บางคนอยู่กับการดื่มเหล้าสูบบุหรี่มาครึ่งค่อนชีวิต จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว การจะตัดขาดในสิ่งที่อยู่กับตัวเองมานาน คงเป็นเรื่องยาก และลำบากแน่นอน แต่ครูบพิตร ศรีแสง กลับหักดิบเหล้าและบุหรี่ทีใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมา ๒๐ กว่าปี ได้อย่างน่าทึ่ง
ครูบพิตร ศรีแสง อายุ ๕๑ ปี ครูโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่งในอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ดื่มเหล้าและสูบบุหรี่มานาน ตั้งแต่ ม.ศ.๕ โดยจะสูบบุหรี่ประมาณวันละ๑ ซอง ถ้าวันไหนที่นั่งดื่มหนักๆ การสูบบุหรี่ก็จะมากกว่า ๑ ซอง เพราะนั่งดื่มไปก็สูบบุหรี่ไปด้วยอย่างต่อเนื่องจนกระทั่ง เมื่อ ๖ ปีที่แล้ว (พ.ศ.๒๕๔๘) ได้ตัดสินใจเลิกสูบบุหรี่ด้วยการหักดิบ และตามด้วยเลิกเหล้า
กำลังใจจากครอบครัว คือสิ่งสำคัญ
วิธีการเลิกบุหรี่และเหล้าได้อย่างเด็ดขาด ครูบพิตรได้กำลังใจจากคนใกล้ตัวอย่างมาก ซึ่งทั้งลูกและภรรยาต่างก็เป็นกำลังใจในการหักดิบครั้งนี้ นอกจากนี้ ช่วงใกล้ๆ ตัดสินใจเลิก เวลาดื่มเหล้าแล้วจะมีผื่นลมพิษขึ้นทั่วร่างกาย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ดื่มเหล้าก็ไม่เคยมีอาการผื่นลมพิษมาก่อน
จากสัญญาณเตือนของผื่นลมพิษขึ้นตามร่างกาย จึงรู้สึกว่าร่างกายตัวเองผิดปกติ และลูกต้องการให้เลิกเหล้า เลิกบุหรี่ รวมถึงกำลังสร้างเนื้อสร้างตัวด้วย
การหักดิบไม่ยากอย่างที่คิด
เริ่มจาก การเลิกบุหรี่ (แต่ยังดื่มเหล้าอยู่) เพราะได้กำลังใจจากลูกและภรรยา จึงช่วยในการเลิกได้มาก (ก่อนหน้านี้เคยทดลองเลิกบุหรี่ด้วยการลดปริมาณการสูบลง ก็ทำได้แค่ ๒-๓ วันเท่านั้น หลายครั้งก็เลิกบุหรี่ไม่ได้สักที) แต่ที่เลิกได้ เพราะการตัดสินใจที่แน่วแน่ของตนเอง ซึ่งก็ได้ผลทันที
หลังจากตัดสินใจเลิก สัปดาห์แรกไม่ค่อยสบายตัว พอผ่านไปสัปดาห์ที่ ๒ สุขภาพดีมาก จากการไม่สูบบุหรี่ ๒ สัปดาห์ ทำให้น้ำหนักตัว จาก ๕๗ กิโลกรัม เพิ่มขึ้นเป็น ๖๔ กิโลกรัม เพราะกินอะไรก็อร่อยทั้งนั้น
หลังจากการเลิกสูบบุหรี่ได้ ๓ เดือนจึง ตัดสินใจเลิกเหล้า เพราะมั่นใจว่าบุหรี่เลิกได้แล้ว ก็น่าจะเลิกเหล้าได้ด้วย เพราะถ้าขืนยังกินเหล้าอยู่กลัวว่าจะกลับไปสูบบุหรี่เหมือนเดิม
