( ตอนที่ 3 )เริ่มที่ศีรษะ
หลังจากได้เรียนรู้ถึงวิธีการหรืออาจจะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า หลักเบื้องต้นของการเป็นหมอนวด หรือหมอเส้นแล้ว ทีนี้เรามาเริ่มต้นกันได้เลย
ก่อนอื่นขอบอกกล่าวกันเอาไว้ ณ ที่นี้ว่า การเรียนรู้ การนวดในสมัยโบราณนั้น อาจารย์ผู้สอนจะต้องสอนตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นมาถึงศีรษะ ไม่เคยเห็นอาจารย์คนไหนจะสอนจากศีรษะลงไปหาเท้า แม้แต่อาจารย์ของผู้เขียนท่านก็สอนเช่นนั้นเหมือนกัน สอบถามแล้วก็ไม่ได้รับความกระจ่างเพียงแต่บอกว่า ตัวของอาจารย์เองก็เรียนมาอย่างนั้นเหมือนกัน แต่ในที่นี้ผู้เขียนขออนุญาตต่อท่านที่เป็นอาจารย์นวดทั้งหลาย ขอผิดครูสักครั้ง เพราะการที่จะเรียนนวดจากต่ำไปหาสูงนั้นจะดูกระไรอยู่ ก็เลยขอเริ่มต้นตั้งแต่สูงลงไปหาต่ำ คือจากศีรษะลงไปเรื่อยๆ
ขอเริ่มต้นที่ศีรษะหรือเรียกกันง่ายๆว่าหัว หัวคนเราเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่มีความสำคัญและมีส่วนประกอบของเส้นเอ็นและเส้นประสาทมากมาย นอกจากนั้นยังมีหลอดเลือดทั้งใหญ่และเล็กอีกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะหลอดเลือดฝอย หัวของคนเราเปรียบเสมือนกับห้องสั่งการโดยมีสมองเป็นหัวหน้าใหญ่ ทำหน้าที่เป็นผู้สั่งการต่างๆ ให้ร่างกายเป็นผู้ปฏิบัติ ดังนั้นเส้นเอ็นและเส้นประสาทต่างๆเป็นจำนวนมากจึงต้องเชื่อมโยงสัมพันธ์กับสมอง
การนวดควรจะต้องศึกษาถึงส่วนต่างๆที่อยู่บนหัวของเราว่าควรจะนวดส่วนไหน หนักเบาขนาดไหน อาการของโรคควรจะนวดส่วนไหนก่อน หากจะเรียนรู้กันจริงๆแล้วต้องใช้เวลาเรียนกันเป็นปีๆ ไม่ชาจะมาเรียนรู้กันทางหนังสือ จะต้องเรียนรู้กันโดยละเอียดจากอาจารย์หรือจากหมอที่มีความชำนาญโดยเฉพาะ แต่ในที่นี้จะขอกล่าวเพียงย่อๆ เพื่อที่จะให้ผู้อ่านแล้วพอจะมีความรู้ประดับตัวเองบ้างพอสมควร หรืออาจจะนำไปใช้ประโยชน์ต่อคนในครอบครัวหรือคนใกล้ชิด แม้กระทั่งตัวเองได้
ศีรษะ
ขอเริ่มที่ใบหน้าก่อน ใบหน้าเป็นบริเวณที่มีกล้ามเนื้อและเส้นประสาทมากและยังมีต่อมน้ำลายที่ข้างกกหูทั้ง 2ข้าง การนวดหรือการกดจุดที่ใบหน้าจึงต้องกระทำด้วยความละเอียดอ่อน โดยเฉพาะที่ต่อมน้ำลายข้างกกหูทั้ง 2 ข้าง การนวดหรือการกดจุดที่ใบหน้าจึงต้องกระทำด้วยความละเอียดอ่อน โดยเฉพาะที่ต่อมน้ำลายข้างกกหู เพราะอาจจะทำให้ต่อมน้ำลายอักเสบ หรือมาอาการปากเบี้ยวตาปิดไม่ลงได้
หากเกิดอาการปวดตาหรือกระบอกตาทั้ง 2 ข้าง หรือข้างใดข้างหนึ่ง สาเหตุซึ่งมาจากการดูหนังสือนานเกินไป หรือการนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ ให้นวดที่คิ้วทั้ง 2 ข้าง โดยเริ่มต้นที่หัวคิ้วให้กดลงหัวคิ้วทั้งสองแรงและหนักพอประมาณ ให้นิ่งนานไว้ประมาณ 10 วินาที แล้วค่อยๆลากไปตามคิ้วจนจดขมับ เมื่อถึงขมับให้คลึงเบาๆที่ขมับสัก 3-5 รอบ ให้ทำเช่นนี้ประมาณ 3-5 เที่ยว อาการปวดตาก็จะทุเลาดีขึ้น