นิ่วน้ำดี
ถ้าเป็นนิ่วน้ำดีชนิดไม่มีอาการ คือแพทย์ตรวจพบโดยบังเอิญ (เรียกว่า "silent stone") ก็ไม่จำเป็นต้องทำการรักษาแต่อย่างใด เนื่องเพราะมักเป็นนิ่วก้อนไม่ใหญ่ และอยู่ลึกที่ก้นถุงน้ำดี ซึ่งไม่ก่อเกิดอันตราย ต่อผู้ป่วย แพทย์จะนัดติดตามดูเป็นระยะ จนกว่าจะมีอาการชัดเจน (เช่น ปวดท้อง) จึงค่อยทำการผ่าตัด แต่ถ้าเป็นนิ่วน้ำดีที่มีอาการปวดท้อง หรือจุกแน่นท้อง แพทย์จะทำการผ่าตัดเอาก้อนนิ่วและถุงน้ำดีออก
ในปัจจุบันนิยมใช้กล้องส่องเข้าทางหน้าท้อง แล้วทำการผ่าตัดผ่านกล้องส่อง จะเกิดแผลเล็กน้อย ร่างกายฟื้นตัวเร็ว สามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติภายในเวลาเพียงไม่กี่วันหลังผ่าตัด ผู้ป่วยอาจมีอาการถ่ายเหลวบ่อย ซึ่งจะค่อยๆ ดีขึ้นได้เอง แต่ถ้ายังถ่ายบ่อย แนะนำให้ลดอาหารมันและของเผ็ด กินผักผลไม้ให้มากๆ ในรายที่มีข้อจำกัดไม่สามารถผ่าตัดได้ แพทย์อาจให้กินยาละลายนิ่ว ซึ่งจะได้ผลเฉพาะนิ่วชนิดโคเลสเตอรอลขนาดเล็ก บางรายแพทย์อาจรักษาโดยการใช้คลื่นเสียงความถี่สูงสลายนิ่ว แล้วให้กินยาละลายนิ่วตาม
การวินิจฉัย
ในรายที่สงสัยเป็นนิ่วน้ำดี แพทย์จะทำการตรวจพิเศษได้แก่ การถ่ายภาพด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง หรือ อัลตราซาวนด์ (ultrasound) บางครั้งอาจจำเป็นต้องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือส่องกล้องเข้าไปตรวจภายในช่องท้อง หากสงสัยเป็นโรคแผลเพ็ปติก หรือโรคเกิร์ด อาจต้องส่องกล้องตรวจหลอดอาหาร กระเพาะลำไส้ หากสงสัยเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ อาจทำการตรวจคลื่นหัวใจ นอกจากนี้ อาจทำการตรวจเลือด และอื่นๆ ตามสาเหตุที่สงสัย
- อ่าน 19,377 ครั้ง
พิมพ์หน้านี้