ความดันเลือดสูง
การปฏิบัติตัวของผู้ป่วยถือเป็นหัวใจของการรักษาโรคนี้ควบคู่กับการรักษาของแพทย์ ข้อควรปฏิบัติที่สำคัญ ได้แก่
- งดกินอาหารเค็ม หลีกเลี่ยงอาหารที่ใส่ผงชูรส ผงฟู (เช่น ขนมปัง ขนมสาลี่) และสาร กันบูด (เช่น อาหารสำเร็จรูป) ควรกินอาหารที่มีรสจืด อย่าปรุงรสเค็ม
- งดบุหรี่ เพราะเป็นปัจจัยทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดแข็งและตีบร่วมกับความดันเลือดสูง
- ลดอาหารมัน อาหารหวาน กินผักและผลไม้ให้มากๆ
- ลดน้ำหนัก (ถ้าน้ำหนักเกิน)
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ ในกรณีที่เลี่ยงไม่ได้ ควรจำกัดปริมาณ เช่น วิสกี้ไม่เกินวันละ 60 มิลลิลิตร หรือเบียร์ไม่เกิน 720 มิลลิลิตร หรือไวน์ไม่เกิน 300 มิลลิลิตร
- ออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น เดินเร็ว วิ่งเหยาะ ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ เต้นแอโรบิก รำมวยจีน เป็นต้น อย่าออกกำลังกายที่ต้องมีการเบ่ง (เช่น ยกน้ำหนัก วิดพื้น)
- พักผ่อนให้เพียงพอ และหาวิธีผ่อนคลายความเครียด (วิธีง่ายๆ คือ หมั่นออกกำลังกาย ฝึกใจให้รู้จักปล่อยวาง)
- สำหรับสตรีที่กินยาคุมกำเนิด ถ้าเป็นความดันเลือดสูงควรเลิกกินยานี้ แล้วหันไปคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นแทน
- ติดตามรักษากับแพทย์ (ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน) ตามนัดทุกครั้ง และกินยาตามคำแนะนำของแพทย์เป็นประจำ แม้ว่าจะรู้สึกสบายดีแล้วก็ตาม เพราะความดันเลือดอาจสูงแบบไม่รู้ตัวก็ได้
การปฏิบัติตัวดังกล่าวจะช่วยให้ลดการใช้ยา ลดความดันเลือด และอาจงดยาได้ถ้าเป็นความดันเลือดสูงเล็กน้อย
การป้องกัน
สำหรับคนทั่วไป อาจป้องกันมิให้เป็นโรคความดันเลือดสูง โดยการปฏิบัติตัวดังนี้
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- ออกกำลังกายแบบแอโรบิก (เช่น เดิน เร็ว วิ่งเหยาะ ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ เต้นแอโรบิก) นานครั้งละ 30-45 นาที อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-5 ครั้ง หรือวันเว้นวัน
- ลดปริมาณเกลือโซเดียมที่บริโภค ไม่เกินวันละ 2.4 กรัม (เท่ากับเกลือแกงประมาณ 1 ช้อนชา)
- กินผักและผลไม้ให้มากๆ และลดอาหารพวกไขมันอิ่มตัว
- ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ ในกรณีเลี่ยงไม่ได้ ควรจำกัดปริมาณแอลกอฮอล์ (ดู "การดูแลตนเอง ข้อ 5")
- แม้ว่ารู้สึกสบายดี ก็ควรตรวจเช็กความดันเลือดอย่างน้อย 2 ปีครั้ง (สำหรับคนอายุ 18-35 ปี) หรือปีละครั้ง (สำหรับคนอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป) ถ้าพบว่าเป็นความเลือดสูงจะได้รักษาเสียแต่เนิ่นๆ
- อ่าน 14,559 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้