โรคลมจากความร้อน
ปกติคนเรามีกลไกในการปรับอุณหภูมิของร่างกาย ให้อยู่ประมาณ 37 องศาเซลเซียส (98.6 องศาฟาเรนไฮต์) อยู่ตลอดเวลา ถ้าร่างกายมีการสะสมความ ร้อนมาก เช่น การเผาผลาญอาหาร การเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อร่างกายก็จะกำจัดความร้อนออกจากร่างกายโดย การแผ่รังสีคือ การกระจายความร้อนออกจากร่างกายไปยังอากาศที่อยู่รอบๆ ร่างกายซึ่งเย็นกว่า แต่ถ้าอากาศภายนอกร้อนเกิน 35 องศาเซลเซียส หรือร้อนกว่าอุณหภูมิของร่างกาย ร่างกายก็ไม่สามารถแผ่รังสีความร้อนออกไปข้างนอก
นอกจากนี้ ร่างกายยังสามารถระบายความร้อนออกทางเหงื่อ ซึ่งเป็นกลไกที่เกิดขึ้นเมื่ออากาศภายนอกร้อนกว่าภายในร่างกาย หรือขณะออกกำลังกาย แต่ถ้าอากาศภายนอกมีความชื้นสูง ก็จะทำให้ความสามารถในการระบายความร้อนออกทางเหงื่อนั้นด้อยลงไป ดังนั้น การกำจัดความร้อนของร่างกายจะเป็นไปได้ยาก เมื่ออยู่ในอากาศที่ร้อนและชื้น
โรคลมจากความร้อน อาจเกิดขึ้นได้จากสาเหตุดังนี้
- เกิดจากการเผชิญกับอากาศร้อน เช่น การเกิดคลื่นความร้อนมากกว่า 39.2 องศาเซลเซียส (102.5 องศาฟาเรนไฮต์) ติดต่อกันตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคลมจากความร้อน ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี คนอ้วน จากสาเหตุนี้ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง (เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน โรคคอพอกเป็นพิษ โรคพาร์กินสัน เป็นต้น) รวมทั้งผู้ที่กินยาบางชนิดที่ขัดขวางกลไกการกำจัดความร้อนออกจากร่างกาย (เช่น ยารักษาโรคจิต ยาแก้แพ้ ยา ที่ออกฤทธิ์แอนติโคลิ-เนอร์จิก) ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือเสพยาโคเคน หรือแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ถ้ากลุ่มคนที่มีความเสี่ยงเหล่านี้อยู่ในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศหรือการ ถ่ายเทอากาศไม่สะดวก
- เกิดจากการออกกำลังกายหรือทำงานใช้แรงกายอย่างหนัก ท่ามกลางอากาศที่ร้อนและชื้น หรือในห้องที่ร้อนและปิดมิดชิด ทำให้ร่างกายสร้างความร้อนมากเกินกว่าที่สามารถกำจัดออกไปได้ สาเหตุที่มักพบในคนหนุ่มสาวที่มีร่างกายแข็งแรง เช่น นักกีฬา นักวิ่งไกล คนงาน ทหาร เป็นต้น
สาเหตุดังกล่าวทำให้ร่างกายไม่สามารถกำจัดความร้อน เป็นเหตุให้มีอุณหภูมิแกนของร่างกาย (โดยการวัดทางทวารหนัก) ขึ้นสูงเกิน 41 องศาเซลเซียส (106 องศาฟาเรนไฮต์) ความร้อนจะทำให้อวัยวะต่างๆ ถูกทำลายจนทำหน้าที่ผิดเพี้ยนไป และเกิดปฏิกิริยาการอักเสบของร่างกาย ก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยรุนแรงขึ้นได้
- อ่าน 7,220 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้