วิธีเลิกเหล้าก็ใช้วิธีเดียวกันกับการเลิกบุหรี่ คือหักดิบเหมือนกัน โดยบอกเพื่อนในวงเหล้าว่าจะเลิกเหล้าแล้ว และแยกตัวออกจากสังคมวงเหล้าทันที
เลิกเหล้า เลิกบุหรี่... หันมาออกกำลังกาย
ผลจากการเลิกเหล้าและบุหรี่ คือ เริ่มกินได้มากขึ้น น้ำหนักก็เพิ่มขึ้น จึงหันมาออกกำลังกาย โดยช่วงแรกๆ ใช้วิธีการวิ่งเหยาะๆ วันละประมาณ ๑๐ กิโลเมตร เกิดอาการเจ็บข้อเข่า จึงเปลี่ยนมาขี่จักรยานเสือภูเขา ประมาณ ๑ สัปดาห์ผ่านไปหลังขี่จักรยาน อาการเจ็บข้อเข่าหายไป
ทุกวันนี้ขี่จักรยานออกกำลังกายหลังจากเลิกงาน วันละประมาณ ๓๐ กิโลเมตร โดยขี่จักรยานสัปดาห์ละ ๔ วัน ผลจากการขี่จักรยานออกกำลังกาย เลิกบุหรี่ เลิกเหล้า ผ่านมา ๖ ปีแล้ว บอกเพื่อนฝูงว่า สุขภาพดีกว่าสมัยอายุน้อยๆ เสียอีก รวมไปถึงเวลาทำงาน ทำให้มีสมาธิดีมาก การตัดสินใจปัญหาต่างๆ แก้ปัญหาได้เร็วกว่าเดิม พักผ่อน นอนหลับ ได้อย่างมีความสุข
เมื่อเงินที่เคยลงขวด หันมาลงที่ครอบครัวแทน
เรื่องเศรษฐกิจในครัวเรือนดีขึ้นมาก จากที่เงินเดือนติดลบ (เพราะติดเหล้า ติดบุหรี่) พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะไม่ต้องเอาเงินเดือนไปจ่ายค่าเหล้า ค่าบุหรี่ เพราะถ้าลองคำนวณคร่าวๆ ค่าเหล้าและค่าบุหรี่วันละ ๑๐๐ บาท (อย่างต่ำสุด) เดือนละ ๓,๐๐๐ บาท ตกปีละ ๓๖,๐๐๐ บาท แต่ว่าติดเหล้าและบุหรี่มากกว่า ๒๐ ปี (๓๖,๐๐๐ x ๒๐ = ๗๒๐,๐๐๐ บาท)
หากตัดรายจ่ายค่าเหล้า ค่าบุหรี่ไป ๖ ปี (ปีละ ๓๖,๐๐๐ บาท) จะมีเงินเหลืออยู่เท่าไหร่ ทั้งๆ ที่การเลิกเหล้า เลิกบุหรี่ ง่ายนิดเดียว
อยากให้คนที่ติดเหล้าและบุหรี่ทดลองดู และตั้งใจจริงๆ แล้วจะรู้ว่า คุณทำได้ ขอให้ตั้งใจจริง และตัดสินใจทำด้วยตนเอง เพราะตนเองเคยมาแล้ว... ใครบอกก็ไม่เชื่อ แต่พิสูจน์ด้วยตัวเอง ตัดสินใจด้วยตัวเอง ได้ผลดีแน่นอน รวมกับกำลังใจของคนใกล้ตัว ซึ่งภรรยาและลูกรู้สึกภูมิใจที่สามารถเลิกเหล้า เลิกบุหรี่ได้ ครอบครัวมีความสุข กลายมาเป็นครอบครัวออกกำลังกาย
การเลิกเหล้าเลิกบุหรี่ อาจเป็นสิ่งที่ทำยากสำหรับคนที่ติดมานาน แต่หากมีความมุ่งมั่น ตั้งใจจริง และได้รับกำลังใจจากคนรอบข้างที่ห่วงใย รับรองว่าเลิกได้ไม่ยากอย่างที่ครูบพิตรเคยผ่านมาได้อย่างแน่นอน