เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา คณะกรรมการอาหารและยาของกระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งว่า บริษัทยาที่นำเข้ายา rofecoxib ได้ขอถอนตำรับยานี้ออกเนื่องจากบริษัทแม่ในสหรัฐอเมริกาได้ขอถอนยานี้ออกจากตลาดทั่วโลกโดยสมัครใจด้วยเหตุผลว่า ยาขนานนี้มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด. วารสารฉบับนี้จึงขอเสนอ website ที่เกี่ยวกับการระวังผลข้างเคียงของยาต่างๆ แห่งหนึ่งคือ www.drugintel.com [3]
ยา rofecoxib จัดอยู่ในกลุ่ม COX-2 inhibitor เป็นยาขนานหนึ่งที่ใช้รักษาโรคกระดูกและข้ออย่างแพร่หลายในบ้านเรา. เว็บไซต์ของยาดังกล่าวได้กล่าวถึงการศึกษาประสิทธิผลของยาขนานนี้ในการป้องกันการเกิดการกลับซ้ำของ colorectal polyp ในผู้ป่วยที่มีประวัติ colorectal adenomas ด้วยวิธี randomized, double-blinded, placebo-controlled trial ในผู้ป่วยหลายพันคนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543. ผลการศึกษาพบว่า หลังจากเริ่มใช้ยาดังกล่าวเป็นเวลา 18 เดือน พบความเสี่ยงสูงของการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือด (heart attack and stroke) เมื่อเทียบกับยา placebo จึงได้รายงานต่อคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐเพื่อนำยาขนานนี้ออกจากตลาด.
ใน website www.drugintel.com [3] เมื่อเข้าไปดู link ที่เกี่ยวกับ Drugs with Controversial Safety Records พบว่ามียาหลายขนาน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือยา rofecoxib ซึ่งพบผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์ถึง 6,994 ครั้ง และอ้างอิงถึง บทความ comparison of upper gastrointestinal toxicity of rofecoxib and naproxen in patients with rheumatoid arthritis. VIGOR Study Group. N Engl J Med 2000 Nov 23;343(21):1520-8 ว่าได้ตีพิมพ์สรุปผลการศึกษายาดังกล่าวเปรียบเทียบกับยา naproxen พบว่ามีอัตราการเกิด severe upper gastrointestinal bleeding น้อยกว่า แต่เกิด myocardial infarct มากกว่า ต่อมา ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 FDA ของสหรัฐอเมริกา จึงได้ให้พิมพ์คำเตือน เพิ่มเติมเกี่ยวกับยาขนานนี้ว่าให้ระมัดระวังในการใช้กับผู้ที่มี ischemic heart disease และในกรณีที่ใช้ยาเป็นระยะเวลานานๆ ซึ่งในที่สุดเมื่อต้นเดือนก่อน บริษัทจึงได้ข้อสรุปชัดเจนว่ายามีผลทำให้เกิดโรคหัวใจได้มากจนเป็นเหตุต้องถอนตำรับยาเพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยรวม.
ในเว็บไซต์แห่งนี้ยังมียาอีกหลายขนานที่แพทย์พึงระวังติดตามเช่น กลุ่ม statin พบว่ายา cerivastatin ก็ต้องถูกถอนออกเมื่อ 3 ปีที่แล้วเนื่องจากมีผู้ป่วยเสียชีวิตถึง 31 รายจากการเกิด rhabdomyolysis. นอกจากนี้ ยังมียาอีกจำนวน มากที่กำลังถูกติดตามหรือควรระมัดระวัง. ท่านสมาชิกที่สนใจก็สามารถเข้าไปดูข้อมูลต่างๆ รวมทั้ง query box สำหรับการ search ได้ด้วย.
ซำแก้ว หวานวารี พ.บ., รองศาสตราจารย์, ศูนย์เวชศาสตร์ชุมชน, คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี, มหาวิทยาลัยมหิดล