าว. ส่วนบางรายนั้นเกิดจากการรักษาที่ไม่สม่ำเสมอและเป็นโรคหวัดภูมิแพ้เรื้อรังจนเนื้อเยื่อในโพรงจมูกมีการบวมหนาตัวขึ้นมาก โดยที่ไม่มีความผิดปกติดังที่กล่าวมาเบื้องต้น ก็อาจต้องรักษาโรคภูมิแพ้ควบคู่กับการรักษาการติดเชื้อและต้องรักษาอย่างต่อเนื่องยาวนานทีเดียว จึงแนะนำว่าควรพบแพทย์หู คอ จมูก เท่านั้นจึงจะช่วยและขจัดปัญหานี้ได้.
บุญชู กุลประดิษฐารมณ์ พ.บ., ศาสตราจารย์
ภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล
การรักษามะเร็งปากมดลูกระยะที่ 1
ถาม ขอเรียนถามเรื่องมะเร็งปากมดลูกระยะ ที่ 1 ควรทำการผาตัดหรือทำการรักษาแบบอื่นดี
สมาชิก
ตอบ มะเร็งปากมดลูกระยะที่ 1 หมายถึง มะเร็งจำกัดอยู่ภายในปากมดลูกเท่านั้น โดยที่มะเร็งระยะนี้แบ่งย่อยออกไปได้อีกเป็น
ระยะ IA1 รอยโรคกว้างไม่เกิน 7 มม. ลึกลงไปใน stroma ไม่เกิน 3 มม.
ระยะ IA2 รอยโรคกว้างไม่เกิน 7 มม. ลึกลงไปใน stroma มากกว่า 3 มม. แต่ไม่เกิน 5 มม.
ระยะ IB รอยโรคกว้างกว่า 7 มม. และ/หรือลึกลงไปใน stroma มากกว่า 5 มม.
ระยะ IB1 ขนาดของก้อนมะเร็งไม่เกิน 4 ซม.
ระยะ IB2 ขนาดของก้อนมะเร็งเกิน 4 ซม.
การรักษา
1. มะเร็งปากมดลูกระยะ IA1 ถ้ายังต้องการมีบุตรให้ตัดปากมดลูกออกเป็นรูปกรวยด้วยมีด (cold-knife conization) แล้วดูผลพยาธิวิทยาอีกครั้งว่า ถ้าขอบของกรวยที่ตัดยังมีรอยโรค ก็พิจารณาตัดปากมดลูกออกเป็นรูปกรวยซ้ำ หรือถ้ามีมะเร็งในหลอดเลือดหรือหลอดน้ำเหลือง (lymph-vascular invasion) ก็พิจารณาตัดมดลูกออกแบบธรรมดา (simple hysterectomy) ในกรณีที่ไม่ต้องการมีบุตรหรือมีบุตรพอแล้ว ให้รักษาโดยการตัดมดลูกออกแบบธรรมดา.
หมายเหตุ : ในกรณีที่ผู้ป่วยมีข้อห้ามในการผ่าตัด อาจพิจารณาใส่แร่ทางช่องคลอด (brachy- therapy).
2. มะเร็งปากมดลูกระยะ IA2 รักษาโดยการตัดมดลูกแบบ type II radical hysterectomy ร่วมกับเลาะต่อมน้ำเหลืองในอุ้งเชิงกราน. สำหรับผู้ที่มีข้อบ่งห้ามในการผ่าตัด หรือผู้ป่วยเลือกไม่รักษาด้วยการผ่าตัด พิจารณาให้รังสีรักษาคือ การฉายรังสีที่อุ้งเชิงกรานและใส่แร่ทางช่องคลอด (pelvic RT + brachytherapy).
3. มะเร็งปากมดลูกระยะ IB สามารถรักษาได้ 3 วิธีคือ การผ่าตัดและรังสีรักษา ซึ่งมีอัตราการอยู่รอดที่ 5 ปี ไม่แตกต่างกัน. การผ่าตัดให้ผ่าตัดมดลูกแบบ type III radical hysterectomy และเลาะต่อมน้ำเหลืองในอุ้งเชิงกราน. ส่วนรังสีรักษาก็ประกอบด้วย ฉายรังสีที่อุ้งเชิงกรานและใส่แร่ทางช่องคลอด. วิธีที่ 3 คือ ให้ยาเคมีบำบัด (neoadjuvant chemotherapy) ตามด้วยการผ่าตัด type III radical hysterectomy และเลาะต่อมน้ำเหลืองในอุ้งเชิงกราน.
3.1 มะเร็งปากมดลูกระยะ IB1 ถ้าผู้ป่วยอายุไม่เกิน 60-65 ปี น้ำหนักไม่เกิน 70 กิโลกรัม ไม่มีโรคทางอายุรกรรมที่เป็นอันตรายต่อการผ่าตัดก็จะเลือกรักษาโดยการผ่าตัดเป็นลำดับแรกก่อน เนื่องจากมีข้อดี คือ สามารถตรวจการลุกลาม/แพร่กระจายของ มะเร็งได้ชัดเจน สามารถเก็บรังไข่ไว้สร้างฮอร์โมนในผู้ป่วยที่อายุน้อย ช่องคลองไม่เสียความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นจากการฉายรังสีถึงแม้จะสั้นลงบ้างจากการผ่าตัด แต่ก็ยังสามารถยืดขยายได้เมื่อมีเพศสัมพันธ์. นอกจากนี้การผ่าตัดในระยะเวลาที่สั้นกว่าการฉายรังสี และผลแทรกซ้อนระยะยาว เช่น ปัสสาวะ/อุจจาระเป็นเลือดก็จะไม่มี.
3.2 มะเร็งปากมดลูกระยะ IB2 โดยข้อพิจารณาดังข้างต้นจะเลือกรักษาโดยการผ่าตัดก็ได้ ในบางสถาบันจะให้รังสีรักษาในผู้ป่วยรายนี้ บางสถาบันจะให้ยาเคมีบำบัดก่อนผ่าตัด. อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ผ่าตัดแล้วตรวจพบมะเร็งที่ขอบของชิ้นเนื้อ หรือมีการลุกลามไปที่ parametrium หรือมีการแพร่กระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองก็ต้องตามด้วยรังสีรักษา.
โดยสรุป ตอบคำถามของคุณสมาชิกว่า การรักษาหลักของมะเร็งปากมดลูกระยะที่ 1 คือ การผ่าตัด หากผ่าตัดไม่ได้ก็ให้รังสีรักษา ถ้าพบว่ามีมะเร็งอยู่นอกขอบเขตของอุ้งเชิงกราน หรือก้อนมะเร็งใหญ่ (IB2) พิจารณาให้ยาเคมีบำบัดร่วมด้วยโดยพิจารณาเป็นรายๆไป.
เอกสารอ้างอิง
แนวทางปฏิบัติในการดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูก ISBN 978-974-422-419-4 กรกฎาคม 2550 โดย ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย, ราชวิทยาลัยพยาธิแพทย์แห่งประเทศไทย, สมาคมรังสีรักษาและมะเร็งวิทยาแห่งประเทศไทย, สมาคมมะเร็งนรีเวชไทย, มะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย, สมาคมเซลล์วิทยาแห่งประเทศไทย, สถาบันมะเร็งแห่งชาติ.
สฤกพรรณ วิไลลักษณ์ พ.บ., รองศาสตราจารย์
ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล
บรรณาธิการ
สุรางค์ เจียมจรรยา พ.บ.
ศาสตราจารย์, ภาควิชากุมารเวชศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล
- อ่าน 8,091 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้