รายงาน 2008 State of the Future ฉายภาพพลเมืองของโลก 6.677 พันล้านคนมีชะตากรรมแตกต่างกันดังนี้
ในด้านลบ....
- 2.7 พันล้าน เสี่ยงต่อภัยปากกระบอกปืนและอาวุธต่างๆ.
- 1.2 พันล้าน อาศัยในดินแดนที่การเมืองไร้เสถียรภาพ.
- 37 ประเทศ กำลังถูกคุกคามด้วยวิกฤตอาหาร เนื่องจากน้ำมันแพง ปุ๋ยแพง การเก็งกำไร การผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ ผลผลิตการเกษตรตกต่ำในรอบ 25 ปี.
- 3 พันล้าน ใช้ชีวิตโดยอาศัยเงินเพียงวันละไม่เกิน 2 ดอลลาร์สหรัฐ.
- โรคติดเชื้อกำลังคุกคามในลักษณะใหม่โดยโรคที่ดื้อยาสะสมเพิ่มเป็น 20 ชนิด เกิดการระบาดขนานใหญ่ 1,100 ครั้ง.
- 700 ล้านคน กำลังเผชิญกับภัยแล้งน้ำ และจะเพิ่มเป็น 3 พันล้านคนใน 15 ปี ข้างหน้า.
- ฯลฯ
ในด้านบวก....
- 1.4 พันล้าน เข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่นับวันเอื่อยลงเรื่อยๆ อาจเพราะการใช้เพื่อดูวิดีโอซึ่งกินสัดส่วนร้อยละ 60 ของปริมาณการสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต.
- โทรศัพท์มือถือ 3.3 พันล้านเครื่องกำลังเปิดใช้งาน.
- อุบัติการณ์การติดเชื้อเอชไอวีเริ่มลดลงหลังจากถึงจุดสุดยอด ปีละ 3 ล้านคน เมื่อปลายคศ.1990.
- เศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาขยายตัวปีละกว่าร้อยละ 7 ในรอบ 5 ปีมานี้.
- ฯลฯ
คาดว่าอีก 40 ปีข้างหน้า พลเมืองโลกจะเพิ่มจำนวนเป็น 9.2 พันล้านคน แล้วจะถึงจุดสุดยอดที่ 9.8 พันล้านคนหลังจากนั้นไม่นาน ก่อนที่จะลดลงเหลือ 5.5 พันล้านคน ในอีก 90 ปีข้างหน้า และอย่างที่รู้กัน ภาวะชราภาพของพลเมืองกำลังขยายตัวด้วยอัตราที่รวดเร็วในประเทศร่ำรวย ภาวะการชราภาพของพลเมือง ในแผ่นดินจีนอาจส่งผลกระทบกว้างไกลอย่างที่การบริโภคของคนจีนกำลังส่งผลกระทบต่อทั่วโลกในขณะ นี้. ปัจจุบัน ทุกๆ 1 คนที่เกษียณ ในประเทศจีนมีคนวัยทำงานประกบคู่ 6 คน แต่ในอีก 20-40 ปีต่อไป ตัวเลขนี้จะเหลือ 1 ต่อ 2.
ท่ามกลางข่าวร้าย ข่าวดี และการเปลี่ยนแปลงด้านพลเมืองของโลก วิทยาการล้ำยุคกำลังคลี่ตัวทีละน้อยอย่างน่าฉงน ตัวอย่างเช่น
- การให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตรูปแบบใหม่โดยอาศัยการสังเคราะห์ glycerol nucleic acid ที่สร้างจากการรวมตัวโดยอัตโนมัติของโครงสร้างนาโน.
- การพัฒนาหุ่นยนต์ที่สามารถเดินบนสายพานโดยอาศัยคำสั่งจากสมองลิง.
- การพัฒนาแขนกลที่สั่งงานผ่านสมองโดยตรง.
- การให้กำเนิดทารกด้วยการโคลนเซลล์ผิวหนังได้สำเร็จ.
- การริเริ่มพัฒนากระบวนการแยกคาร์บอน จากอากาศด้วยวิธีทางไฟฟ้าเคมี.
- ฯลฯ
รายงานข้างต้นได้จากการระดมสมองผู้เชี่ยวชาญกว่า 2,500 คนทั่วโลก ด้วยหวังจะเป็นเครื่องมือกระตุ้น และเอื้ออำนวยให้เกิดการตัดสินใจและกระทำร่วมกันในขอบเขตทั่วโลก เพื่อพลิกร้ายให้กลายเป็นดี โดยที่เวลากำลังงวดเข้ามาทุกที ดังที่คณะผู้เสนอรายงานเชื่อว่า โลกได้เข้าใกล้จุดพลิกผัน (tipping points) ระหว่างความอยู่รอด กับความล่มสลายของสังคมมนุษย์.